บีจี ปทุม กับอีกหนึ่งฤดูกาลที่ไม่เป็นดังหวัง

   ด้วยงบประมาณในการเสริมทัพที่สามารถดึงผู้เล่นชั้นนำของประเทศเข้ามาอยู่ในทีมได้ทุกๆ ซีซั่น กระทั่งมาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับแชมป์ ไทยลีก 2020-21 ด้วยการนำแบบม้วนเดียวจบตั้งแต่ แมตช์เดย์ ที่ 7 

   แต่ก็น่าเสียดายตรงที่เกือบจะทำสถิติ 'ไร้พ่าย' หากไม่ถูกทีเด็ดของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำแสบในเกมสุดท้ายของฤดูกาล

   อย่างไรก็ตาม ผ่านพ้นไปเพียง 2 ซีซั่น กลายเป็นว่า บีจี ปทุม กลับหล่นมาอยู่อันดับ 9 ของตาราง ณ ปัจจุบัน

   ผลของความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดต่อ แบงค็อก ยูไนเต็ด คารังตนเอง 0-1 ทำให้พวกเขามีเพียง 29 คะแนน จาก 24 นัด ถือเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ กับทีมที่มีทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, จักพัน ไพรสุวรรณ, อันเดรส ตูเญส และพี่-น้อง ฟานดี้ อยู่ในสโมสร

   15 เกม หลังสุดใน ไทยลีก เดอะ บลู แมชีน เก็บชัยชนะได้เพียง 3 นัด - กระต่ายแก้วมีแต้มห่างจาก ประจวบ เอฟซี ซึ่งอยู่ในโซนตกชั้นแค่ 7 คะแนน เท่านั้น

   มันคือความล้มเหลวแบบชัดเจนกับผลงานที่เกิดขึ้น ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ฤดูกาล 2022-23 เป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่ บีจี ปทุม ผิดหวังมากที่สุด

   คงไม่มีใครคาดคิดว่าทัพกระต่ายแก้วจะดิ่งเหวขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ปีก่อนจบด้วยรองแชมป์ แถมยังเสริมผู้เล่นได้อย่างน่าดูชม กับการได้ พิธิวัตต์ มาจาก เชียงราย ยูไนเต็ด, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ เจสซี่ เคอร์แรน ที่มาในโควตาอาเซียน

   ทว่าความเปลี่ยนแปลงมากมายจากภายในนั้นส่งผลให้พวกเขาฟอร์มการเล่นไม่สม่ำเสมอ 

   พอมาถึงช่วงกลางฤดูกาล ก็ปล่อย เจริญศักดิ์, ดีโอโก้ ลุยส์ ซานโต้, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ออกไปอีก มันจึงยิ่งทำให้ขุมกำลังถูกลดทอนคุณภาพไปพอสมควร

   ผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ในเลกที่สองอย่าง วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, กรวิชญ์ ทะสา, สเตนิโอ จูเนียร์ และ เบน อาซิเบิ้ล ต่างก็ยังไม่สามารถแบกความหวังให้ทีมได้เลยสักราย 

   ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็นในสนาม

   เลกที่สอง พวกเขาชนะแค่ 1 เกม จาก 9 แมตช์ และเป็นการแพ้ไปถึง 6 นัด เลยทีเดียว ไม่เหลือเค้าโครงของอดีตแชมป์ ไทยลีก เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนเลยสักนิด

   ดังนั้นซีซั่นนี้คือ 'บทเรียน' อันล้ำค่าที่จะทำให้ บีจี ปทุม กลับไปแก้ไขใหม่ในปีหน้า ซึ่งเชื่อได้เลยว่าพวกเขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่แบบ 'จัดเต็ม' กว่าเก่าเป็นแน่

   ทรัพยากรนักเตะยังอัดแน่นด้วยคุณภาพ และเมื่อดึงบรรดาผู้เล่นที่ปล่อยยืมตัวคัมแบ็กสู่สโมสร มันก็ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีก

   แต่ที่สำคัญ โควตาต่างชาติของกระต่ายแก้วจำเป็นจะต้องนำเข้าประเภท 'ของจริง' เท่านั้น เพราะฤดูกาลปัจจุบัน มีเพียง ตูเญซ รายเดียวเท่านั้นที่ใช้งานได้จริงๆ ส่วนที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น คาซิโอ ไชด์, สเตนิโอ จูเนียร์, เบน อาซูเบิ้ล หรือแม้กระทั่ง ยูซูเกะ มารุะฮาชิ ผู้มีดีกรี เจลีก 400 กว่านัด นั้นก็เหมือนจะไม่ค่อยเข้ากับฟุตบอลไทย สักเท่าไหร่

   วัฏจักรของโลกมนุษย์มีล้มลงก็ต้องลุกขึ้นมาได้

   2022-23 คืออีกหนึ่งฤดูกาลที่ไม่เป็นดังหวังของ บีจี ปทุม แต่มันคงไม่เลวร้ายไปกว่าปี 2018 ที่ต้องหล่นสู่ ไทยลีก 2 หรอก

   บางทีพวกเขาอาจจะยอมถอยหลัง เพื่อกระโดดไปข้างหน้าให้ไกลขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้

ชิกกะด้าว