แบงค็อก ไหลลื่นลงตัว, ปฏิวัติ ว่าที่มือหนึ่งทีมชาติไทย, สุพรรณ ต้องตัวจริงยาวๆ, ความกระหายของ บุรีรัมย์ ลดลงหรือเปล่า, ขาด ซูลาก้า ส่งผลชัดเจน
และนี่คือ 5 ข้อที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!
[ 1 ] แบงค็อก ไหลลื่นลงตัว
ก่อนเริ่มเกม สื่อทุกสำนัก รวมไปถึงผู้คร่ำหวอดในวงการลูกหนังไทย ต่างเทคะแนนไปให้ บุรีรัมย์ กันทั้งหมด โทษฐานที่มาตรฐานสูง และยังมีการเสริมทัพที่น่าสนใจ
ดังนั้น แบงค็อก ดูจะเป็นรองอยู่พอสมควร แถมสถิติจากฤดูกาล 2022-23 ที่พบกัน 4 เกม และพวกเขาก็พลาดท่าต่อปราสาทสายฟ้าไปถึง 3 นัด นั่นจึงทำให้ประตูชนะดูจะถูกปิดไปทีเดียว
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและความมั่นใจของ บุรีรัมย์ ถูกทลายด้วย "ทีมเวิร์ค" ของบียูที่ดูเข้าขารู้ใจ ทั้งๆ ที่ขาด 3 คีย์แมนจากซีซั่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิ่ล ฟัลเคสการ์ด และ เฮแบร์ตี้ ที่ย้ายออกไป ส่วน วานแดร์ ลุยซ์ ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บ แต่รูปเกมของแข้งเทพนั้นยังคงไหลลื่น ซึ่งนั่นมาจากการที่ทีมชุดนี้เล่นด้วยกันมานานพอสมควร
แบงค็อก ไม่ใช่ทีมที่เปิดหน้าบุกแหลกเหมือนยุคที่มี อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เป็นเฮดโค้ช ซึ่งทำให้มีความแน่นอนเข้ามาแทนที่ แต่สิ่งที่เด่นชัดขึ้นมาคือจังหวะเข้าทำที่เฉียบขาด ซึ่งจุดนี้แหละที่นำมาซึ่ง 2 ประตู ของ วิลเลน โมต้า และ มะห์มู๊ด ดาฮัดดา
แม้จะเสริมผู้เล่นใหม่มาแค่ 3 ราย แต่ถ้ายังรักษามาตรฐานที่แสดงให้เห็นในเกม ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2023 เอาไว้ได้ระยะยาว รับประกันเลยว่าพวกเขาจะหยิบถ้วยใดถ้วยหนึ่งมาครองได้ไม่ยาก
[ 2 ] ปฏิวัติ ว่าที่มือหนึ่งทีมชาติไทย
การโบกมืออำลา ทรู สเตเดี้ยม ของ ฟัลเคสการ์ด ทำให้เกมรับของ แบงค็อก ต้องสั่นระรัว เนื่องจากผู้รักษาประตูทีมชาติฟิลิปปินส์ นั้นสร้างมาตรฐานการเล่นไว้สูงลิบลิ่ว แถมซีซั่นล่าสุดเพิ่งจะทำไปถึง 14 คลีนชีต มากที่สุดใน ไทยลีก อีกต่างหาก
จอมหนึบเชื้อสายเดนมาร์ก พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาก็ไม่เป็นสองรองใคร กับผลงานตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาลในสยามประเทศ
พอไม่มือมือหนึ่งที่สร้างความอุ่นใจมาหลายปี แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลกระทบต่อแนวรับที่จะต้องปรับตัวกับผู้มาแทนที่
ปฏิวัติ คำไหม คือนายทวารที่มาพร้อมกับความคาดหวัง เพราะเจ้าของพื้นที่คนเก่าดันสร้างผลงานไว้แบบไร้ที่ติ
ทว่าจังหวะเซฟสำคัญในครึ่งแรกที่ทะยานปัดลูกเตะมุมโค้งๆ ของ ธีราทร บุญมาทัน บวกกับการลอยตัวไปเซฟจังหวะสับไกจาก พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี บ่งชี้ได้ชัดเจนถึงความยอดเยี่ยมของผู้รักษาประตูวัย 28 ปี
เท่านั้นไม่พอในครึ่งหลังที่ บุรีรัมย์ เดินหน้าใส่เกียร์ 5 ดาหน้าบุก และก็มีโอกาสยิงหลายต่อหลายหน แต่ก็ไม่อาจส่งบอลผ่านมือ ปฏิวัติ ได้เลย เนื่องด้วยการยืนตำแหน่งที่ดีของเขานั่นเอง
จากผลงานชิ้นโบแดงแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าแนวรับของ แบงค็อก คงไม่ต้องหวั่นไหวอีกต่อไป เพราะคนมาแทน ฟัลเคสการ์ด ก็เก่งกาจไม่แพ้กัน และถ้าสามารถรักษาฟอร์มไว้ได้ "มือ 1" ทีมชาติไทย ก็อยู่แค่เอื้อมเท่านั้นเอง
[ 3 ] สุพรรณ ต้องตัวจริงยาวๆ
นับตั้งแต่ย้ายจาก สุพรรณบุรี เอฟซี มาร่วมทัพ แบงค็อก ในเลกที่สองของฤดูกาล 2021-22 สุพรรณ ทองสงค์ ก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของบียูได้เลย ซึ่งนั่นมาจากการที่แข้งเทพมี เอแวร์ตอน กับ มานูเอล ทอม บีห์ร เป็นคู่ขาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 28 ปี ยังรอคอยจังหวะที่ตนเองจะได้ลงสนามด้วยใจจดจ่อ เขาฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ "โอกาส" ที่ไม่รู้ว่าจะมีมาเมื่อไหร่
วันแล้ว-วันเล่า สุพรรณ ได้ลงเล่นอยู่บ้าง แต่ยังขาดความต่อเนื่อง ซึ่งนั่นย่อมส่งผลกระทบต่อฟอร์มแน่ๆ เนื่องจากการพัฒนานั้นต้องการเกมการแข่งขันจริงเพื่อลับแข้งให้แก่กล้า
ทว่าเด็กหนุ่มจากจังหวัดสุพรรณบุรี ก็ไม่เคยย่อท้อ หากแต่อดทนและสู้ต่อด้วยหัวใจที่กร้าวแกร่ง และเกม ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ กับ บุรีรัมย์ เขาก็เปล่งประกายด้วยผลงานการบล็อกลูกยิง รวมถึงการสกัดสำคัญได้หลายต่อหลายหน
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกมรุกของปราสาทสายฟ้าสะดุด ก็เพราะ สุพรรณ ดักจังหวะได้ตลอดนั่นเอง
ทอม บีร์ห มีความแข็งแกร่งตามสไตล์ผู้เล่นลูกครึ่งก็จริง แต่ปราการหลังเชื้อสายเยอรมัน ก็มักจะก่อความผิดพลาดให้เห็นอยู่บ่อยๆ หากว่า ธชตวัน ศรีปาน เปลี่ยนใจมาใช้ สุพรรณ ยืนเป็นคู่ขากับ เอแวร์ตอน บางทีอาจจะส่งผลดีในระยะยาวก็เป็นได้
[ 4 ] ความกระหายของ บุรีรัมย์ ลดลงหรือเปล่า
ด้วยความที่ฟาด 'เทรเบิ้ลแชมป์' มาแล้ว 2 ฤดูกาลติดต่อกัน มันย่อมทำให้ความทะเยอทะยานลดน้อยลงไป เพราะทุกถ้วยในประเทศ นักเตะ บุรีรัมย์ ชุดนี้คว้าไขว่คว้ามาครบถ้วน
ว่าแล้วพวกเขาจึงทำการนำเข้าผู้เล่นใหม่มาหลายราย เพื่อเติมเชื้อไฟแห่งชัยชนะไม่ให้มอดหมดลง
สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, ลีออน เจมส์, คิม มิน-ฮย็อค, นิโคเลา ดิมิตรู และศูนย์หน้าค่าเหนื่อยแพงที่สุดใน ไทยลีก อย่าง รามิล เชย์ดาเยฟ ถูกนำเข้ามาต่อเติมความแข็งแกร่ง
ทว่าจากรูปเกมที่ออกมา กลายเป็นว่า บุรีรัมย์ ดูมีความเนือยอย่างเห็นได้ชัด จังหวะเพรสซิ่งที่เคยเป็นจุดเด่นหายไปแบบไร้ร่องรอย อาจจะต้องชื่นชมทาง แบงค็อก ด้วยเช่นกัน ที่วางแท็กติกได้ดีจนปิดจุดแข็งของคู่แข่งได้สำเร็จ แต่ถ้าเป็นปราสาทสายฟ้าเวอร์ชั่นเก่า พวกเขาน่าจะกระเหี้ยนกระหือรือมากกว่านี้
ไม่ใช่เรื่องผิดที่ความกระหายต่อชัยชนะจะลดถอยลงไป เพราะการได้แชมป์ติดๆ กันมาตลอด มันทำให้ไฟมอดลงไปบ้าง และพะยี่ห้อ บุรีรัมย์ ล้มเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวก็ลุกกลับมาใหม่ได้ยิ่งใหญ่เสมอ
แต่การบ้านต่อจากนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ จะต้องเร่งเค้นความมั่นใจของลูกทีมโดยไว เพราะถ้ายังฟอร์มไม่กระเตื้อง มันจะส่งผลต่อเป้าหมายใหญ่ของพวกเขา อย่างการเข้าสู่รอบลึกๆ ของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่ๆ
[ 5 ] ขาด ซูลา ก้า ส่งผลชัดเจน
บุรีรัมย์ เป็นทีมที่ไม่เคยเว้นว่างผู้เล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟชั้นยอด ก่อนหน้านี้พวกเขามีทั้ง ออสมาร์ อีบันเญส, อันเดรส ตูเญซ และมาถึงรายล่าสุดอย่าง เรบิน ซูลาก้า
ปราสาทสายฟ้าร้างลาความสำเร็จในฤดูกาล 2019 ต่อด้วย 2020-21 ซึ่งถือเป็นสองซีซั่นติดๆ ทีถ้วยแชมป์ไม่เฉียดใกล้ ช้าง อารีน่า และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะไม่มีปราการหลังตัวกลางที่ไว้ใจได้
กระทั่งการมาของ ซูลาก้า นั่นแหละที่ทำให้ทุกปัญหาจบลง ด้วยความแข็งแกร่ง, อ่านเกมดี, เข้าสกัดแม่นยำ, เป็นผู้นำในแผงหลังและยังแผ่ความเก่งกาจไปถึงคนอื่นๆ อีกต่างหาก
มันจึงเป็นที่มาของ "เทรเบิ้ลแชมป์" 2 ฤดูกาลล่าสุดติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอิรัก ได้อำลาทีมไปหลังจบซีซั่น 2022-23 พร้อมกับทิ้งรอยโหว่ไว้รูเบ้อเร่อ
แม้จะได้ คิม มิน-ฮย็อค เข้ามาแทนที่ แต่กองหลังเกาหลีใต้ ด็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวและพิสูจน์ตนเองในลีกสยามประเทศเช่นกัน ซึ่งจากเกม ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ที่แพ้ แบงค็อก 0-2 นั้นเห็นได้ชัดว่าเขายังมีหลายๆ จังหวะที่ต้องจูนกับเพื่อนร่วมทีม
ดังนั้นนี่คือ "โจทย์ใหญ่" ที่ บุรีรัมย์ และ มาซาทาดะ อิชิอิ เองก็คงจะรู้ดี เจอทีมเล็กถึงระดับกลางน่ะปัญหาไม่เกิดแน่ แต่ถ้าเผชิญหน้ากับคู่แข่งเลเวลเดียวกันหรือเหนือกว่าอย่างถ้วยเอเชีย อันนี้แหละคือสิ่งที่ปราสาทสายฟ้าต้องพึงระวังให้ดี
ขาด ซูลา ก้า ส่งผลชัดเจนจริงๆ