เบอร์ 10 เมืองทอง!?

[ 1 ] ดอส์โซ มามาดู อยู่กับ เมืองทอง: 2007

   ขวบปีแรกที่ เมืองทอง ส่งทีมเข้าแข่งขัน ดิวิชั่น 2  (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน) พวกเขาใช้โควตาต่างชาติเป็นไอวอรี่โคสต์ แบบยกเซ็ต นำโดย โฟฟาน่า ชิค อาบิบ, โชแอล จูเนียร์ โกคู, ดิยง อุสมัน, ฌอง บัปติสเต้ อากัสซู, มุสซ่า ซาอิบ และ ดอส์โซ มามาดู 

   ในจำนวน 6 คน ข้างต้น มามาดู  ได้กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของกิเลนผยองที่สวมใส่หมายเลข 10 

   อย่างไรก็ตาม เขาอาจจะมาในโควตาต่างชาติ ทว่าไม่ใช่ตัวหลักของยอดทีมแห่งแจ้งวัฒนะ เพราะแผงมิดฟิลด์ ณ ขณะนั้นใช้บริการนักเตะไทย เป็นแกนกลาง ทว่าแข้งชาวไอวอรี่โคสต์ ก็มีส่วนกับทีมชุดแชมป์ ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 2007 กระทั่งหมดสัญญากับสโมสร

[ 2 ] เทวา ศรีธรรมานุสาร อยู่กับ เมืองทอง: 2008

   เด็กหนุ่มชาวนครราชสีมา ผู้โด่งดังมากับโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ยุคเฟื่องฟู ทั้งยังมีดีกรีทีมชาติไทย ชุดเยาวชนพ่วงท้าย ก่อนจะเริ่มต้นค้าแข้งที่สโมสร อุดรธานี สมัยยังเป็น โปรวินเชียล ลีก (ประมาณปี 2002) 

   เทวา คือหนึ่งในนักเตะไทย ที่ไปผจญภัยที่ในเล่นลีกอินโดนีเซีย กับ เปอร์ซิกู กูดู๊ส โดยตอนนั้นมี  อานนท์ นานอก เป็นเเพื่อนร่วมก๊วนการค้าแข้ง ก่อนจะกลับมาเล่นให้มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ต่อด้วย ธนาคารกรุงเทพ

   กระทั่งปี 2008 เทวา ย้ายสู่ เมืองทอง พร้อมกับสวมใส่เสื้อหมายเลข 10 และได้รับบทบาทกัปตันทีม อีกทั้งโทษฐานที่เล่นตำแหน่งเพลย์เมเกอร์ โดยสไตล์การเล่นของเขา หากเปรียบเทียบในปัจจุบันจะละม้ายคล้ายคลึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง รวมทั้งทีเด็ดในการจ่ายแบบคิลเลอร์พาส

   มิดฟิลด์ตัวรุกคนนี้พา เมืองทอง คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2008 (ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน) ก่อนจะย้ายไปต่ออีกหลายสโมสร กระทั่งไปแขวนสตั๊ดกับ ปากน้ำโพ เอ็นเอสอาร์ยู ในวัย 31 ปี

[ 3 ] ธีรศิลป์ แดงดา อยู่กับ เมืองทอง: 2007, 2009-2019 

   แรกเริ่มและเดิมที ธีรศิลป์ ในวัย 18 (ปี 2007) นั้นสวมใส่หมายเลข 29 ให้กับ เมืองทอง ซึ่งเจ้าตัวเล่นให้กิเลนผยองตั้งแต่ยังอยู่ใน ดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน) โดยคาบเกี่ยวระหว่างที่เขาได้โอกาสไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร่วมกับ สุรีย์ สุขะ และ เกียรติประวุฒิ สายแวว

   พลันที่ภารกิจผจญภัยในยุโรป เสร็จสิ้น เขากลับสู่รั้ว ธันเดอร์โดม ในปี 2009 พร้อมกับรับเบอร์ 10 ไปครองแบบยาวๆ แต่ก็มีช่วงลัดฟ้าสู่การค้าแข้งในสเปน (อัลเมเรีย 2014) และญี่ปุ่น ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ (2018) 

   แม้จะไปๆ มาๆ ตามนโยบายกิเลนผยองที่ต้องการผลักดันนักเตะไทย ให้โบยบินสู่อีกระดับ ทว่าถึงอย่างนั้น ธีรศิลป์ ก็มีส่วนกับแชมป์ ไทยลีก ทั้ง 4 สมัยของ เมืองทอง โดยที่ตนเองคว้า 'ดาวซัลโว' ไปในฤดูกาล 2012 อีกด้วย

   เขาแยกทางกับยักษ์ใหญ่แห่งย่านแจ้งวัฒนะในปี 2020 หลังถูก ชิมิซึ เอส-พัลส์ ซื้อตัวไปร่วมทัพ กระทั่งปัจจุบันก็ย้ายกลับมาค้าแข้งในสยามประเทศกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด โดยยังใช้เบอร์ 10 เช่นเคย

[ 4 ] ซาร์ดอร์ มีร์ซาร์เยฟ อยู่กับ เมืองทอง: 2020-2023

   ตอนเล่นให้ โลโคโมทีฟ ทาชเคนท์ สโมสรในลีกสูงสุดอุซเบกิสถาน - มีร์ซาเยฟ มาพร้อมหมายเลข 8 แปะข้างหลัง กระทั่งการย้ายมา เมืองทอง ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะ ก่อนเปิดฤดูกาล 2020-21 นั่นแหละที่เขาได้รับมอบเบอร์ 10 ต่อจาก ธีรศิลป์ แดงดา

   แน่นอนว่าการใส่หมายเลขนี้ย่อมมาพร้อม 'ความคาดหวัง' ที่สูงลิ่ว ซึ่งช่วงแรกที่เขาเล่นในเมืองไทย นั้นถูกวิจารณ์พอสมควรว่าไม่น่าจะไปรอด แต่นั่นก็มาจากการที่เขาแทบไม่มีเวลาได้ปรับตัวกับฟุตบอลแดนสยามเลย

   อย่างไรก็ตาม พออะไรต่างๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง มีร์ซาเยฟ ก็ค่อยๆ สำแดงเดชทีละนิด จนกลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีมในซีซั่นแรกที่ย้ายมา และก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่ทำให้ เมืองทอง จบอันดับ 4 ของตาราง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

   ทว่าในวัย 32 และกิเลนผยองก็อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายผู้เล่น ทำให้ล่าสุดทั้งสองฝ่ายต้องแยกทางกัน โดยปัจจุบันเพลย์เมเกอร์ทีมชาติอุซเบกิสถาน นั้นกลับไปบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

[ 5 ] ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร อยู่กับ เมืองทอง: 2023

    เจ้าของ 'หมายเลข 10' คนล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ของ เมืองทอง กับการเปิดตัวที่สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งสยามประเทศ และสิ้นสุดการรอคอยที่สาวกกิเลนผยองได้รับข่าวสารจากสื่อต่างๆ กระทั่งแถลงอย่างเป็นทางการสักที

   ธนวัฒน์ ย้ายมาพร้อมดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส รุ่นอายุไม่เกิน 16 และ 17 ปี ก่อนจะย้ายไป เลสเตอร์ แล้วมาจอดที่สถานี ธันเดอร์โดม 

   มิดฟิลด์วัย 23 ปี โชว์ให้เห็นถึงความเก่งกาจบ้างแล้วในนามทัพช้างศึก ทั้งชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 รวมไปถึงชุดแชมป์ อาเซียน คัพ 2020 ซึ่งทุกเสียงประสานไปทางเดียวว่าหมอนี่คือนักเตะประเภท 'ของจริง'

   อย่างไรก็ตาม การย้ายสู่ ไทยลีก ยังต้องรอดูว่า ธนวัฒน์ จะสามารถปรับตัวได้ไวเพียงใด และที่สำคัญ 'ความกดดัน' ภายใต้หมายเลข 10 นี่แหละที่อาจจะทำให้เขาต้องคิดแบบถี่ถ้วน ก่อนที่จะปล่อยบอลออกจากเท้า

   แต่เชื่อว่าด้วยฝีเท้าและความสามารถที่มีอยู่ เขาคงจะแบกรับความคาดหวังไว้ได้แน่ ทีนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าตัวจะพา เมืองทอง กลับมาประสบความสำเร็จเหมือนเมื่อครั้งวันวานได้เมื่อไหร่ เท่านั้นเอง