7 ทีม หนีตกชั้น ไทยลีก 2022-23

7 ทีม หนีตกชั้น ไทยลีก 2022-23
ไทยลีก 2022-23 ยังคงเข้มข้นในทุกๆ สัปดาห์ โดยเฉพาะกับการแข่งทำแต้มกันแบบตาต่อตา-ฟันต่อฟันในโซนหนีตกชั้น และด้วยโปรแกรมอีก 7 นัด ที่เหลืออยู่ 'SIAMSPORT' จึงรวบรวมข้อมูล เพื่อมาวิเคราะห์ให้คุณอ่านว่าสโมสรใดมีโอกาสมากที่สุดที่จะได้ตั๋ว ไทยลีก 2 ที่ไม่มีทีมใดอยากจะได้มัน!!

สุโขทัย เอฟซี

อันดับปัจจุบัน: 10 (30 คะแนน)

   แม้ว่าเวลานี้ สุโขทัย จะอยู่ไกลจากโซนสีแดงมากที่สุดในกลุ่มทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตาย ทว่า 4 คะแนน ที่พวกเขากำอยู่ในมือนั้นยังไม่แน่ไม่นอน แถมโปรแกรมที่เหลืออยู่ก็จัดว่ามหาโหดเลยทีเดียว

   4 นัดต่อจากนี้ ทัพค้างคาวไฟจะต้องเจอทั้ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เริ่มคืนความมั่นใจกับชัยชนะ 2 นัดรวด ก่อนที่อีก 3 แมตช์ ถัดมาจะเผชิญหน้ากลุ่มท้ายตาราง ไล่ตั้งแต่ หนองบัว พิชญ เอฟซี, ลำพูน วอร์ริเออร์ส และปิดท้ายซีซั่นด้วยการบุก สามอ่าว สเตเดี้ยม ของ ประจวบ เอฟซี

   อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่พอจะอุ่นใจได้หน่อยสำหรับ สุโขทัย คือการที่ระยะหลังพวกเขาเริ่มเหนียวแน่นขึ้น อีกทั้งบรรดาแนวรุกก็ค่อนข้างจะจัดจ้าน 7 นัดหลังสุด ยิงไม่ได้แค่เกมเดียวเท่านั้น 

   ดังนั้นหากทีมค้างคาวไฟต้องการจะอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาลหน้า พวกเขาจำเป็นจะต้องเล่นเพื่อผลการแข่งขันไปก่อน โดยที่ห้ามแพ้ต่อกลุ่มท้ายตารางด้วยกัน นั่นคือหลักประกันเดียวที่จะได้ไปต่อกับ ไทยลีก 2023-24

    โปรแกรมที่รออยู่: บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (เหย้า), หนองบัว พิชญ เอฟซี (เยือน), ลำพูน วอร์ริเออร์ส (เหย้า), ประจวบ เอฟซี (เยือน)

พีที ประจวบ เอฟซี

อันดับปัจจุบัน: 11 (28 คะแนน)

   จากผลงานอันยอดเยี่ยมกับการเก็บชัยชนะได้ 2 นัดติดต่อกัน ทำให้ปัจจุบัน ประจวบ หลุดพ้นจากโซนสีแดงสักที แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีแต้มห่างจากพื้นที่ตกชั้นแค่ 2 คะแนน เท่านั้น

   ถือเป็นซีซั่นที่ 3 แล้วที่ทีมต่อพิฆาตต้องลุ้นตัวโก่งจนถึงท้ายฤดูกาล เพราะก่อนหน้านี้ 2 ฤดูกาล พวกเขาก็ทำผลงานได้ไม่ดีนัก กระทั่งมาเร่งเอาในช่วงหลัง และก็อยู่รอดปลอดภัยได้แบบฉิวเฉียด ซึ่งตรงจุดนี้เองน่าจะทำให้ ประจวบ ได้เปรียบทีมอื่นๆ เนื่องจากมีประสบการณ์เพียบ กับภารกิจหนีตกชั้น

   นอกจากนี้ ผลงานในระยะหลังของพวกเขาก็ถือว่าพอใช้ได้ เก็บคะแนนกับทีมเลเวลเดียวกัน และสู้กับทีมใหญ่ได้ดี แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจก็ตาม โดยหลายๆ ครั้งจะเห็นได้ว่า ประจวบ ชนะกลุ่มท้ายตารางด้วยกัน ซึ่งมันส่งผลไป-กลับในทันที

   กับโปรแกรมที่เหลืออยู่ อาจจะดูว่าหนักหน่วง เพราะมีทั้ง ราชบุรี เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด, ลำปาง เอฟซี และปิดท้ายในบ้านกับ สุโขทัย เอฟซี แต่เมื่อเทียบฟอร์มแล้ว หากพวกเขายังรักษามาตรฐานได้ รับประกันเลยว่าไม่ตกชั้นแน่นอน

   ทว่าการมีโปรแกรม ลีก คัพ รอบ 4 ทีม สุดท้ายมาคั่นกลาง หากมัวมุ่งไปที่ศึกนั้น บางทีสมาธิอาจจะหลุดโฟกัสกับฟุตบอลลีก ซึ่งนี่แหละจะเป็นปัจจัยสำคัญถึงการอยู่รอด

   ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่า ประจวบ จะเลือกอยู่รอดหรือไปลุ้นแชมป์ฟโทรฟี่ของซีซั่น 2022-23 

    โปรแกรมที่รออยู่: ราชบุรี เอฟซี (เยือน), แบงค็อก ยูไนเต็ด (เหย้า), ลำปาง เอฟซี (เยือน), สุโขทัย เอฟซี (เหย้า)

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 

อันดับปัจจุบัน: 12 (35 คะแนน)

   หลังจากชนะมา 3 นัดรวด จนหลุดโซนสีแดง ทว่าการเก็บได้เพียง 1 คะแนน จาก 2 เกมที่ผ่านมา ส่งผลทันที เพราะตอนนี้ นครราชสีมา กลับมามีแต้มห่างจากพื้นที่ตกชั้นเพียง 2 คะแนน เท่านั้น

   อย่างไรก็ตาม โปรแกรมที่เหลืออยู่ของทีมแมวพิฆาตอาจจะดูโหดพอควร แต่จริงๆ แล้วน่าจะมีเพียงการเล่นในบ้านพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ในเกมหน้าเท่านั้นที่ดูจะต้องเน้นหนัก เพราะนอกนั้นพวกเขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับทีมในกลุ่มท้ายตารางเลย

   ไล่ตั้งแต่การไปเยือน ชลบุรี เอฟซี ที่กำลังฟอร์มตกรุนแรง ตามด้วยเปิดบ้านรับมือ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ปลอดภัยและมีลุ้นในฟุตบอลถ้วย ก่อนจะบุก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ ช้าง อารีน่า ที่น่าจะต้องพบกันงานยากนิดนึง เนื่องจากปราสาทสายฟ้าเองก็ต้องการชัยชนะปิดท้ายซีซั่นต่อหน้าแฟนๆ ตัวเองเช่นกัน 

   จุดแข็งของ นครราชสีมา คือการที่พวกเขามี ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น เป็นกุนซือ ซึ่งเฮดโค้ชหนุ่มคนนี้เจนจัดเวที ไทยลีก อีกทั้งอุดมไปด้วยแท็กติกอันแยบยลและสามารถพลิกแพลงรูปแบบการเล่นตามคู่แข่งในแต่ละเกม ซึ่งน่าจะทำให้สาวกแมวพิฆาตอุ่นใจได้ระดับหนึ่งถึงความปลอดภัย

   ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อจากนี้คือรักษามาตรฐานของตัวเองให้ได้สม่ำเสมอ - 2 เกม ที่ผ่านมาอาจจะได้แค่ 1 แต้ม แต่นั่นคือการพบทีมแกร่ง ทั้ง ราชบุรี เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด โดยเฉพาะแมตช์ล่าสุดที่นำทีมกระต่ายแก้วไปแล้ว 2-0 ก่อนจะถูกแซงไป 2-5 พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

   หากว่ายังเล่นได้ตามฟอร์มเดิม และแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เชื่อว่า นครราชสีมา จะเป็นอีกทีมที่ได้ไปต่อในฤดูกาล 2023-24

   โปรแกรมที่รออยู่: การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า), ชลบุรี เอฟซี (เยือน), โปลิศ เทโร เอฟซี (เหย้า), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (เยือน)

ลําพูน วอริเออร์

อันดับปัจจุบัน: 13 (27 คะแนน)

   ผลพวงจากชัยชนะเหนือ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 บวกกับการที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แพ้รวด 3 นัด ส่งผลให้ ลำพูน โผล่ขึ้นไปหายใจหายคอได้อีกครั้ง แต่ก็ยังมีคะแนนห่างจากโซนสีแดงแค่แต้มเดียว

   ปัญหาของราชันโคขาวคือแนวรุกที่ยังไม่เฉียบคมเท่าไหร่นัก พวกเขาสร้างโอกาสระหว่างเกมได้มากมาย แต่พอถึงพื้นที่สุดท้าย กลับไม่สามารถส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ มันจึงทำให้หลายๆ เกมที่เล่นดี แต่ผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

   อย่างไรก็ตาม การมี อเล็กซานเดร กามา เป็นกุนซือนั้นถือเป็นเรื่องน่าอุ่นใจของพวกเขา เนื่องจากเทรนเนอร์ชาวบราซิล เป็นจอมแท็กติกและรู้จักฟุตบอลไทย เป็นอย่างดี ซึ่งมันคือข้อได้เปรียบของ ลำพูน 

   จากโปรแกรมที่เหลืออยู่ ราชันโคขาวคือผู้กำหนดชะตาของตนเองเท่านั้น เพราะว่า 3 เกม ต่อจากนี้ พวกเขาจะเจอกับทีมในกลุ่มเดียวกันทั้งหมด เริ่มจากการบุกไปเยือน ขอนแก่น ที่อาจจะเป็นแมตช์ตัดสินความอยู่รอด ต่อด้วย 'ดาร์บี้แมตช์ล้านนา' กับ ลำปาง เอฟซี ก่อนจะเดินทางสู่ ทะเลหลวง สเตเดี้ยม เพื่อพบ สุโขทัย เอฟซี 

   หาก 3 นัดนี้ ลำพูน มีอย่างน้อย 4 หรือ 6 คะแนน เชื่อว่าพวกเขาน่าจะอยู่รอดได้แน่นอนในซีซั่นต่อไป แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก็ต้องลุ้นว่าเกมสุดท้ายของฤดูกาลกับ การท่าเรือ เอฟซี จะจบลงอย่างไร 

   ดังนั้น ลำพูน คืออีกทีมในกลุ่มหนีตกชั้นที่เป็นผู้กำหนดชะตาของตัวเองว่าจะยังอยู่ใน ไทยลีก หรือกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่ ไทยลีก 2 

   โปรแกรมที่รออยู่: ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เยือน), ลำปาง เอฟซี (เหย้า), สุโขทัย เอฟซี (เยือน), การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า)

ขอนแก่น ยูไนเต็ด

อันดับปัจจุบัน: 14 (26 คะแนน)

   จริงๆ แล้ว ขอนแก่น ทำแต้มมาได้ดีมาตั้งแต่เริ่มปี 2023 กับการเก็บได้ 15 คะแนน จากการลงสนาม 8 เกม ทว่าความแพ้แพ้ 3 นัดรวด ทำให้อันดับของพวกเขาหล่นมาอยู่ในพื้นที่สีแดงทันที

   กับเกมที่เหลืออยู่อีก 4 แมตช์ ถือว่าสาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว เพราะต้องเจอทั้ง ลำพูน วอร์ริเออร์ส และ หนองบัว พิชญ เอฟซี ซึ่งถือเป็นทีมในกลุ่มหนีตายเช่นกัน จะดีหน่อยก็ตรงที่พวกเขาจะได้เล่นในบ้านตัวเองเท่านั้น 

   หากว่าเก็บชัยชนะจาก ลำพูน และ หนองบัว พิชญ ได้ น่าจะทำให้ทีมจงอางผยองหนีรอดการตกชั้นได้ แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้าม พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะกลับสู่ ไทยลีก 2 เหมือนกัน

   ดังนั้น ขอนแก่น จึงเป็นอีกทีมที่ต้องพึ่งตัวเอง โอกาสจะได้ไปต่อหรือกลับไปเริ่มใหม่ มีพอๆ กัน และการได้เล่นในบ้าน 3 จาก 4 แมตช์ ที่เหลืออยู่ คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้จงอางผยองอยู่รอดในซีซั่นหน้า

   โปรแกรมที่รออยู่: ลำพูน วอร์ริเออร์ส (เหย้า), โปลิศ เทโร เอฟซี (เยือน), หนองบัว พิชญ เอฟซี (เหย้า), แบงค็อก ยูไนเต็ด (เหย้า)

หนองบัว พิชญ เอฟซี

อันดับปัจจุบัน: 15 (17 คะแนน)

   หนองบัว พิชญ โดนภาวะ เซเคิอน ซีซั่น ซินโดรม (Second season syndrome) เล่นงานเข้าเต็มเปา กับการที่สร้างเซอร์ไพรส์คว้าอันดับ 6 ในฤดูกาล 2021-22 ก่อนจะมาจมท้ายตารางในปีนี้

   การปล่อย แฮมิลตอน โซอาเรส, แอร์ตอน และ มะห์มู๊ด ดาฮัดดา ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของพญาไก่ชนอย่างแท้จริง แม้จะได้นักเตะดีกรีสูงชาวไทย มาเสริมทัพ แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินแก้เสียแล้ว ด้วยคะแนนที่ห่างจากโซนสีเขียวถึง 9 แต้ม และเหลือเพียง 4 นัด เท่านั้น

   ตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2022-23 มีเพียง 2 สัปดาห์แรกที่ หนองบัว พิชญ ไม่อยู่ในพื้นที่สีแดง เพราะหลังจากผ่านเข้าสู่วีคที่ 3 ของการแข่งขัน พวกเขาวนเวียนอยู่กับ 3 อันดับท้ายตาราง ซึ่งถึงตอนนี้ก็เป็นสัปดาห์ที่ 24 เข้าไปแล้ว

   กับโปรแกรมที่เหลืออยู่ ทุกนัดพวกเขาจะต้องลงเล่นเหมือนนัดชิงชนะเลิศไปจนจบซีซั่น แถมยังต้องภาวนาให้คู่แข่งในกลุ่มเดียวกันทำแต้มตกหล่น นี่คือหนทางเดียวเท่านั้นที่ หนองบัว พิชญ จะอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาล 2023-24

   ทว่าทีมที่พวกเขาต้องเผชิญนั้นจัดว่าเข้าขั้นโหดมากๆ เริ่มจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่กำลังร้อนแรงสุดๆ กับการเก็บชัยชนะได้ 7 นัดติดต่อกัน จากนั้นยังต้องเจอ สุโขทัย เอฟซี, ขอนแก่น ยูไนเต็ด และ ลำปาง เอฟซี ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้โดยตรง

   โอกาสที่ หนองบัว พิชญ จะหล่นสู่ ไทยลีก 2 จึงสูงลิ่วจริงๆ 

   โปรแกรมที่รออยู่: เมืองทอง ยูไนเต็ด (เยือน), สุโขทัย เอฟซี (เหย้า), ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เยือน), ลำปาง เอฟซี (เหย้า)

ลำปาง เอฟซี

อันดับปัจจุบัน: 16 (16 คะแนน)

   น่าเสียดายที่ ลำปาง ซึ่งทำผลงานได้ดีตั้งแต่เกมแรกใน ไทยลีก จนถึงช่วงสัปดาห์ที่ 11 มีความเสี่ยงสูงมากๆ ที่จะกลับไปเล่นในลีกรองอีกครั้ง

   พวกเขาค่อยๆ หล่นสู่ช่วงล่างของตารางในวีคที่ 12 และจากนั้นก็จมยาวมาถึงปัจจุบัน แถมยังไม่เคยไปไกลกว่าอันดับ 15 ซึ่งเป็นรองบ๊วยอีกต่างหาก

   ตอนนี้ทีมรถม้ามรกตมีอยู่ 16 แต้ม ตามหลัง ลำพูน วอร์ริเออร์ส ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยถึง 11 คะแนน กับเกมที่เหลืออยู่ 4 นัด มันจึงต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น พวกเขาถึงจะได้ไปต่อในฤดูกาลหน้า

   แล้วจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ ก็ถือว่าหนักไม่เบา เพราะต้องเจอทั้ง ลำพูน, ประจวบ เอฟซี และ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ต้องการคะแนนมากๆ จะดูเบาหน่อยก็ตรงเกมต่อไปที่จะพบ ชลบุรี เอฟซี เท่านั้น

   ทว่าถ้า ลำปาง ดันไปแพ้เฉลามชลตั้งแต่นัดหน้า พวกเขาจะกลายเป็นทีมแรกที่จองตั๋ว ไทยลีก 2 ในทันที โดยไม่ต้องไปดูผลการแข่งขันของคู่อื่นๆ เลย

    โปรแกรมที่รออยู่: ชลบุรี เอฟซี (เหย้า), ลำพูน วอร์ริเออร์ส (เยือน), ประจวบ เอฟซี (เหย้า), หนองบัว พิชญ เอฟซี (เยือน)



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport