ลอนซานา ดูมบูยา ระเบิดแฮตทริกพา "ปราสาทสายฟ้า" เปิดรังขยี้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด นิ่มๆ 4-1 เก็บชัย 5 นัดติด มี 64 คะแนน ทิ้งห่าง ทรู แบงค็อก 15 แต้ม ก่อนทั้ง 2 ทีม จะมีคิวพบกัน หลังจบโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ในวันที่ 4 เม.ย. นี้
ฟุตบอล ไทยลีก 2022-23
วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-1 ขอนแก่น ยูไนเต็ด
การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก1 ฤดูกาล 2022/23 ประจำวันเสาร์ที่ 18 มี.ค. 66 ที่สนาม ช้าง อารีน่า "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อันดับที่ 1 ของตาราง เปิดบ้านพบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด อันดับที่ 10 ของตาราง
รายชื่อคณะกรรมการ: ผู้ตัดสิน : ต่อพงศ์ สมสิงห์ ,ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 อภิชิต โนพวน,ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 ภูเบศ เหล็กผา,ผู้ตัดสินที่ 4 ทัศธราวุทธ ขันทะวิชัย,ผู้ควบคุม VAR1 กชภูมิ มีศรีเดชา,ผู้ควบคุม VAR2 ทานินทร์ รื่นจิตต์,ผู้ควบคุมการแข่งขัน ศรีพิทยา นวลนิรันดร์,ผู้ประเมินผู้ตัดสิน สุระ ศรีอาจ
เริ่มครึ่งแรก น.5 เจ้าถิ่นมีโอกาสขึ้นนำ จากจังหวัง ธีราทร บุญมาทัน เปิดลูกฟรีคิกบริเวณกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ โจนาธาน โบลินกิ ลอยตัวขึ้นมาโหม่ง แต่บอลไม่ตรงกรอบ ถัดมา น.11 ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลเข้าในกรอบเขตโทษให้กับ ศุภชัย ใจเด็ด จ่ายต่อให้กับ โจนาธาน โบลินกิ กดด้วยซ้ายบนพุ่งแรงหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
น.20 บุรีรัมย์ฯ ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังกวะ รัตนากร ใหม่คามิ เติมขึ้นมาเล่นเกมรุกทางฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลแนวลึกให้กับ ลอนซานา ดุมบูยา พักบอลด้วยหน้าอกหนึ่งจังหวะ ก่อนตวัดด้วยขวาผ่านมือของผู้รักษาประตูของทีมเยือนเข้าไปได้สำเร็จ น.30 ขอนแก่นฯ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ อลงกรณ์ จรนาทอง ที่อยู่บริเวณกราบขวา เปิดบอลยาวให้กับ อิ๊บสัน เมโล่ ที่วิ่งสอดขึ้นมา จับบอลพลาด แต่กลายเป็นดี บอลใหล่เข้าไปไปโดน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เซฟจังหวะแรก ก่อนจะ โดนจะ อิ๊บสัน เมโล่ วิ่งเข้าไปซ้ำโล่งๆ
น.35 บุรีรัมย์ฯ ยังเปิดฉากใส่เกมบุกอย่างต่อเนื่อง จน เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลไปที่เสาสองให้กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตบเข้ากลางให้กับ ลอนซานา ดุมบูยา ยิงด้วยขวาไปที่เสาสอง เป็น เอเลฟ วิเอร่า ซานโตส ให้ศรีษะสกัดออกมาจากบนเส้น
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.45+2 ศุภชัย ใจเด็ด ที่อยู่ทางด้านฝั่งขวาเปิดบอลไปที่เสาสองให้กับ โจนาธาน โบลินกิ แต่เป็น พลากร วอกลาง ยกเท้าสูงสกัดไปโดนศรีษะของ โจนาธาน โบลินกิ ทำให้ผู้ตัดสินต้องวิ่งไปดูVAR จนทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่บุรีรัมย์ฯ
น.45+6 บุรีรัมย์ ได้ยิงจุดโทษ ดุมบูยา ยิงติดเซฟของ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่ เนื่องจาก นายด่านขอนแก่น ยูไนเต็ด ออกมาจากเส้นก่อนและสุดท้าย ลอนซานา ดุมบูยา ได้โอกาสยิงอีกครั้ง ไม่พลาด บุรีรัมย์ ขึ้นนำขอนแก่น 2-1 ทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ ขอนแก่น ยูไนเต็ด อยู่ 2-1
เริ่มครึ่งหลัง น.50 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กระชากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนตบเข้าตรงกลางให้กับ ศุภชัย ใจเด็ด วิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อ บอลกำลังจะเสีบคานแต่โดนผู้รักษาประตูของทีมขอนแก่น ยูฯ ปัดทิ้งออกไปได้
ถัดมา น.69 เจ้าถิ่นได้โอกาสหนีห่างอีกครั้งจากจังหวะ โจนาธาน โบลินกิ ที่อยู่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษยกบอลไปให้กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่อยู่ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตบเข้าในไปให้กับฮาริส วุชคิช ยิงเต็มข้อ บอลชนคานออกหลังไป
น.79 บุรีรัมย์ฯ ได้ประตูหนีห่าง 3-1 จากจังหวะที่ โจนาธาน โบลินกิ ที่อยู่บริเวณฝั่งซ้ายเปิดบอลเข้าในให้กับ ลอนซานา ดุมบูยา กระโดดมาโขกเต็มศรีษะเข้าประตูไปได้อย่างสวยงาม
น.84 บุรีรัมย์ฯ ยิงประตูเพิ่มเป็น 4-1 จากจังหวะสวนกลับ เป็น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี เปิดบอลให้กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่อยู่บริเวณฝั่งขวาหลุดขึ้นมา ก่อนเปิดบอลเข้าในให้กับ ศุภชัย ใจเด็ด ที่หลุดเดียวเข้าไปดวลกับผู้รักษาประตู ก่อนจะชิพข้ามตัวของผู้รักษาประตูของขอนแก่นฯเข้าประตูไปได้ ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านอัด ขอนแก่น ยูไนเต็ด 4-1
วาทะโค้ช
มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : เกมนี้ลูกทีมของเราทำได้ดี ตามแผนที่วางไว้ ชื่นชมลูกทีมทุกคนที่สู้
ปฏิภัทร รอบรู้ กุนซือขอนแก่น ยูไนเต็ด : ลูกทีมของเราสู้ได้อย่างเต็มที่เเล้ว ขอบคุณลูกทีมที่สู้จนถึงนาทีสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นและคะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) 5 , ธีราทร บุญมาทัน 6, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี 5 , รัตนากร ใหม่คามิ 5 ,ศุภชัย ใจเด็ด 6 ,ดิออน คูลส์ 5 ,ฮาริส วุชคิช 5 (แทน น.75 พรรษา เหมวิบูลย์), ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา 5 ,เรบิน ซูลากา 5,ลอนซานา ดุมบูยา 7 (แทน น.88 อาทิตย์ บุตรจินดา), โจนาธาน โบลินกิ 6
ขอนแก่น ยูไนเต็ด : จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ (ผู้รักษาประตู) 5 ,ปานเดชา เงินประเสริฐ 5 ,อลงกรณ์ จรนาทอง 5, จักรกริช พาละพล 4, ลิดอร์ โคเฮน 5 (แทน น.66 นิพิฐพนธ์ หาดจันทร์),อภิสิทธิ์ ขวนขวาย 5, เทวา แสงนาโก 5 (แทน น.64 ถวิล บุตรสมบัติ), ธนาธิป แพงวงศ์ 5, อิ๊บสัน เมโล่ 5(แทน น.89 กิตติพัศ อินทวงษ์), พลากร วอกลาง , เอเลฟ วิเอร่า ซานโตส 5 (แทน น.89 รชตะ สมพร)
แมน ออฟ เดอะแมตช์: ลอนซานา ดุมบูยา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)