"บิ๊กฮั่น"จี้ถามต่อเนื่อง เงิน500ล้านบ.ที่ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ให้ส.บอลฯ ตอนนี้อยู่ไหน

"บิ๊กฮั่น"จี้ถามต่อเนื่อง เงิน500ล้านบ.ที่ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ให้ส.บอลฯ ตอนนี้อยู่ไหน
"บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสรลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกมาถาม เงิน 500 ล้านบาทที่ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ให้ ส.บอลฯ ตอนนี้อยู่ที่ไหน พร้อมตั้งคำถามจี้ใจดำ สัญญาของผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ กับ ส.บอลฯ เป็นโมฆะไหม และถ้าหากแยกลีก ต้องชดเชยกันหรือไม่

"บิ๊กฮั่น"กัดไม่ปล่อย จี้ถาม เงิน 500 ล้านบาทที่ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ ส.บอลฯ ตอนนี้อยู่ไหน ตามสัดส่วน 75 เปอร์เซนต์ใช้กับทีมชาติ แต่ชุดใหญ่มี มาดามแป้ง ซัพพอร์ต ส่วน ยู17 มีเงินAFCมาช่วยอีก เงินยิ่งเหลือเยอะ ส่วนสิ่งที่ย้อนแย้งคือ 25 เปอร์เซนต์ของก้อน500ที่นำมาใช้ลีก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่แค่ 125 ล้านบาท เพราะค่าใช้จ่ายพื้นฐานรวม 294.6 ล้าน พร้อมตั้งคำถามจี้ใจดำ สัญญาของผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ กับ ส.บอลฯ ต้องโมฆะไหม ถ้าแยกลีก และต้องชดเชยไหม ด้าน แพลนบี ที่เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ ส.บอลฯ ชี้แจง เงินส่วน 500 ล้านบาท ไม่ต้องชี้แจงว่าต้องเอาไปทำอะไร และองค์กรก็ไม่ได้มีส่วนต้องรับผิดชอบเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอด คนที่ต้องรับผิดชอบคือ ส.บอล  

กลายเป็นมหากาพย์ที่ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไรกับการที่ลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยในฤดูกาล 2023-24 กลายเป็น 0 บาท เมื่อ ส.บอล เปิดเผยว่า มีผู้ยื่นประมูลเข้ามาที่ 50 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ต้องปฎิเสธไป พร้อมกับประเด็นที่จะแยกการแข่งขันไทยลีก2023-24 ออกจากอันเดอร์ของ ส.บอลฯ โดยเป็นการตั้งเป็นบริษัทใหม่ มีผู้ถือหุ้น 17 หุ้น เพื่อที่จะได้บริหารจัดการเรื่องสิทธิประโยชน์ภาพรวมลีกกันเองซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะตกผลึกในการประชุมกับสภากรรมการ ส.บอล ในวันจันทร์ที่ 3 ก.ค.66 อีกครั้ง 

ประเด็นดังกล่าวเป็นที่ถูกพูดถึงกันว่า การแยกลีกออกมาบริหารจัดการกันเอง เป็นการลอยแพสโมสร และเป็นการช่วยเหลือบริษัทที่เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของ ส.บอลฯ ที่จะได้ไม่ต้องมาบริหารจัดการในการหาเงินสนับสนุน ส.บอลฯ ซึ่งเฉลี่ยตกปีละ 500 ล้านบาท 

เรื่องนี้ทาง แพลนบี ที่เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ ได้มีการให้ข้อมูลกับสื่อว่า ทาง แพลนบี ไม่ได้มีส่วนการรับผิดชอบการหาเงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจากไทยลีกและทีมชาติไทย โดยมีหน้าที่หลัก คือหาเงินสปอนเซอร์เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถหาเงินสนับสนุนเข้าสมาคมฯ ได้ตามเป้าขั้นต่ำที่ตกลงกันไว้ตามสัญญา คือปีละ 400 ล้านบาท (แบ่งเป็นให้ทีมชาติ 75% สโมสรอีก 25%)  และที่ผ่านมาก็ทำได้เกินเป้ามาตลอด (เฉลี่ยปีละ 500-600 ล้านบาท) ซึ่งทุกดีลที่มีการเจรจาและขายโฆษณาได้สำเร็จ ทาง แพลน บี จะได้ค่า เอเจนซี่ (Agency Fee) หรือว่าค่า คอมมิชชั่น (Commission) ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการขาย ดีลละ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 

นั่นหมายความว่าเงินในส่วนที่ฝั่งของ แพลนบี มีหน้าที่หาเข้ามาก็ถูกต้องตามเงื่อนไขของสัญญาที่ทำไว้กับสมาคมฯ และที่ผ่านมาเรื่องค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่กำลังมีปัญหาในเวลานี้ ตัวเลขราคาค่าลิขสิทธิ์เป็นหน้าที่ส่วนของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ บ.ไทยลีก ต้องไปตกลงกับสปอนเซอร์ในส่วนนั้นเอง ทาง แพลน บี จะมีหน้าที่เพียงแค่ช่วยในเรื่องของการขายเท่านั้น

สำหรับ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)  ได้เป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกระยะเวลา  4  ปี นับตั้งแต่ปี 2016-2020 (พ.ศ.2559-2563) และได้สัญญายาวต่อเนื่องอีก 8 ปี คือในปี 2017-2028 (พ.ศ. 2564 - 2571) ทำให้รวมระยะเวลาที่ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) จะบริหารลิขสิทธิ์สมาคมลูกหนังไทย ยาวนานถึง 12 ปี

อย่างไรก็ตาม "บิ๊กฮั่น"มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษา ลีโอ เชียงราย ได้โต้แย้งผ่านแฟนเพจ "Miti Tiyapairat" โดยโพสต์ข้อความว่า 

"ก่อนจะถึงวันที่ 3 กรกฎาคม วันที่ฟุตบอลไทยจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากที่เมื่ิอวานผมได้โพสท์ถึงบรรยากาศ คำพูดประโยคสำคัญ รวมไปถึงข้อห่วงใยของสโมสรสมาชิกนั้น วันเดียวกันนั้นเองก็มีสัญญาณของความขัดแย้งระหว่างสมาคมกับแกนนำคนสำคัญในการปฏิวัติไทยลีกครั้งนี้ พูดถึงการแทรกแซงและกลเกมส์การต่อรองผลประโยชน์

อ่านแล้วไม่เป็นผลดีกับภาพลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลเลย"

"ก่อนจะถึงวันที่ 3 กรกฎาคม ผมจึงอยากขอเป็นหนึ่งแรงที่จะขอแลกเปลี่ยนแนวทางกับสมาคมรวมถึงข้อห่วงใยครับ วันนี้ลีก 1 กำลังจะแยกออกจากสมาคมฟุตบอล ซึ่งถ้าจะขอฉายภาพให้เห็นอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายของสมาคมฟุตบอลไปด้วย โดยใช้มติและความเดือดร้อนของ 16 สโมสรสมาชิกเป็นเหตุให้ต้องแยกออกมา โดยที่ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ เหมือนเอาภาระค่าใช้จ่ายประจำหรือค่าจัดการแข่งขันออกจากความรับผิดชอบไป 165 ล้าน พร้อมๆ กับข้อผูกมัดที่ต้องหาผู้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแล้วนำเงินก้อนนั้นมาแบ่งจ่ายให้กับสโมสรสมาชิก"

"เท่ากับว่ารายได้หลักของสมาคม ทั้ง 4 ทาง ซึ่งก้อนใหญ่สุดในเวลานี้คงหนีไม่พ้นที่แพลนบีหาให้ ประมาณ 500 ล้านบาท ทีนี้เงิน 500 ล้านกำลังจะถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง

ซึ่งทางแพลนบีเท่าที่ได้อธิบายให้กับสโมสรสมาชิกในที่ประชุมนั้น เขาไม่ได้มีส่วนและความรับผิดชอบว่าต้องใช้เงิน 500ล้านบาทนี้ไปทำอะไร เป็นหน้าที่ของสมาคมเอาไปจัดการเอง"

"ผมมี 2 ประเด็นกับก้อน 500ล้านบาท ที่จะขอตั้งข้อสงสัยดังนี้ ประเด็นแรกครับ500ล้าน กำลังจะถูกนำไปใช้กับอะไร เมื่อพูดถึงทีมชาติไทยนั้น ถ้าแยกออกมาเป็นชุดใหญ่ ผมค่อนข้างแน่ใจว่าทางคุณแป้ง ก็รับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายบางส่วน โดยถ้าอิงกับงบการเงินจะใช้กับชุดใหญ่ 50ล้าน ชุดอื่นๆ รวมกันน่าจะไม่ถึง 200 ไม่รวมทีมชาติ 17 ปีที่ได้มีการชี้แจงแล้วว่าประมาณ 100ล้านที่ใช้ไป แต่ก็จะได้คืนจาก AFCบางส่วน"

"ถ้ารวมๆ กันคงไม่เกิน 300ล้าน ยิ่งถ้าก้อน 500ล้านบาทที่ได้มาถูกแบ่ง 75% ให้กับทีมชาติตามข้อมูลที่ทางคิดไซด์โค้งได้เปิดเผยมา ก็ถือว่ายังมีเงินเหลือๆ ครับ"

"แต่ที่น่าคิดคือวิสัยทัศน์ที่ทางสมาคมเขียนเปรียบอุตสาหกรรมฟุตบอลไทยเป็นภูเขาน้ำแข็งนั้น เงินที่ใช้บนยอดเขานั้นมหาศาลมากๆ ตรงตีนเขากับกลางนั้นได้แบ่งจากแพลนบีแค่ 125 ล้านบาท ถ้าเปรียบตีนเขาก็คือฐานรากของอุตสาหกรรมฟุตบอลไทย คือลีก 1 2 3 คือนักกีฬา คือคนตัวเล็กๆ ในวงการฟุตบอลนั่นเองจากค่าใช้จ่ายการจัดการแข่งขันไทยลีกทั้ง 3 ระดับ ที่มี่ค่าใช้จ่ายรวม 294.6 ล้านบาท"

"ถ้าหัก 165.8 ล้านบาทที่ใช้เฉพาะ T1 จะเห็นได้ว่าสมาคมยังต้องใช้เงินกว่า 128.8 ล้านบาท ซึ่งเงินจากก้อน 500 ล้านที่แพลนบีหาได้โดยแบ่งให้สมาคมไปให้ฟุตบอลลีก 25% คือ 125ล้านบาท(อ้างอิงจากคิดไซด์โค้ง)ก็ยังไม่พอจะจัดการแข่งขันเลย เพื่อนสโมสรครับ วันนี้มูลค่าของลีกไทย T1 กับ T2 ถูกเสนอซื้อมา 50 ล้าน วันนี้ T1 กำลังจะแยกตัวไป สมาคมมีแผนรองรับหรือยังว่าใครจะมาบริหารลีก 2กับ3 จะมีถ่ายทอดมั้ย จะมีเงินเหลือมาสนับสนุนสโมสรหรือไม่ ถ้าเป็นคนเดิมบริหารจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ได้มีจุดจบแบบเดียวกับทุกวันนี้"

"ประเด็นที่ 2 ผมไม่แน่ใจว่าสัญญาการบริหารสิทธิ์ของสมาคมฟุตบอลภายใต้ความรับผิดชอบของแพลนบีได้มัดรวมเอาทั้งทีมชาติไทย ลีกฟุตบอลไทยไปมัดไว้รวมกันในสัญญาหรือไม่ คือถ้ามัดรวม การไปขายหรือหาสปอนเซอร์ก็จะเป็นมูลค่านึง ซึ่งถ้าตามข้อมูลของคิดไซด์โค้ง สัญญาปัจจุบันคือฉบับที่ 2 มีระยะเวลารวมในการเซ็นฉบับบนี้ 8 ปี 

ซึ่งในการบริหารสิทธิ ต้องมีการการันตีรายได้ขั้นต่ำซึ่งสมาคมจะได้รับ และค่าคอมมิสชั่นที่ถูกหักชัดเจน"

"ถ้าวันนี้ 500ล้าน คือเงินที่หามาได้ ผมไม่แนใจว่านี่เป็นสัญญาขั้นต่ำที่แพลนบีจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ จะต้องถูกหักคอมมิสชั่นไปแพลนบี แล้วค่อยเอาเงินหลังถูกหักค่าคอมมาใช้จ่าย แต่ถ้าวันนี้ฟุตบอลลีก 1 ถูกแยกออกจากสมาคมฟุตบอลไทย 1.สัญญาที่ทางสมาคมฟุตบอลไทยทำกับแพลนบีจะเป็นโมฆะหรือไม่ , 2. ต้องชดเชยหรือไม่ , 3.เงินการันตีขั้นต่ำจะต้องลดลงหรือไม่ ในกรณีถ้าจะทำสัญญาฉบับใหม่กับแพลนบี และ 4.เงินในการถูกแบ่งให้กับฟุตบอลระดับล่างจะได้รับผลกระทบ กล่าวคือลดลงมาอีกมั้ย"

มีอีกหลายผลลัพธ์ที่กำลังจะตามมาอีกมากมาย หากเราไม่มีแผนการรองรับ โดยเฉพาะกับฐานรากของภูเขาน้ำแข็ง ตามวิสัยทัศน์ที่สมาคมได้เปรียบเทียบอุตสาหกรรมฟุตบอลไทย เมื่อวานยังไม่เคลียร์กัน วันนี้ผู้ใหญ่เคลียร์กันจบ ผมขอได้ช่วยรีบหาทางออกให้กับลีกล่างโดยเร็วครับ เพราะได้ข่าวมาว่าหลายทีมกำลังจะขอพัก หลายทีมก็ประกาศขายทีม เพื่อปลดภาระ ฟุตบอลไทยสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนกว่า 30,000ล้านบาท ถ้าวันนี้ชาวบ้านฟุตบอลไทย คนรากหญ้ากินไม่อิ่ม รู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง อุตสาหกรรมที่พวกเรารักและทุ่มเทร่วมกันสร้างมากว่า 20-30 ปี ก็จะพัง"


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport