ไทยลีก 2022-23 ยังไม่รูดม่านปิดฉากลง เพราะเหลืออีก 4 เกมให้ชิงชัย แม้ว่าถ้วยแชมป์ - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงแค่นับวันรอชูโทรฟี่เท่านั้น แต่ในส่วนของการแย่งชิงอันดับ มันมีเรื่องให้ต้องลุ้นกันทุกสัปดาห์ต่อจากนี้
ทว่าอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และเชื่อว่าแฟนฟุตบอลชาวไทย ต่างก็นิยมเสพข่าวสารเกี่ยวกับการ 'โยกย้าย' เนื่องจากแต่ละปี ทุกสโมสรจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องตัวผู้เล่นเสมอ
นี่ขนาดว่าซีซั่นปัจจุบันยังไม่สิ้นสุด แต่เรื่องของการย้ายทีมนั้นเล็ดลอดออกมาจากรั้วของสโมสรต่างๆ พอสมควร
แน่นอนว่าสโมสรใหญ่ย่อมตกเป็นกระแสข่าวและอยู่ในความสนใจของทั้งสื่อมวลชน รวมไปถึงแฟนๆ ที่ต้องการรู้ว่าทีมรักของตนเองจะได้นักเตะใหม่เป็นใครบ้าง
เวลานี้ ลีออน เจมส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งฟอร์มแจ่มของ หนองบัว พิชญ เอฟซี, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ กัปตัน เมืองทอง ยูไนเต็ด และล่าสุดคือ เซรคิโอ ซัวเรซ แนวรุกแนวคลาสสิกจาก การท่าเรือ เอฟซี คือชื่อผู้เล่นที่ถูกโยงเข้ากับการย้ายทีมหลังจบฤดูกาล โดยทั้งหมดนั้นอยู่ในข่ายสัญญาฉบับปัจจุบันกำลังจะหมดลงกับต้นสังกัด ซึ่งไม่ได้ขยายต่อ เท่ากับว่าสามารถเจรจากับทีมใหม่ได้เลย
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวที่ว่า 4 แนวรุกต่างชาติของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไล่ตั้งแต่ เฮแบร์ตี้, วานแดร์ ลุยซ์, มะห์มู๊ด ดาฮัดดา และ วิลเลน โมต้า ก็กำลังจะหมดสัญญาในเดือนพฤษภาคมนี้เช่นกัน
หรือแม้แต่ ทริสต็อง โด ฟูลแบ็กดีกรีทีมชาติไทย ที่ว่างงานอยู่ 6 เดือนเต็มๆ นับตั้งแต่หมดสัญญากับบียูไปเมื่อปลายปี 2022 และก็ยังมีอีกเพียบที่ยังไม่ได้รับการขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไป
ดังนั้นช่วงพฤษภาคมที่จะถึงนี้ แฟนๆ คงจะได้เห็นการสลับปรับเปลี่ยนสโมสรของนักเตะกันแทบจะรายวันเลยทีเดียว
การที่มีข่าวออกมาทั้งๆ ที่ฤดูกาลยังไม่จบลง น่าจะเป็นเพราะเอเยนต์พยายามส่งสัญญาณสื่อสารทีมต่างๆ ว่าผู้เล่นในความดูแลของตนยังไม่ได้เซ็นกับใครนะ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์สูงสุด
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในทุกประเทศ เพราะปัจจุบันนักเตะเปรียบเสมือน 'สินค้า' ที่วางขาย ส่วนเรื่องราคาก็แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพฝีเท้า แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าผู้จัดการส่วนตัวเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้มูลค่าของผู้เล่นเกิดความพลิกผัน
ไทยลีก ณ ปัจจุบันก็มีความเข้มข้นในเรื่องของการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งนั่นก็มาจากการที่นักเตะฝีเท้าดีตบเท้าทยอยกันเข้ามาค้าแข้งบนแผ่นดินขวานทอง ซึ่งก็เป็นเพราะเอเยนต์อีกเช่นกัน ที่นำผู้เล่นในการดูแลของตนเองมาเสนอให้กับสโมสรต่างๆ พิจารณา
ด้วยความที่ลีกพัฒนา ราคาของนักเตะก็ขยับขึ้นตามความเก่งกาจ
ข้อสังเกตุหนึ่งว่า ไทยลีก ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ มาจากการที่ปัจจุบันเราจะไม่เห็นผู้เล่นต่างชาติหิ้วสตั๊ดเข้ามาทดสอบฝีเท้าเหมือนเมื่อก่อน หากแต่มาจากการคัดสรรเป็นอย่างดีของทีมงานแต่ละสโมสร รวมไปถึงการเฟ้นหาผ่านเอเยนต์นั่นเอง ซึ่งส่วนมาก โควตาต่างชาตินั้นจะมาจากทางอย่างหลังมากกว่า
ศึกในสนามยังไม่ทันจะจบเลย หลายๆ ทีมก็ต้องออกมารบกันในศึกนอกสนามเสียแล้ว
ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเริ่มคึกคักจริงๆ
ชิกกะด้าว