ในที่สุดโควตา เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ก็ได้สโมสรจาก ไทยลีก ครบถ้วนกระบวนความ โดยเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด แชมป์และรองแชมป์ของฤดูกาล 2022-23 ที่ได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ
ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รองแชมป์ซีซั่น 2021-22 นั้นจะเพลย์-ออฟกับ เซียงไฮ้ พอร์ต (อันดับ 4 ไชนีส ซูเปอร์ ลีก 2022)
โดยปิดท้ายสดๆ ร้อนๆ ที่ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งได้อันดับ 3 ในฤดูกาล 2022-23 และจะไปพบ เจ้อเจียง เอฟซี (อันดับ 3 ไชนีส ซูเปอร์ ลีก 2022) ในรอบเพลย์-ออฟเช่นกัน
การได้เข้าสู่ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นมีความสำคัญกับทุกสโมสร ไม่ใช่แค่ในไทย หากแต่ทุกชาติในเอเชีย ต่างก็ปรารถนาจะมีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะมันจะส่งเสริมในหลากหลายมิติและทีมที่ได้เล่น ก็จะได้ประโยชน์กลับไปมหาศาล
ดังนั้นการขับเคี่ยวระหว่าง การท่าเรือ กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงโค้งสุดท้ายจึงดุเดือดพอสมควร ก่อนที่สิงห์เจ้าท่าจะคว้าตั๋วไปหวุดหวิด
น่าเสียดายแทนแฟนๆ กิเลนผยองที่กุมโอกาสไว้ในมือแล้ว ตั้งแต่แมตช์เดย์ที่ 28 กับการมีแต้มเหนือกว่า แต่ดันพลาดแพ้ต่อ เชียงราย ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเอง 1-2 จนถูกแซงไปแบบเจ็บแสบ
แถมนัดที่ผ่านมาก็ดันแพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-1 และเมื่อ การท่าเรือ ชนะ ชลบุรี เอฟซี ได้สำเร็จ ทุกอย่างก็จบลงทันที
ฤดูกาล 2022-23 เป็นอีกซีซั่นที่ยักษ์ใหญ่แห่งย่านคลองเตยทุลักทุเลพอควร โดยเฉพาะการเปลี่ยนโค้ชถึง 3 ช่วง กระทั่งมาเจอะเจอ 'คนที่ใช่' อย่าง โชคทวี พรหมรัตน์ และ สุรพงษ์ คงเทพ กุนซือคู่ผู้พิชิต
ตั้งแต่นัดแรก ไปจนถึงแมตช์เดย์ที่ 22 - การท่าเรือ ไม่เคยอยู่ในท็อป 4 เลยสักสัปดาห์ แถมยังมีช่วงไร้ชัย 5 นัดติดๆ อีกต่างหาก ทำให้แทบจะหมดลุ้นไปแล้ว ทว่าการมาของ 'โค้ชโชค' กับ 'โค้ชอั๋น' ทำให้พวกเขากลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดีอีกครั้ง
ตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สิงห์เจ้าท่าได้รับจึงต้องยกเครดิตให้คู่กุนซือ กรุงเทพคริสเตียน คอนเนกชั่น อย่างแท้จริง
11 นัด ในลีก พวกเขาได้มา 25 คะแนน และคว้าอันดับ 3 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก ทั้งคู่ก็น่าจะได้ทำทีมต่อในซีซั่นหน้า และมันคงจะน่าชมไม่น้อย เพราะว่า การท่าเรือ ที่มีศักยภาพสูงจะได้ก้าวมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว
แค่นึกก็สนุกแล้ว สำหรับ ไทยลีก 2023-24 ที่จะมีทีมท้าชิงความเป็นจ้าวยุทธจักรกับ บุรีรัมย์ แบบคู่คี่สูสีไปจนถึงหยดสุดท้าย
การที่สิงห์เจ้าท่าได้ไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้จะเป็นรอบเพลย์-ออฟก็ตาม แต่มันมีประโยชน์ล้วนๆ เพราะมันจะทำให้พวกเขาได้สั่งสมประสบการณ์จากเวทีเอเชีย แล้วนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนาสโมสรไปข้างหน้า
บางทีนี่อาจจะเป็นก้าวเล็กๆ ก้าวแรกที่จะพา การท่าเรือ สู่การเป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ในเวลาอันใกล้นี้ก็เป็นได้
ขอเพียงอย่างเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เชื่อได้เลยว่า โชคทวี - สุรพงษ์ น่าจะสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ได้ไม่มากก็น้อย
ตั๋วเอเชียใบสุดท้ายที่สิงห์เจ้าท่าคู่ควร
ชิกกะด้าว