ผู้ถือลิขสิทธิ์เร่ยื่นประมูลเพียบ ส.บอลไทย ยอมรับยังเคาะบทสรุปไม่ได้ว่าผู้ถือลิขสิทธิ์รายใหม่จะเป็นเจ้าใด เผยขอเวลาอีกไม่นานจะเร่งพิจารณาด่วนที่สุด ยันเตรียมเชิญผู้ยื่นข้อเสนอเข้ามาเจรจา หวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับวงการลูกหนังไทย แจงยังเปิดเผยไม่ได้ว่ามีใครร่วมยื่นประมูลบ้าง
สืบเนื่องจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการประกาศเปิดรับผู้ที่สนใจในการเสนอการประกวดราคาของผู้ถือลิขสิทธิ์การออกอากาศและแพร่ภาพสัญญาณ ฟุตบอลทีมชาติไทย และฟุตบอลไทยลีก สำหรับรอบปี 2023/2024 ไปจนถึง 2026/2017 ผ่านทาง อีเมล์ [email protected] และสิ้นสุดการยื่นประมูลไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 14 มิ.ย.2566 ส.บอลไทย ออกมาแถลงถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้พบว่าได้มีผู้เสนอให้ความสนใจต่อแพคเกจการแพร่ภาพสัญญาณที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ยังไม่สามารถสรุปได้ทั้งหมดทันทีในเวลานี้
ทั้งนี้ ส.ลูกหนังไทย จะมีการเชิญผู้ยื่นข้อเสนอเข้ามาเจรจา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับฟุตบอลไทย ที่จะต้องแข่งขันให้ครบตามฤดูกาลและสามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ รวมถึงหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะมีถึงสโมสรสมาชิกที่จะเข้าร่วมแข่งขัน โดยทาง สมาคมฯจะรีบดำเนินการเจรจา และหาข้อสรุปเรื่องผู้ถือสิทธิ์ในการแพร่ภาพสัญญาณ อย่างเร่งด่วน และจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสปอร์ต พยายามติดต่อสอบถามกับสมาคมฟุตบอลฯ ว่า มีเจ้าไหนที่ยื่นประมูลเพื่อขอเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบ้าง แต่สมาคมฯ ยังขอไม่บอกว่ามีใครบ้าง เนื่องจากยังเป็นความลับที่ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะประกาศให้สื่อทราบแน่นอน เมื่อหาข้อสรุปกับตัวแทนที่ยื่นประมูลมาได้ลงตัว
สำหรับตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาทั้ง ซีซั่น 2021/22 และซีซั่น 2022/23 การแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยและไทยลีก ได้ลิขสิทธิ์ถายทอดสดผ่านการรับชมจากแพลตฟอร์ม AIS PLAY ซึ่งช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา มียอดคนดูกว่า 11.66 ล้านคนและยอดวิวรวม 1,001,352,000 วิว จากการเปิดเผยตัวเลขผู้ชมฟุตบอลสดและย้อนหลังของ ส.บอลไทย ก่อนที่ AIS จะหมดสัญญาในเดือน ก.ย.2566 ทำให้ ส.บอลไทย เปิดโต๊ะเจรจาเพื่อหาผู้ร่วมประมูลคว้าลิขสิทธิ์รายใหม่นั่นเอง