ศึก ไทยลีก 2022-23 ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสา 'จัดทีม' นักเตะที่ย้ายเข้ามาแล้วสามารถสร้างความแตกต่างได้ทันที จะมีใครและสโมสรใดบ้างนั้น คลิ๊กเข้าไปดูได้เลย!!
ผู้รักษาประตู: สมพร ยศ (จาก เมืองทอง สู่ การท่าเรือ)
จอมหนึบชาวกำแพงเพชร เล่นให้ เมืองทอง ในเลกแรกของซีซั่น 2022-23 ก่อนที่จะหมดสัญญาและไปต่อกับ การท่าเรือ กระทั่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้สิงห์เจ้าท่าจบอันดับ 3 พร้อมคว้าตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ได้สำเร็จ
วิงแบ็กขวา: เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (จาก บีจี ปทุม สู่ เมืองทอง)
จากตัวสำรองของ บีจี ปทุม ในเลกแรก สู่การเป็นผู้เล่นหลักของ เมืองทอง ในเลกที่สอง แม้จะทำไปเพียง 2 แอสซิสต์ กับอีก 2 ประตู ทว่าผลงานและคุณประโยชน์ของ เจริญศักดิ์ นั้นคณานับ โดยเฉพาะช่วงที่ตนเองต้องขยับมายืนแบ็กขวาใน 3-4 เกม ท้ายซีซั่น ก็ถือว่าทำหน้าที่ของตนเองได้ดีทีเดียว
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: ดิออน คูลส์ (จาก ยาโบลเนช (เช็ก) สู่ บุรีรัมย์)
การที่ บุรีรัมย์ มี เรบิน ซูลาก้า นั้นก็จัดว่าแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่พอได้ คูลส์ แนวรับสารพัดประโยชน์ทีมชาติมาเลเซีย มาเพิ่มอีกรายยิ่งทำให้พวกเขาไร้เทียมทานเข้าไปอีก และผลงานการคว้าแชมป์ ไทยลี กับเข้ารอบชิงชนะเลิศอีก 2 ถ้วย - ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตความยอดเยี่ยมให้กับกองหลังคนนี้ไม่น้อยเลย
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: วิคตอร์ คาร์โดโซ่ (จาก บีจี ปทุม สู่ เชียงราย)
ด้วยความที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ มาโกโตะ เทกูระโมริ อดีตกุนซือ บีจี ปทุม ทำให้ คาร์โดโซ่ จำต้องย้ายไป เชียงราย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาถอยหลัง หากแต่เจ้าตัวกลับไปเฉิดฉายอีกครั้งกับฟอร์มการถล่มประตูที่กดไปถึง 11 ลูก แถมหน้าที่ในเกมรับก็ยังอยู่ในระดับมาตรฐานตลอดทั้ง 24 เกม ที่ลงเล่นในลีก
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: ศราวุธ อินทร์แป้น (จาก เชียงราย สู่ ลำพูน)
แม้จะจบอันดับ 10 ของตาราง แถมยังต้องลุ้นจนถึงช่วงท้ายของซีซั่น แต่เป็นเรื่องเหลือเชื่อว่า ลำพูน คือทีมที่เสียประตู 'น้อยที่สุด' เป็นลำดับที่ 4 ของ ไทยลีก น้อยกว่า การท่าเรือ, เมืองทอง, เชียงราย, ชลบุรี, โปลิศ เทโร, ราชบุรี หรือ บีจี ปทุม ซึ่งเหนือกว่าพวกเขาเสียอีก และคีย์แมนสำคัญนั่นคือการมาของ ศราวุธ ที่ขันน๊อตเกมรับจนแน่น แถมตนเองยังยิงไป 2 ประตู อีกต่างหาก
วิงแบ็กซ้าย: อัลวิน ฟอร์เตส (จาก เอจีเอ็มเค (อุซเบกิสถาน) สู่ ราชบุรี และ หนองบัวพิชญ เอฟซี)
จริงๆ แล้วผลงานของเขากับ ราชบุรี ในเลกแรกนั้นร้อนฉ่าเกินห้ามใจ ก่อนจะย้ายไป หนองบัว พิชญ ในเลกที่สองแบบที่ทำให้ทุกคนแสนประหลาดใจ แต่ถึงอย่างนั้น ฟอร์มโดยรวมของ ฟอร์เตส กับการยิงไป 7 และแอสซิสต์อีก 5 ก็ทำให้ฤดูกาลแรกของปีกเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ส จัดว่าแจ้งเกิดใน ไทยลีก อย่างเต็มตัว
กองกลาง: โกรัน เคาซิช (จาก อาร์เซน่อล ทูล่า (รัสเซีย) สู่ บุรีรัมย์)
หากจะบอกว่านี่คือ 'ดีลที่คุ้มค่าที่สุด' ของฤดูกาล 2022-23 ก็คงไม่มีใครปฏิเสธ กับการมาของ เคาซิช ที่สร้างสมดุลรับ-รุกให้กับ บุรีรัมย์ อย่างชัดเจน อีกทั้งยังส่งผลถึง ธีราทร บุญมาทัน ให้เด่นสง่า เท่านั้นไม่พอ พี่แกยังยิงไป 14 ประตู ในลีก ทั้งๆ ที่เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์
กองกลาง: จักรพันธ์ แก้วพรม (จาก บุรีรัมย์ สู่ ราชบุรี)
หลายคนปรามาสว่าในวัย 34 - จักรพันธ์ น่าจะใกล้ปลดระวางเต็มที แต่สิ่งที่นักเตะชาวบุรีรัมย์ แสดงออกมาในสนามคือผลงานอันเอกอุ ราวกับย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว มันสมองของเขายังปราดเปรื่อง ขอเพียงร่างกายสมบูรณ์พร้อม หมอนี่พร้อมจะสร้างความแตกต่างได้ทุกวินาที และปีนี้ก็ทำไปถึง 7 แอสซิสต์ เลยทีเดียว
กองกลางตัวรุก: วิลเลียน พ็อพพ์ (จาก ชาเปโคเอ็นเซ่ (บราซิล) สู่ เมืองทอง)
แนวรุกวัย 29 ปี ย้ายออกจากรั้ว ธันเดอร์โดม ไปเพียงครึ่งซีซั่น ก่อนจะกลับมา แถมระเบิดฟอร์มสุดยอดในเลกที่สอง เมื่อกดในลีกไป 14 ประตู จาก 14 นัด กลายเป็นดาวซัลโวของทีม พร้อมกับนำ เมืองทอง ชนะรวด 8 เกม ติดต่อกัน
กองหน้า: ซามูเอล โรซา (จาก บุรีรัมย์ สู่ ประจวบ)
ฤดูกาล 2021-22 เขาเล่นให้ สมุทรปราการ ในรูปแบบของการยืมตัวจาก บุรีรัมย์ และพอหมดสัญญาก็ย้ายมาล่าตาข่ายต่อที่ ประจวบ ก่อนจะซัดไป 18 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทัพต่อพิฆาตได้ไปต่อในฤดูกาลหน้า
กองหน้า: แฮมิลตัน ซัวเรซ (จาก หนองบัว พิชญ สู่ การท่าเรือ)
แม้จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งดาวซัลโว ไทยลีก ได้อีกสมัย แต่ผลงานของ แฮมิลตัน ยังอยู่ในระดับมาตรฐาน กับการยิงไป 15 ประตู บวกอีก 5 แอสซิสต์ และน่าเสียดายที่เขาโดนแบนไป 2 หน ไม่เช่นนั้นอาจจะได้เห็นการสังหารสกอร์มากว่าจำนวนที่เป็นอยู่
เฮดโค้ช: โชคทวี พรหมรัตน์ และ สุรพงษ์ คงเทพ (การท่าเรือ เอฟซี)
ฤดูกาล 2022-23 การท่าเรือ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ 3 ช่วง จาก สก็อตต์ คูเปอร์ มาเป็น แมตต์ ฮอลแลนด์ กระทั่งมาจบที่ 'โค้ชคู่ 'โชคทวี พรหมรัตน์ กับ สุรพงษ์ คงเทพ ที่ช่วยกันพาสิงห์เจ้าท่า ซึ่งลุ่มๆ ดอนๆ อยู่พักใหญ่ ทะยานสู่อันดับ 3 พร้อมคว้าตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ได้สำเร็จ ซึ่งถ้าหากทั้งสองคนยังได้ไปต่อในซีซั่นหน้า น่าสนใจว่าพวกเขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่