2 สัปดาห์ที่ วีระเทพ ป้อมพันธุ์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ไปร่วมฝึกซ้อมกับ อูราวะ เร้ดส์ ไดม่อนด์ส สโมสรยักษ์ใหญ่ของ เจลีก ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ทั้ง 3 ได้รับกลับมา เพื่อต่อยอดกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาลต่อๆ ไป
แม้จะเป็นเพียงการฝึกซ้อม แต่โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับห้วงเวลาที่ฟุตบอลลีกของญี่ปุ่น กำลังแข่งขันในฤดูกาลปกติ ดังนั้นการที่จะให้คนนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง มันยิ่งยากขึ้นไปอีก
ทว่าความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง เมืองทอง กับ อูราวะ เร้ดส์ ทำให้ 3 นักเตะกิเลนผยองได้สัมผัสกับโหมดการเทรนนิ่งเต็มรูปแบบในช่วง 2 สัปดาห์บนแผ่นดินซามูไร
ทุกความสำเร็จ เริ่มต้นที่ 'ก้าวแรก' เสมอ
กว่าที่ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ จะไปสร้างชื่อเสียงกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต่อยอดถึง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ - เขาเองก็เคยไปฝึกซ้อมที่ ชิมิสึ เอส-พัลส์ มาก่อน
หรือแม้กระทั่งตอนที่มาอยู่กับทัพ คอนซะ ช่วงแรกๆ - มิดฟิลด์ชาวนครปฐม ก็ต้องเจอบททดสอบสารพัดรูปแบบ ต้องต่อสู้กับอุปสรรคนานัปการ กระทั่ง 'ความตั้งใจ' อย่างจดจ่อ ได้นำพาซึ่งการยอมรับจากคนญี่ปุ่น ในปัจจุบัน
ไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาง่ายๆ มันมีราคาที่ต้องจ่าย แต่ปัจจัยสำคัญของคนที่จะก้าวเดินไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ คือทัศนคติในทิศบวก เพราะมันเป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะเดินไปข้างหน้าหรือถอยหลัง
ตอนนี้ก้าวแรกของ วีระเทพ, เจริญศักดิ์ และ เอกนิษฐ์ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว กับการร่วมฝึกซ้อมเต็มรูปแบบที่ อูราวะ เร้ดส์
พวกเขาได้สัมผัสกับ ฮิโรกิ ซากาอิ กองหลังทีมชาติญี่ปุ่น ชุดปัจจุบัน ซึ่งผ่านการเล่นในยุโรป มายาวนานกว่า 10 ปี กระทั่งกลับมาแผ่นดินเกิดเมื่อฤดูกาล 2021 นี่เอง นอกจากนี้ยังได้เจอ ชุซากุ นิชิกาวะ, ซิโอน ซูซูกิ และ ชินโซ โคโรกิ ที่มีดีกรีติดธง เดอะ บลู ซามูไร พ่วงท้าย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ร่วมเทรนกับนักเตะชั้นนำของทวีป ที่สำคัญขุมกำลังชุดนี้นี่แหละที่เพิ่งคว้าถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 มาครองแบบสดๆ ร้อนๆ และถือเป็นสมัย 3 ของปีศาจแดงแห่งเอเชีย ที่ทำได้ ซึ่งนับเป็นสโมสรจากญี่ปุ่น ที่ได้แชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้มากที่สุดในประเทศ
อีกนัยยะหนึ่ง มันเป็นเหมือนการประกาศศักดาถึงความยิ่งใหญ่ในทวีปของ อูราวะ เร้ดส์ นั่นเอง
ดังนั้นสิ่งที่ วีระเทพ, เจริญศักดิ์ และ เอกนิษฐ์ ได้กลับมา คือกำไรล้วนๆ
จากบทสัมภาษณ์ของทั้งสามคน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือการที่พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และต่างก็ตื่นตาตื่นใจกับสปีดบอลที่ไวกว่า ไทยลีก รวมไปถึงเรื่องนอกสนามที่ได้เห็นนักฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องระเบียบวินัยว่าพวกเขาปฏิบัติตนกันเช่นไร
แม้มันจะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ แต่ทั้ง 14 วัน ที่พวกเขาได้ฝึกซ้อมกับ อูราวะ เร้ดส์ นั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับตนเองได้ไม่มากก็น้อย
สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้เลยคือต่อจากนี้ ทั้ง วีระเทพ, เจริญศักดิ์ และ เอกนิษฐ์ จะเก่งขึ้นอีกแน่ แต่ใครจะไต่ระดับไปถึงเลเวลใดนั้นอยู่ที่รายบุคคลแล้ว เพราะของอย่างนี้ มันต้องสร้างด้วยตัวเอง
ส่วนเรื่องการเซ็นสัญญากับ อูราวะ เร้ดส์ นั้นก็คงต้องลุ้นกันว่า มาเซย์ สโคซ่า กุนซือของปีศาจแดงแห่งเอเชีย ปิ๊งคนไหนเป็นพิเศษ
แต่ที่แว่วๆ มาจากทีมงานผู้ติดตามแข้งไทย ในญี่ปุ่น นั้นระบุว่าสตาฟฟ์โค้ชของที่นั่นก็พึงพอใจฟอร์มการเล่นของแข้งไทย อยู่ไม่น้อยเลย ดังนั้นต้องอนาคตอันใกล้นี้ บางทีอาจจะมีนักเตะจากดินแดนขวานทองได้ไปโลดแล่นใน เจลีก เพิ่มอีก
ยิ่งส่งออกเยอะ ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อทีมชาติ เพราะนอกจากจะได้เรื่องประสบการณ์และความเก่งกาจทางด้านฝีเท้า มันยังรวมไปถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นต่อๆ ไปได้เติบโตตามไอดอลของพวกเขา
ฟุตบอลไทย ไปฟุตบอลโลก ที่เคยเพ้อฝันกันนับสิบๆ ปี ก็อาจจะเขยิบเข้าใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้น แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อย การได้เห็นนักเตะไทย ไปเล่นในลีกที่มาตรฐานสูง ก็มีแต่ประโยชน์ล้วนๆ ที่ได้กลับมา
ชิกกะด้าว