เหลือการแข่งขันอีก 7 นัด สำหรับลีกสูงสุดของไทยอย่างศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022-23 โอกาสที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเดินหน้าคว้าแชมป์อีกสมัยคงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ส่วนความสนุกในการลุ้นอันดับ 2,3 เต็มไปด้วยความเข้มข้นเพราะจะมีโควตาถ้วยเอเชียเป็นเดิมพัน ซึ่งโควตาชิงแชมป์สโมสรเอเชียในฤดูกาล 2022-23 ทีมรองแชมป์ไทยลีก จะการันตีโควตารอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่ทีมอันดับ 3 อาจมีลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ กรณีแชมป์เอฟเอ คัพ ปีนี้ ตกเป็นของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
9 แต้มใน 7 เกม การันตีรองแชมป์
“แข้งเทพ”แบงค็อก ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชแบน”ธชตะวัน ศรีปาน ดูจะเส้นทางสดใสสุดๆ เพราะต้องการอีกเพียง 9 แต้ม จาก 7 เกมที่เหลือ ก็จะการันตีอันดับ 2 ทันที เนื่องจากแต้มจะขาดจากทีมอันดับ 4 ขณะที่ทีมอันดับ 3 หากจบฤดูกาลด้วยแต้มเท่ากันกับ ชลบุรี เอฟซี สโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด จะมีอันดับที่เหนือกว่า เพราะผลงานการเจอกันฤดูกาลนี้เอาชนะได้ทั้งไปและกลับ (ชนะเกมเหย้า 3-1,ชนะเกมเยือน 1-0)
รอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกในนาม “แข้งเทพ”แท้ๆ
หากย้อนไปบนเส้นทางลูกหนังชิงแชมป์สโมสรเอเชีย รายการ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก ในนามของสโมสรฟุตบอล “แข้งเทพ”แบงค็อก ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารจัดการในยุคของ ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรคนปัจจุบัน ไม่นับสโมสรดั้งเดิม “สิงห์ร้ายกล้วยน้ำไท” ม.กรุงเทพ ถ้าจบด้วยรองแชมป์ลีกปีนี้ นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทีมได้โอกาสลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ก่อนหน้านี้ไปได้ไกลสุดเพียงแค่รอบก่อนเพลย์ออฟ ปี 2017 แพ้จุดโทษ ยะโฮร์ ดารุลทาซิม (มาลเซีย ) 4-5 (1-1) ปี 2019 แพ้ ฮานอย(เวียดนาม) 0-1 แต่ถ้าหากนับสมัยตอนเป็น ม.กรุงเทพ ยุคที่ “มาราโดน่าเมืองไทย”สมชาย ทรัพย์เพิ่ม คุมทัพ ต้องใช้เวลารอคอยการไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มถึง 16 ปี
ธชตวัน อีกครั้งกับการพาสโมสรไทยลุยถ้วยเอเชีย.
“โค้ชแบน”ธชตะวัน ศรีปาน กุนซือสัญชาติไทย ที่กำลังจะเป็นโค้ชคนแรกที่พา “แข้งเทพ”ยุคใหม่ ไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มชิงแชมป์สโมสรเอเชีย รายการ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2023-24 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโค้ชที่พาสโมสรไทยไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม นี่จะเป็นครั้งที่สองของกุนซือรายนี้ที่พาทีมจากไทยทะลุไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มถ้วยเอเชีย โดยก่อนหน้านี้ พา “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก 2016 ได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มปี 2017 และจบด้วยการพาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ 16 ทีม นี่จะเป็นอีกครั้งที่กุนซือที่มีถิ่นเกิดใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พาสโมสรไทยทยานสู่ถ้วยเอเชียรอบแบ่งกลุ่ม
โปรแกรมไทยลีก ที่เหลือของ แบงค็อก ยูไนเต็ด
19 มี.ค.66 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด(เยือน)
4 เม.ย.66 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด(เหย้า)
9 เม.ย.66 ลำพูน วอร์ริเออร์(เยือน)
23 เม.ย.66 โปลิศ เทโร(เหย้า)
30 เม.ย.66 ประจวบ เอฟซี(เยือน)
6 พ.ค.66 เมืองทอง ยูไนเต็ด(เหย้า)
14 พ.ค.66 ขอนแก่น ยูไนเต็ด(เยือน)
*** หมายเหตุ *** เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2023-24 สโมสรจากไทยได้โควตา 2+2 ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของไทยกำหนดการจัดสรรโควตาดังนี้ รอบแบ่งกลุ่ม 2 ทีม ( บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 2021-22, แชมป์ไทยลีก 2022-23) รอบเพลย์ออฟ 2 ทีม ( บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รองแชมป์ไทยลีก 2021-22 ได้สิทธิ์แทนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เอฟเอ คัพ 2021-22, แชมป์ เอฟเอ คัพ 2022-23) กรณีทีมแชมป์ลีกและบอลถ้วยเอฟเอ คัพ เป็นทีมเดียวกัน ทีมอันดับ 2,3 จะได้สิทธิ์ลงแข่งขันแทน