แบงค็อก-บุรีรัมย์ สะดุด ลุ้นแชมป์ ไทยลีก สนุกขึ้นหลายเท่า!?

   แค่เปิดฉากมา ผลพวงจากสัปดาห์ทีมชาติก็เห็นทันที เพราะว่าทีมในกลุ่มนำของตารางอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นจ่าฝูง รวมไปถึง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ต่างก็พากันเก็บได้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น

   เริ่มจากปราสาทสายฟ้าที่ฟอร์มช็อตเหลือเชื่อ เพราะนับถึงปัจจุบัน พวกเขาไม่ชนะใครในลีกติดต่อกันเป็นเกมที่ 4 เข้าให้แล้ว โดยเป็นการ 'เสมอ' รวดเดียวเสียด้วย

   เสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2

   เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-0

   เสมอ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-0

   เสมอ ราชบุรี เอฟซี 00

   นอกจากจะมีแค่ 4 คะแนน เท่านั้นจาก 4 เกม บุรีรัมย์ ยังยิงประตูไม่ได้ในลีก 3 นัดติดต่อกัน 

   มันไม่ใช่เรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าของ 'เทรเบิ้ลแชมป์' 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ได้บ่อยๆ เพราะด้วยมาตรฐานของพวกเขา เสมอ 2 แมตช์ต่อๆ กัน ก็ถือว่าแย่แล้ว แต่นี่ซัดไป 4 แถมยังมี เมืองทอง ยูไนเต็ด รอต้อนรับอีกในเกมถัดไป

   ตัวผู้เล่นของปราสาทสายฟ้าก็ไม่ได้ต่างไปจากซีซั่น 2022-23 มากนัก มีเพียง เรบิน ซูลาก้า กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เป็นผู้เล่นตัวหลักสองคนเท่านั้นที่ย้ายออกไป นอกนั้นก็ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมด้วยนักเตะเกรดเอ อย่าง รามิล เชย์ดาเยฟ, คิม มิน-ฮย็อก และ นิโคเลา ดูมิตรู

   มันดูไม่น่าจะทำให้ บุรีรัมย์ ฟอร์มฝืดจริงๆ แต่ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความกระหายที่ลดลง เนื่องจากพวกเขากวาดแชมป์ทุกถ้วยในประเทศมาแล้ว 2 ฤดูกาลติดๆ มันอาจจะทำให้ไฟแห่งผู้ชนะเจือจางลงไปบ้าง

   ขณะเดียวกัน แบงค็อก 'จ่าฝูง' ของซีซั่นปัจจุบันก็ดันมาถูก นครปฐม ยูไนเต็ด ตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลาการแข่งขัน จากที่จะได้ 3 คะแนน กลายเป็นเหลือเพียง 1 แต้ม 

   ตอนนี้ภาพยังไม่ชัดนัก เพราะยังไงพวกเขาก็รั้งตำแหน่งทีมนำต่ออีก 1 สัปดาห์แน่ๆ เพราะยังไม่มีทีมใดทำแต้มไปเทียบเทียมได้ ทว่าถ้ายังคืนฟอร์มเก่งไม่ได้ บางทีบียูอาจจะต้องย้อนมามองผลจากเกมกับเสือป่าราชา

   มันเป็นผลเสมอที่อาจจะส่งผลให้ แบงค็อก ชวดแชมป์เมื่อถึงปลายทาง ซึ่งจากที่ผ่านๆ มา ทีมแข้งเทพก็มักจะพลาดในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลเสียด้วย ดังนั้นช่วงเลกแรก ควรจะโกยคะแนนให้ได้มากที่สุด จะได้ทิ้งห่างคู่แข่งไปไกลๆ เพื่อที่ตัวเองจะขยับใกล้โทรฟี่มากกว่าเดิม

   ธชตวัน ศรีปาน กุนซือของบียูมีประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์อยู่แล้ว ดังนั้นเขาเองก็ต้องพยายามสลับหมุนเวียนผู้เล่นเพื่อให้นักเตะอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุด เนื่องจากยังมี เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขากำลังไปได้สวย

   อย่างไรก็ตาม จากการที่ทั้ง บุรีรัมย์ และ แบงค็อก พากันเก็บได้เพียง 1 แต้ม ทำให้การลุ้นบัลลังก์เบอร์ 1 ของ ไทยลีก กลับมาสนุกขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะอย่าลืมว่านอกจากสองทีมนี้ ยังมี การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ปรารถนาจะครองโทรฟี่ให้ได้

   ตอนนี้คะแนนไม่ได้หนีห่างกันไกลเท่าไหร่ หรือแม้แต่อันดับ 5 อย่าง เชียงราย ก็ตามหลังจ่าฝูงเพียง 8 แต้ม เท่านั้น หากจะมองต่ำลงไป นครปฐม, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ อุทัยธานี เอฟซี ก็ห่าง 10 คะแนน ซึ่งอย่าลืมว่ายังมีเกมให้ชิงชัยกันอีกเกินกว่า 20 แมตช์

   อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล

   ฤดูกาลนี้คงต้องดูกันยาวๆ แล้วล่ะว่าใครจะทำผลงานได้ดีที่สุด ในเมื่อ บุรีรัมย์ สโมสรซึ่งมาตรฐานสูงลิ่วมาโดยตลอด กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตก เช่นเดียวกับ แบงค็อก ที่สะดุดหยุดกึ๊กในสัปดาห์นี้ จนทำให้ 'ความหวัง' ของทีมอื่นๆ เรืองรองขึ้นทันที

   ไทยลีก 2023-24 น่าจะเป็นซีซั่นที่แย่งแชมป์กันสนุกที่สุดในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังสยามประเทศแน่ๆ 

ชิกกะด้าว