การท่าเรือ กับ 'โค้ชอ้น' และอนาคตข้างหน้า

การท่าเรือ กับ 'โค้ชอ้น' และอนาคตข้างหน้า
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค คือหนึ่งในกุนซืออายุน้อยที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนในวงการลูกหนังไทย ถึงฝีมือการทำทีมอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถดึงศักยภาพนักเตะออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่

   ผลงานโดดเด่นของเขาคือการกำกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี ในรั้ว บุณยะจินดา ภายใต้งบประมาณที่ไม่มากนัก แถมสโมสรที่ขึ้นกับเหล่าทัพยังค่อยๆ ร่วงหล่นสู่ลีกรองของสยามประเทศไล่ตั้งแต่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด, ราชนาวี เอฟซี, แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ทว่ามังกรโล่เงินยังคงโลดแล่นบนเวทีสูงสุดอย่างภาคภูมิ

   นักเตะไทย หลายๆ คนก็ถูกปลุกปั้นโดย รังสรรค์ ซึ่งแต่ละรายก็มาจากแข้งโนเนม แต่พอเข้ารับการขัดเกลาจากเทรนเนอร์วัย 44 ปี กลับมุ่งหน้าสู่ทีมชาติแบบสุดเซอร์ไพรส์

   เจนภพ โพธิ์ขี, เฉลิมศักดิ์ อักขี, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ และล่าสุดอย่าง ชานุกูล ก๋ารินทร์ ที่ต่างก็ก้าวเข้าทำเนียบช้างศึกตอนเล่นให้ โปลิศ เทโร ทั้งสิ้น

   นอกจากแข้งในประเทศที่เขาสามารถดึงศักยภาพที่ซุกซ่อนออกมาจนเปล่งประกาย - ผู้เล่นจากต่างแดนหลายต่อหลายราย รังสรรค์ ก็คัดสรรอย่างพิถีพิถัน จนสามารถยกระดับให้กับทีมเป็นอย่างดี

   อิสซัค ฮอนนี่ย์ (กานา), เลสลี่ย์ อะโบลร์ห (กานา), เวลลิงตอน (บราซิล), เดนนิส วิลลานูเอวา (ฟิลิปปินส์) หรือ เชือง อู-กึน (เกาหลีใต้) คือนักเตะค่าเหนื่ยไม่สูงนัก แต่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายให้กับมังกรโล่เงินแบบเต็มเหนี่ยว

   ด้วยเม็ดเงินที่จำกัด ทว่า รังสรรค์ กลับสร้างสรรค์ โปลิศ เทโร ได้อย่างสนุกสนาน หากย้อนกลับไปในวันแรกที่เขาเข้ามาคุมทีมในฐานะกุนซือรักษาการ กระทั่งถึงวันอำลา ต้องยอมรับว่าฐานแฟนๆ ของสโมสรมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

   สไตล์การทำทีมของเฮดโค้ชมาดเนี๊ยบนั้นเน้นไปที่ 'ทีมเวิร์ค' เขาสร้างฟุตบอลด้วยระบบ แท็กติกไม่ได้หวังพึ่งใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่ทุกคนมีหน้าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน

   วัน ฟอร์ ออล ไม่ใช่ ออล ฟอร์ วัน 

   'ทีม' มาก่อนตัวบุคคล ซึ่งนั่นเองที่ทำให้แฟนๆ ต่างก็ค่อยๆ เข้ามาเป็นกำลังใจให้นักเตะที่ทุ่มเทเล่นเพื่อโลโก้บนอกข้างซ้ายแบบเต็มร้อยทุกๆ เกมที่ลงสนาม

   มันคือพลังของ 'ศรัทธา' ที่ผู้คนมอบให้โดยไม่เสแสร้ง และมันเกิดขึ้นโดยผู้ชายที่ชื่อ รังสรรค์ นี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว

   อย่างไรก็ตาม การก้าวออกจากรั้ว บุณยะจินดา พร้อมกับโยกมาเป็นกุนซือคนใหม่ให้กับ การท่าเรือ เอฟซี นั้นยังมีเครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเริ่มว่าเขาจะนำพาสิงห์เจ้าท่าไปได้ไกลเพียงใด

   อย่าลืมว่านี่คือการทำทีมที่ต่างกันสุดขั้ว 

   โปลิศ เทโร เขาไม่ได้มีงบประมาณมากมายนัก แถมนักเตะก็ต้องค่อยๆ ปั้น พวกที่มีชื่อหน่อย ก็เป็นผู้เล่นที่อยู่ในช่วงปลายการค้าแข้ง

   กับ การท่าเรือ เขามีทรัพยากรให้เลือกใช้แบบเต็มเหนี่ยว ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงกองหน้าแทบจะแบ่งได้เป็น 2 ทีม สบายๆ แต่บรรดาซูเปอร์สตาร์ล่ะ - รังสรรค์ จะควบคุมได้อยู่หมัดหรือไม่

   การโยกสู่ย่านคลองเตย คือสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเทรนเนอร์หนุ่มคนนี้จริงๆ ซึ่งตัวเขาเองก็คงจะตื่นเต้นกับภารกิจใหม่ไม่น้อย

   ด้วยความที่เป็นรุ่นพี่ทีมชาติไทย อีกทั้งยังวางตัวได้ดีมาแต่ไหนแต่ไร รังสรรค์ คงไม่ต้องปรับตัวมากนัก อีกทั้งการที่เขามีทั้งพระเดชและพระคุณ รู้จักผ่านหนัก-เบา ตรงจุดนี้น่าจะทำให้ การท่าเรือ มีความเป็นเอกภาพมากยิ่งขึ้น

   สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้คงเป็นเรื่องของแท็กติกการเล่น เพราะตอนอยู่ โปลิศ เทโร เขาปรับเปลี่ยนแผนตามคู่ต่อสู้ในแต่ละเกม คือยืดหยุ่นทุกๆ นัด ขึ้นอยู่กับว่าฝั่งตรงข้ามจะเป็นทีมใด

   แต่กับสิงห์เจ้าท่าคงจะทำแบบนั้นได้แค่บางเกมเท่านั้น เพราะที่นี่เต็มไปด้วย 'ความคาดหวัง' หากจะชนะ ต้องชนะแบบมีสไตล์ และถึงจะแพ้ ก็ต้องแพ้แบบสู้จริงๆ เพราะแฟนๆ ของที่นี่พร้อมจะเคียงข้างเสมอ ขอเพียงแค่นักเตะเล่นด้วยใจก็พอ

   มันคือโจทย์ข้อใหญ่ที่ รังสรรค์ เองก็คงรู้ดีว่าจะทำเช่นไร ซึ่งหลังจากสัปดาห์ทีมชาติสิ้นสุดลง เราคงจะได้เห็น การท่าเรือ โฉมใหม่แน่ๆ

   รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง ประโยคแรกจากเพลง 'เล่นของสูง' ของ บิ๊กแอส ลอยมาแต่ไกล

   รังสรรค์ เองก็คงรู้ว่ามา การท่าเรือ มันเสี่ยงแน่ แต่เขาเองก็คงอยากจะลองให้รู้สักตั้ง เพราะถ้าทำให้ทีมพุ่งชนความสำเร็จ เจ้าตัวก็จะยกระดับฝีมือไปอีกขั้น และด้วยอายุเพียงเท่านี้ เส้นทางโค้ชยังอีกยาวไกล 

   แต่ถ้ายังไม่สามารถนำพาสิงห์เจ้าท่าไปสู่เป้าหมาย ก็คงต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง 

   การท่าเรือ กับ 'โค้ชอ้น' รังสรรค์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าสนใจของฤดูกาล 2023-24 ว่าบทสรุปจะจบลงเช่นใด 

ชิกกะด้าว



ที่มาของภาพ : ภาพข่าวจาก Facebook การท่าเรือ เอฟซี Port FC
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport