เดินหน้าฝ่าสถานการณ์ที่ยากลำบากได้อย่างลงตัวใน 4 เกมที่ผ่านมาบนศึกลูกหนังอาชีพสูงสุดของประเทศไทยสำหรับเหล่าแข้ง “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายใต้การทำงานร่วมกันของ มาริโอ ยูรอฟกี้ กุนซือหนุ่มลูกหม้อของทีมที่มีแนวทางการทำงานของตัวเองสไตล์ “มาริโอเวย์” กับ มิลอส โจซิค ที่เข้ามาช่วยรายละเอียดขยับปรับทีมในเรื่องจุดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆให้ดีขึ้น จนทำให้ 4 เกมหลังผลงานของเหล่าขุนพลเมืองทอง ช่วยกันกวาดแต้มยาวมาถึง 10 แต้ม จากผลงาน ชนะ 3 เสมอ 1 ที่สำคัญเป็นการลงเล่นกับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย หลายๆอย่างเปลี่ยนไปเป็นมิติการเล่นที่ดีขึ้นที่สำคัญไม่ยอมแพ้ตลอด 90 นาทีของการแข่งขัน กลายเป็นคู่โค้ช “ดับเบิ้ล M” ที่เริ่มปรับจูนทีมได้อย่างน่าสนใจ
สถานะในอันดับตารางการแข่งขันของเมืองทอง ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 7 มี 32 คะแนน ตามหลังทีมอันดับ 3 ชลบุรี เอฟซี 5 แต้ม,อันดับ 4 ราชบุรี เอฟซี,อันดับ 5 เชียงราย ยูไนเต็ด 2 แต้ม ,อันดับ 6 ท่าเรือ 1 แต้ม ซึ่ง 8 เกมที่เหลือ เส้นทางการต่อสู้ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ยังสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆก้าวไปทำอันดับให้ดีขึ้น ที่สำคัญ 8 เกมที่เหลือลงเล่นเกมเหย้า 6 ออกเยือน 2 เกม นัดที่เดินทางไกลสุดคือการออกไปเยือน ประจวบ เอฟซี ส่วนอีกนัดคือการออกเยือน แบงค็อก ยูไนเต็ด
ผลงาน 4 เกมหลังในไทยลีก 1 เมืองทอง ยูไนเต็ด
12 ก.พ.66 เสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-4(เหย้า) อิริค โจฮานนา น.2,31,47,ปรเมศย์ อาจวิไล น.13
19 ก.พ.66 ชนะ ชลบุรี 1-0(เยือน) สุพร ปินะตากาโพธิ์ น.74
25 ก.พ.66 ชนะ บีจี ปทุม 1-0(เหย้า) เจริญศักดิ์ วงศ์กร น.84
5 มี.ค.66 ชนะ ท่าเรือ 3-2(เยือน) อิริค โจฮาน่า น.59,วิลเล่น พอร์พ น.85,ปรเมศย์ อาจวิไล น.88
โปรแกรมที่เหลือเมืองทอง ยูไนเต็ด
11 มี.ค.66 โปลิศ เทโรฯ(เหย้า)
18 มี.ค.66 ประจวบ เอฟซี(เยือน)
1 เม.ย.66 ลำพูน วอร์ริเออร์(เหย้า)
8 เม.ย.66 ขอนแก่น ยูไนเต็ด(เหย้า)
23 เม.ย.66 หนองบัว พิชญ เอฟซี(เหย้า)
30 เม.ย.66 เชียงราย ยูไนเต็ด(เหย้า)
6 พ.ค.66 แบงค็อก ยูไนเต็ด(เยือน)
14 พ.ค.66 ราชบุรี เอฟซี(เหย้า)