สุโขทัยผู้แข็งแกร่งในรัง และ บีจี ยังต้องหาจุดเปลี่ยนต่อไป

   นอกจากนี้ ตั๋วของ ไทยลีก 2 ก็งวดเข้ามาทุกขณะ แต่โควตานี้ไม่มีสโมสรใดอยากได้รับ 

   ทว่าพอเกมในวันเสาร์ที่ 22 เมษายน จบลงไป สุโขทัย เอฟซี นั้นดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นทันตาเห็น หลังเปิด ทะเลหลวง สเตเดี้ยม เอาชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไป 2-0

   ทัพค้างคาวไฟสะสมเพิ่มเป็น 33 คะแนน รั้งอันดับ 10 พร้อมกับห่างจากโซนสีแดงอยู่ 6 แต้ม กับเกมที่เหลืออยู่อีกแค่ 3 นัด

   ขอเพียงผลเสมอแมตช์เดียว พวกเขาก็จะอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดทันที

   ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ สุโขทัย ซึ่งผลงานในช่วงต้นฤดูกาลย่ำแย่มาก จมบ๊วย 2 สัปดาห์ติด แถมวนเวียนอยู่พื้นที่สีแดงตั้ง 11 วีค แต่กลับมาไฉไลในช่วงท้าย คือการเล่นได้อย่างแข็งแกร่งในบ้านตัวเอง

   ทีมค้างคาวไฟมาพร้อมสถิติ ชนะ 6,  เสมอ 4 และแพ้ 4 โดยเอาชัยเหนือใหญ่อย่าง เมืองทอง, เชียงราย ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี และล่าสุดคือ บีจี ปทุม นั้นทำให้พวกเขาได้ถึง 12 แต้ม พ่วงด้วยกำลังใจเต็มๆ จากแฟนๆ

   เท่านั้นไม่พอ ราชบุรี เอฟซี ซึ่งอยู่หัวตาราง ก็มาแพ้ที่ ทะเลหลวง สเตเดี้ยม เช่นกัน รวมไปถึง แบงค็อก ที่ออกสตาร์ตชนะรวด 4 นัด ก็มาสะดุด เพราะไม่สามารถมาเก็บ 3 คะแนนที่นี่ได้

   การเล่นในบ้านที่แข็งแกร่งแบบนี้นี่แหละที่ส่งผลให่ สุโขทัย ได้ไปต่อใน ไทยลีก 2023-24 

   พวกเขาไม่ได้มีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ แต่ใช้การสู้ด้วยทีมเวิร์ค เล่นอย่างมีระเบียบวินัยด้วยความอดทน ไม่มีแตกแถว มันจึงทำให้หลายๆ เกมจะค่อนข้างอึดอัด แต่มันนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่ต้องการ

   ศฤงคาร พรมสุภะ เซนเตอร์ฮาล์ฟ อดีตกัปตันทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คือคนที่ควรค่าแก่การรับเสียงปรบมือ กับฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและมีมาตรฐานสูงลิ่วในทุกๆ นัดที่ลงสนาม ไม่ว่าจะภาคพื้นหรือกลางอากาศ ปราการหลังชาวศรีสะเกษ ลุยเต็มเหนี่ยวเสมอ 

   เรียวเฮ อะราอิ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่น ที่อาจจะดูไม่มีอะไร แต่การเล่นของเขาเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและทำให้เกมของ สุโขทัย มีความสมดุลทั้งรับและรุก

  และที่ลืมไม่ได้ กิตติพันธ์ แสนสุข ผู้รักษาประตูวัย 28 ปี กับผลงาน 10 คลีนชีต ซึ่งเป็นสถิติอันดับ 2 ของลีก เป็นรองแค่ ไมเคิ่ล ฟัลเคสการ์ด ของ แบงค็อก คนเดียวเท่านั้น

   นี่คือ 3 คีย์แมนที่ทำให้ สุโขทัย ได้ไปต่อใน ไทยลีก

   ขณะเดียวกัน คู่แข่งของทีมค้างคาวไฟในนัดล่าสุดอย่าง บีจี ปทุม ที่เหมือนจะกลับมาเข้าที่เข้าทางกับการชนะมา 2 แมตช์ติดต่อกัน แต่ก็ดันสะดุดอีกครั้ง ด้วยฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่

   ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะพวกเขาพักนักเตะตัวหลักไว้เพื่อเจอกับ ราชบุรี ในถ้วย ลีก คัพ วันพุธที่ 26 เมษายนนี้ มันจึงทำให้ขาดความต่อเนื่อง ซึ่งก็เห็นผลทันทีกับความพ่ายแพ้ต่อ สุโขทัย

   อดีตแชมป์ ไทยลีก 2020-21 ยังคงอยู่อันดับ 8 ของตารางก็จริง แต่ก็มีโอกาสที่จะถูก โปลิศ เทโร เอฟซี หรือแม้แต่ สุโขทัย แซงขึ้นไปได้อยู่

   ด้วยตัวผู้เล่นระดับทีมชาติไทย มากมาย แถมค่าเหนื่อยแต่ละรายก็แพงระยับ ทว่าผลงานกลับสวนทางกันไกลโพ้น

   2022-23 คือฤดูกาลที่เป็นฝันร้ายของกระต่ายอย่างแท้จริง แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความจริงหลายๆ ด้าน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะจัดการกับปัญหาเหล่านั้นอย่างไร 

   วิธีการเดิมๆ แต่หวังผลลัพธ์แบบใหม่คงเป็นไม่ได้หรอก เพราะมันมีแต่จะตอกย้ำความจำเจและคงจะเดินหน้าไปได้อย่างยากลำบาก

   สุโขทัย ผู้แข็งแกร่งในรัง และ บีจี ปทุม ที่ยังต้องหาจุดเปลี่ยนต่อไป

ชิกกะด้าว