ปราสาทสายฟ้าเดินหน้าสู่ 'ไร้พ่าย'

ปราสาทสายฟ้าเดินหน้าสู่ 'ไร้พ่าย'
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคือสโมสรอันดับ 1 ของสยามประเทศอย่างเต็มตัว หลังบุกไปเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ถึง ทรู สเตเดี้ยม (สนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิต) ด้วยสกอร์ 3-0 ตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ รีโว่ คัพ 2022-23 ได้ตามเป้าหมาย

   ก่อนหน้าที่คู่นี้จะเผชิญหน้ากัน ทั้งสองคือทีมอันดับ 1 และ 2 ของ ไทยลีก 

   แม้ว่าปราสาทสายฟ้าจะนำโด่งแบบสุดกู่ แต่ผลงานในระยะหลังของบียูก็จัดจ้านจนไม่อาจประมาทได้

   นับตั้งแต่เปิดเลกที่สองเป็นต้นมา แบงค็อก เก็บชัยชนะได้ 7 นัดรวด โดยที่ยิงไปถึง 18 ประตู และเสียเพียง 4 ลูก เท่านั้น ในทุกรายการ

   ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมหลังเปลี่ยนเทรนเนอร์จาก ออเรลิโอ วิดมาร์ เป็น ธชตวัน ศรีปาน อีกครั้ง

   เท่านั้นไม่พอ 'โค้ชแบน' ก็เป็นกุนซือที่มักจะเอาชนะปราสาทสายฟ้าได้อยู่บ่อยๆ เสียด้วย ดังนั้นเขาย่อมมีกลยุทธ์ไว้จัดการกับคู่แข่งจากแดนอีสานเป็นแน่

   ขณะที่ บุรีรัมย์ ก็ไม่น้อยหน้า พวกเขาชนะ 6 จาก 7 นัด ในเลกที่สอง โดยสะดุดแค่เสมอสุดมันกับคู่แค้นตลอดกาลอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด 4-4 ซึ่งนัดนั้นโดนนำห่างถึง 4-1 อีกต่างหาก

   เรียกได้ว่าการโคจรมาพบกันในรอบ 8 ทีม สุดท้าย รีโว่ คัพ นั้นเป็น บิ๊กแมตช์ ที่แฟนๆ ต่างรอคอยอย่างแท้จริง

   สื่อหลายสำนัก รวมไปถึงผู้สันทัดฟุตบอลไทย ต่างเชื่อว่า แบงค็อก กับ บุรีรัมย์ จะเป็นเกมที่คู่คี่สูสีแน่นอน

   ทว่าสิ่งที่ปรากฏออกมาเป็นฝั่ง บุรีรัมย์ ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่แทบไม่เปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นได้ลำเลียงบอลไปถึงกรอบเขตโทษของตนเองเลย

   ครึ่งหลัง เกมของบียูก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น เฮแบร์ตี้ กับ วานแดร์ ลุยซ์ 2 ตัวรุกทีเด็ดของพวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสสับไกเลยสักครั้ง โดยเฉพาะดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลลีกไทย ที่ตลอดทั้ง 90 นาที ได้ง้างยิงเพียงหนเดียวเท่านั้น

   นั่นคือตัวบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือปราสาทสายฟ้าทำการบ้านเป็นอย่างดีว่าถ้าจะหยุดเกมรุกของ แบงค็อก คือต้องไม่ปล่อยให้ เฮแบร์ตี้ และ วานแดร์ ได้เล่นง่ายๆ

  อีกแท็กติกหนึ่งที่เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น งัดออกมาใช้ คือการตัดฟาวล์ตั้งแต่แดนบน ซึ่งได้ผลชะงัด เพราะนอกจากจะเบรกการโต้กลับได้ มันยังทำให้เกมของบียูสะดุดและขาดความต่อเนื่อง

   พอสามารถจัดการกับคีย์แมนของเจ้าถิ่นได้อยู่หมัด แผนการที่เตรียมมาลงล็อกพอดี ที่เหลือก็เป็นงานง่ายไปหมด

   ธีราทร บุญมาทัน จัดไป 3 แอสซิสต์, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา มากับหนึ่งประตูและดูจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ, ศุภชัย ใจเด็ด อาจจะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ความขยันของเขาช่วยทีมได้มากมาย

   พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี เล่นง่าย ทว่าประสิทธิภาพล้นเหลือ, โกรัน เคาซิช มาพร้อมประตูสุดคลาสสิกที่หลอก มานูเอล ทอม บีร์ห จนหลังหัก, ฮาริส วุชคิช ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็น 'ของแท้' สำหรับลีกไทย

   แต่ที่โดดเด่นเหนือใครต้องยกให้ ดิออน คูลส์ กองหลังทีมชาติมาเลเซีย ที่เก่งกาจเหลือเกิน และเป็นอีกหนึ่งคนที่แมวมองของ บุรีรัมย์ ใช้สายตาอันเฉียบคมคว้าตัวมาร่วมทัพ

   ไม่ว่าจะ เฮแบร์ตี้, วานแดร์, มะห์มู๊ด ไอด์ หรือใครและใครก็ไม่อาจเลี้ยงผ่านเซนเตอร์ฮาล์ฟเชื้อสายเบลเยียม ได้เลย ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงคลาสฟุตบอลระดับสูงที่เข้ามายกระดับให้ บุรีรัมย์ แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

   โดน เมืองทอง นำห่าง 4-1 แต่ก็ใช้เวลาเพียง 15 นาที ตามตีเสมอ 4-4 ต่อด้วย แบงค็อก ซึ่งแข็งแกร่งทั่วทั้งแผง แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความร้อนแรงของปราสาทสายฟ้าได้เลย

   หากยังรักษามาตรฐานได้สม่ำเสมอ เห็นทีว่าฤดูกาลนี้ บุรีรัมย์ จะทำสถิติ 'ไร้พ่าย' พร้อมกับคว้าทุกแชมป์ในประเทศได้เป็นแน่ 

   อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณภาพฟุตบอล ต้องยอมรับว่า ณ วินาทีนี้ ปราสาทสายฟ้าเหนือกว่าทุกสโมสรในเมืองไทย แต่ก็ยังคงมีเรื่องที่น่างุนงงปนสงสัยอยู่พอสมควร เพราะเมื่อใดที่เป็นเกมใหญ่ - ดูเหมือนว่าผู้ตัดสินจะไม่กล้าทำโทษสักเท่าไหร่

   เช่นเดียวกันกับเกมบุกถล่ม แบงค็อก ที่ในครึ่งแรก เฮแบร์ตี้ โดนตัดฟาวล์หนัก 2-3 หน แต่กลับไร้ซึ่งใบเหลืองจากกระเป๋าของตุลาการสนาม ซึ่งจุดนี้ทำให้ฝั่งเสียประโยชน์ต้องเหนื่อยหน่าย และในทางกลับกัน กลายเป็นว่ามันทำให้พวกเขาเบรกเกมได้หลายต่อหลายที

   หากย้อนกลับไป ก็เป็นนัดเสมอ เมืองทอง 4-4 ที่หลายต่อหลายจังหวะที่ปราสาทสายฟ้าไม่เสียใบเหลือง จนเป็นเหตุให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ รวมไปถึงผู้เล่นในสนามต่างหงุดหงิดกันยกใหญ่

   แม้แต่แฟนๆ กิเลนผยองยังรับไม่ไหว ปาแก้วน้ำลงสนาม จนเป็นเหตุให้สโมสรถูกปรับไปตามระเบียบ

   แชมป์น่ะไม่น่าพลาด แต่ถ้าเข้าวินแบบไร้ข้อครหา คงจะเป็นอะไรที่ภาคภูมิได้จริงๆ

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport