ตำแหน่งต่อตำแหน่ง!! เทียบขุมกำลัง เมืองทอง - บุรีรัมย์

ตำแหน่งต่อตำแหน่ง!! เทียบขุมกำลัง เมืองทอง - บุรีรัมย์
ไทยลีก แมตช์เดย์ ที่ 12 ของฤดูกาล 2023-24 มีศึกแห่งศักดิ์ศรีรออยู่ที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี่คือการแข่งขันที่คอลูกหนังชาวสยามประเทศห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะมันเป็นมากกว่า 'ฟุตบอล' เนื่องจากไม่ว่าคราใดที่เผชิญหน้ากัน มักจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอพาคุณไปวิเคราะห์ขุมกำลังของทั้งสองทีมในระบบ 4-3-3 กัน!!

*** เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม เวลา 18.00 น. ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง AISPLAY, TrueVisionsNow และ 3BB GIGA TV ***

___________

[ 1 ] ผู้รักษาประตู

เมืองทอง

ปัจจุบัน ตำแหน่งมือหนึ่งของ เมืองทอง นั้นเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง กรกฏ พิพัฒน์นัดดา กับ โสภณวิชญ์ รักญาติ แต่ตอนนี้รายแรกได้เล่นอย่างต่อเนื่อง ทว่าที่นัดล่าสุดจะไม่มีชื่อนั้นมาจากการป่วย ซึ่งเจ้าตัวคงจะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้งในเกมพบ บุรีรัมย์

จอมหนึบวัย 24 ปี เพิ่งได้เล่นในลีกสูงสุดเป็นปีแรก เพราะก่อนหน้านี้ถูกปล่อยให้ ตราด เอฟซี, เกษตรศาสตร์ เอฟซี และ อุดรธานี เอฟซี ซึ่งเป็นทีมในลีกรองทั้งหมด ดังนั้นการเผชิญหน้าปราสาทสายฟ้าจึงเป็นแมตช์สุดสำคัญของเขาอย่างแท้จริง

บุรีรัมย์

ในวัยใกล้ 40 ทว่าผลงานของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังคงอยู่ในระดับสูง จังหวะผิดพลาดไม่มี อ่านเกมเฉียบขาด และยังเซฟสำคัญช่วยทีมได้หลายต่อหลายหน ซึ่งจุดๆ นี้เอง ทำให้แผงหลัง บุรีรัมย์ รู้สึกอุ่นใจเมื่อมีเขาเป็นปราการด่านสุดท้าย

ประสบการณ์และฝีมือของมือกาวชาวนครราชสีมา ทำให้ปราสาทสายฟ้ายังไม่เพลี่ยงพล้ำต่อทีมใดใน ไทยลีก 2023-24 และมีโอกาสไม่น้อยทีเดียวที่สถิตินี้จะยังอยู่ต่อไป หลังจบการแข่งขันที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม

________

[ 2 ] กองหลัง

เมืองทอง

ด้วยความที่ ฌอง-โคล้ด บีลลง ปราการหลังทีมชาติแคเมอรูน ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ทำให้แนวรับ เมืองทอง ต้องใช้นักเตะไทย ล้วนๆ โดยมี ชาติชาย แสงดาว, ธีรภัทร เลาหบุตร และ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ เป็นสามตัวเลือก

ด้วยความที่ยังอ่อนพรรษา ทำให้หลายๆ เกม กิเลนผยองเป็นฝ่ายพลาดท่าต่อคู่แข่ง ก็เพราะความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งจุดนี้แหละที่เป็น 'จุดอ่อน' ของพวกเขา 

บุรีรัมย์

ปราสาทสายฟ้ายังเป็นทีมที่มีเซนเตอร์ฮาล์ฟชั้นยอดอยู่ในทีมเสมอ แม้ว่าจะเสีย เรบิน ซูลาก้า ที่ย้ายออกไป แต่คนที่มาแทนอย่าง คิม มิน-ฮย็อก ก็ทำผลงานได้น่าพอใจ เคียงข้าง ดิออน คูลส์ แนวรับสารพัดประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับจาก ไทยลีก ว่าเป็น 'ของจริง'

นอกจากนี้ พรรษา เหมวิบูลย์ และ ชิติพัทธ์ เเทนกลาง ก็พร้อมสอดแทรก โดยเฉพาะรายแรกที่สามารถเป็นตัวจริงได้สบายๆ 

การเสียไปเพียง 3 ประตู จาก 9 นัด ในลีก คือตัวเลขที่น้อยที่สุดของซีซั่น 2023-24 คงจะการันตีได้เป็นอย่างดีว่าแผงหลังของ บุรีรัมย์ แน่นหนาเพียงใด

__________

[ 3 ] ฟูลแบ็ก

เมืองทอง

อดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย มีจุดแข็งทางฝั่งขวา เพราะการได้ ทริสต็อง โด กลับมาประจำการนั้นทำให้คู่ต่อสู้ไม่กล้าโจมตีตรงจุดนี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากฟูลแบ็กเชื้อสายฝรั่งเศส โดดเด่นในเรื่องพละกำลังและวินัยในเกมรับ

ตรงกันข้ามกับฟากซ้าย ต้องยอมรับว่า เมืองทอง ยังมีปัญหาที่หนักอึ้งรออยู่ ไม่ว่า สุวิทย์ ไปพรมราช หรือ ณัฐวัฒน์ โทบ้านซ้ง ยังไม่ตอบโจทย์สำหรับกิเลนผยอง 

บุรีรัมย์

ยอดทีมแห่งดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้เล่นให้เลือกใช้มากมายในตำแหน่งนี้ ฝั่งขวานำโดย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ และบางทีก็ขยับ รัตนากร ใหม่คามิ มาเล่นได้

ส่วนฟากซ้าย หากว่า ธีราทร บุญมาทัน ไม่ไปยืนบนแผงมิดฟิลด์ ยังไงเขาก็จองพื้นที่แน่ๆ โดยมี ศศลักษณ์ ไหประโคน เป็นตัวเลือกรองลงมา

อย่างไรก็ตาม คาดว่า บุรีรัมย์ น่าจะส่ง สุพร ประจำการทางด้านขวา ขณะที่กราบซ้าย น่าจะเป็น ศศลักษณ์ แล้วดัน ธีราทร ไปทำเกมร่วมกับ โกรัน เคาซิช

_________

[ 4 ] กองกลาง

เมืองทอง

 นี่คือจุดยุทธศาสตร์ของกิเลนผยอง เพราะพวกเขามีมิดฟิลด์เก่งๆ อยู่หลายราย ไล่ตั้งแต่ วีระเทพ ป้อมพันธ์, พิชา อุทรา, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ รวมไปถึงดาวรุ่งอย่าง ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท กับ คคนะ คำยก

นอกจากรายชื่อข้างบน ยังมี ธีระพล เยาะเย้ย และ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ที่สามารถลงมาเปลี่ยนเกมได้เช่นกัน แม้ชื่อชั้นจะไม่ถึงกับดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ แต่ความเข้าใจเกมของพวกเขานั้นสูงลิ่ว ซึ่งส่งผลให้เกมในแดนกลาง เมืองทอง ไหลลื่นในทุกๆ นัดที่ลงสนาม

บุรีรัมย์

ปัจจุบัน บุรีรัมย์ มักจะใช้ ธีราทร บุญมาทัน จับคู่กับ โกรัน เคาซิช ในแผงมิดฟิลด์ ซึ่งผลงานก็ออกมาดีมากๆ เอาเสียด้วย เนื่องจากสอดประสานกันไหลลื่นลงตัว มีทั้งบู๊และดุดัน แถมยังมีจังหวะผ่านบอลสวยๆ รวมไปถึงสอดไปทำประตูได้อีกต่างหาก

นอกจากสองคนนี้ ปราสาทสายฟ้ายังมี พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ รัตนากร ใหม่คามิ ที่พร้อมลงสนามทุกเมื่อ โดยปล่อยให้กองกลางตัวรุกหรือในบทบาท 'เพลย์เมเกอร์' เป็น ศุภชัย ใจเด็ด คอยทำเกมรุกอยู่ด้านบน หากว่า อาเธอร์ ปาปาส ใช้ระบบ 4-3-3 

______

[ 5 ] ปีก

เมืองทอง

เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของกิเลนผยอง เพราะปีกทั้งสองข้างของพวกเขาจัดจ้านและมีดีแตกต่างกันไป - เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ผู้อยู่ทางขวา ว่องไว, สปีดสูงปรี๊ดและที่สำคัญคือลูกคอรสที่แม่นยำ อีกทั้งยังมักจะสอดไปทำประตูได้บ่อยๆ

ส่วนฟากซ้าย วิลเลียน พ็อพพ์ จองพื้นที่ แต่ด้วยความที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา จังหวะอาจจะยังไม่ลงล็อก ซึ่งถ้าหมอนี่คืนฟอร์มเมื่อไหร่ เขาจะเป็นที่สยดสยองของกองหลังทุกสโมสรในเมืองไทย 

บุรีรัมย์

ปราสาทสายฟ้าในยุคที่ใช้บริการ อาเธอร์ ปาปาส เป็นกุนซือ ไม่นิยมเล่นระบบ 4-3-3 เท่าใดนัก ทำให้พวกเขาไม่ค่อยพึ่งพาผู้เล่นที่เป็นปีกสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังมี นิโคเลา ดูมิตรู แนวรุกทีมชาติอิตาลี ชุดเยาวชนที่ลงสนามบ่อยๆ

นอกจากนี้ หลายๆ ครั้งจะเห็น รามิล เชย์ดาเยฟ ออกด้านข้าง เพื่อเปิดทางให้ ลอนซาน่า ดูมบูญ่า ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า

__________

[ 6 ] ศูนย์หน้า

เมืองทอง

หากเทียบฟอร์มปัจจุบัน ยังไงนาทีนี้ ปรเมศย์ อาจวิไล ต้องเป็นตัวเลือกแรกก่อน สเตฟาน เชโปวิช หัวหอกโควตาต่างชาติแน่นอน เพราะผลงานของกองหน้าทีมชาติไทย กำลังร้อนแรงจริงๆ แข็งแกร่ง, รู้จังหวะของเกม และถ้าสังหารสกอร์เฉียบขาดกว่าที่เป็นอยู่ รับรองเลยว่าเขาจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่

ส่วน เชโปวิช นั้นดูแล้วอาจจะอยู่กับทีมได้ไม่นาน เพราะยังไม่ตอบโจทย์ศูนย์หน้าตัวเป้าเท่าไหร่นัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านเกมในยุโรป โชกโชน เขาก็สามารถเป็นตัวพลิกเกมได้เช่นกัน 

บุรีรัมย์

ลอนซาน่า ดูมบูญ่า คือตัวเลือกแรกในตำแหน่งหัวหอก และถ้าใช้ระบบคู่กองหน้า ขึ้นอยู่ที่ว่า อาเธอร์ ปาปาส จะเลือกใคร ระหว่าง ศุภชัย ใจเด็ด หรือ รามิล เชย์ดาเยฟ โดยมี อาทิตย์ บุตรจินดา ที่รอคอยโอกาสอยู่ข้างสนาม

จริงๆ แล้วตำแหน่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดเด่นของ บุรีรัมย์ เพราะพวกเขามีเพชฌฆาตที่เก่งกาจอยู่ในทีมทุกยุคสมัย ทว่าซีซั่น 2023-24 นั้นผลงานถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน กับการยิงได้เพียง 12 ประตู จาก 9 นัด ซึ่งมันสะท้อนถึงอันดับในตารางคะแนน ว่าเหตุใดปราสาทสายฟ้าจึงอยู่อันดับ 4

__________


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport