ก่อนหน้า ศุภชัย - อดีตดาวซัลโว ไทยลีก (ชาวไทย)

ธีรศิลป์ แดงดา (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ซีซั่น: 2012

ประตู: 24

ห้วงเวลานั้น ธีรศิลป์ เพิ่งจะอายุ 24 ปี และกำลังฟอร์มร้อนฉ่าแบบสุดๆ จนได้ถูกยกย่องให้เป็นศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของสยามประเทศ 

ไทยลีก 2012 - เมืองทอง ยูไนเต็ด เข้าป้ายคว้าแชมป์แบบ 'ไร้พ่าย' ได้เป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้หัวหอกคนนี้ที่กดไป 24 ประตู โดยมี มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นคู่ขาคอยแอสซิสต์

หลังจากการเป็นดาวซัลโวในซีซั่นนั้น - ธีรศิลป์ ก็ค่อยๆ พัฒนาตนเองขึ้นเรื่อยๆ จนไปเล่นในลีกสเปน กับ อัลเมเรีย ตามต่อด้วยญี่ปุ่น ที่ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ และ ชิมิซึ เอส พัลส์ ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นที่เขาคว้าดาวซัลโวนั้นมี คเลตอน ซิลวา จาก บีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน) มาแชร์ตำแหน่งด้วยจำนวนประตูที่เท่ากัน

__________________

อานนท์ สังข์สระน้อย (บีอีซี เทโรศาสน)

ซีซั่น: 2008 และ 2009

ประตู: 20 (2008) และ 18 (2009)

บีอีซี เทโรศาสน หรือ โปลิศ เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน เคยเป็นสโมสรที่อุดมไปด้วยผู้เล่นทีมชาติแบบแทบจะยกชุด นับตั้งแต่ยุค 2000 เป็นต้นมา และหนึ่งในนั้นมี อานนท์ สังข์สระน้อย ดาวซัลโว ซีเกมส์ 2007 รวมอยู่ด้วย

ศูนย์หน้าชาวนครราชสีมา เล่นให้ทีมมังกรไฟตั้งแต่ฤดูกาล 2006 แต่มาพีกสุดๆ หลังจากคว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ 2007 นั่นเอง เพราะสามารถคว้ารางวัลดาวซัลโว ไทยลีก ได้ 2 สมัยซ้อน คือ 2008 ต่อด้วย 2009

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองซีซั่นที่ อานนท์ เป็นท็อปโกลสกอร์ส บีอีซี เทโรศาสน นั้นไปไม่ถึงแชมป์บั้นปลาย ก่อนที่ตัวเขาจะถูก เมืองทอง มาดึงตัวไปในฤดูกาล 2011 

__________________

พิพัฒน์ ต้นกันยา (บีอีซี เทโรศาสน)

ซีซั่น: 2006

ประตู: 12

หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของประเทศไทย กับการเป็นตัวจบสกอร์ในกรอบเขตโทษที่คมกริบทุกครั้งที่ได้ง้างไก

พิพัฒน์ โด่งดังกับ ราชประชา จนทำให้ได้ย้ายไปเล่นในลีกเวียดนาม อยู่ราวๆ 4 ปี ก่อนจะกลับมายิงระเบิดให้ บีอีซี เทโรศาสน ในซีซั่น 2006 ที่เขาคว้าดาวซัลโวไปครองแต่เพียงผู้เดียว

หัวหอกชาวอุดรธานี โยกไปได้แชมป์ ไทยลีก กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในฤดูกาล 2008 และยังเปลี่ยนสโมสรอยู่บ่อยๆ ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาลัดฟ้าไปค้าแข้งที่อินโดนีเซีย เสียด้วย

__________________

ศุภกิจ จินะใจ (การไฟฟ้า) - ศรายุทธ ชัยคำดี (การท่าเรือ)

ซีซั่น: 2004-05

ประตู: 10

ฤดูกาล 2004-05 เป็นสโมสร โรงงานยาสูบ ที่คว้าแชมป์ไปด้วยการเฉือน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพียงแค่ 2 คะแนน

กับการที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้อันดับสอง พวกเขามี ศุภกิจ จินะใจ ศูนย์หน้าชาวเชียงใหม่ ที่กดไป 10 ประตู จากจำนวน 23 ลูก ที่ทีมนักรบสายฟ้ายิงได้ในซีซั่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมี ศรายุทธ ตำนานหัวหอกทีมชาติไทย จาก การท่าเรือ เอฟซี อีกคนที่ยิงได้เท่ากัน ซึ่งกลายเป็นหนที่สองของเจ้าตัวที่ได้ครองดาวซัลโวสูงสุดของ ไทยลีก 

ปัจจุบัน 'โจ้ 5 หลา' รั้งอันดับ 8 ของดาวยิงสูงสุด ไทยลีก กับการซัดไปทั้งหมด 101 ประตู ตลอดระยะเวลา 16 ปี กับอีก 11 สโมสร ในอาชีพค้าแข้ง

__________________

วิมล จันทร์คำ

ซีซั่น: 2003-04

ประตู: 14

เป็นอีกครั้งที่ทีมแชมป์อย่างสโมสร ธนาคารกรุงไทย ไม่มีดาวซัลโวสูงสุดของลีกอยู่ในทีม เพราะเป็นหัวหอกอย่าง วิมล จันทร์คำ กองหน้าของ โอสถสภา ที่ยิงไป 14 ประตู 

แนวรุกชาวราชบุรี สร้างชื่อมาจากทีมนักเรียนไทย จนถูก โอสถสภา ดึงตัวมาเล่นและก็ค่อยๆ พัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้เล่นแถวหน้าของลีก ก่อนจะกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของ ไทยลีก ครั้งที่ 9

พอได้ตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุด วิมล ก็เหมือนเช่นนักเตะไทย คนอื่นๆ ที่ถูกสโมสรจากเวียดนาม ดึงตัวไปโกยเงินดอง โดยเขาไปอยู่กับ ฮอง อันห์ ยา ลาย ในปี 2006 

ปัจจุบันเขาเป็นเฮดโค้ชของ ปลวกแดง ยูไนเต็ด สโมสรในระดับ ไทยลีก 3

__________________

ทำเนียบดาวซัลโว ไทยลีก (ชาวไทย) ก่อนหน้านี้

2002-03 ศรยุทธ ชัยคำดี (การท่าเรือ)

2001-02 วรวุฒิ ศรีมะฆะ (บีอีซี เทโรศาสน), ปิติพงษ์ กุลดิลก (การท่าเรือ)

2000 สุธี สุขสมกิจ (กสิกรไทย)

1999 สุธี สุขสมกิจ (กสิกรไทย)

1998 รณชัย สยมชัย (การท่าเรือ)

1997 วรวุฒิ ศรีมะฆะ (บีอีซี เทโรศาสน)

1996-97 อัมพร อำพันสุวรรณ (องค์การโทรศัพท์ )

__________________