บิ๊กแมตช์ประจำ ไทยลีก 2022-23 แมตช์เดย์ที่ 19 ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบลงด้วยผลสุดเดือด 4-4 เป็นสกอร์ที่ยิงกันเยอะที่สุดนับตั้งแต่สองทีมเคยเผชิญหน้ากันในทุกรายการ
เป็นอีกครั้งที่การห้ำหั่นของกิเลนผยอง-ปราสาทสายฟ้ายังคงความสนุกระดับ 5 ดาว เอาไว้เสมอ ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อใด คู่นี้ฟัดกันเต็มเหนี่ยว และมักจะมีเรื่องราวให้ตามต่อเช่นเคย
แฟนฟุตบอลที่ชมการแข่งขันจากทางบ้านก็ได้อรรถรส ส่วนผู้ที่อยู่ชิดติดขอบสนามก็คงจะซึมซับบรรยากาศแบบเต็มอิ่ม เพราะมีให้ชมถึง 8 ประตู
เมืองทอง ยังคงเล่นฟุตบอลในแบบฉบับของพวกเขา เท้าสู่เท้า ไม่มีเตะทิ้งเตะขว้าง หากวันใดแนวรุกเข้าฝัก วันนั้นจะได้เห็นสกอร์จากฝั่งกิเลนผยองมากมาย
ต้องชื่นชมแนวทางของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ยังยึดมั่นปรัชญาของตนเองแบบแน่วแน่ แม้หลายๆ นัด ทีมของเขาจะไม่ได้รับผลการแข่งขันตามที่ต้องการก็ตาม
ก่อนหน้านี้ เมืองทอง ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก นับตั้งแต่เปิดเลกที่สองมา พวกเขาตกรอบฟุตบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ แถมในลีกก็ยังอยู่กลางตาราง
แต่ถ้ามองถึงรูปแบบการเล่น อดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย เหนือกว่าคู่ต่อสู้แทบทุกนัด จะมีเพียงแมตช์แพ้ บุรีรัมย์ ในถ้วย ลีก คัพ เท่านั้นที่เป็นรอง นอกนั้นกิเลนผยองไล่ขย่มฝั่งตรงข้ามแทบจะฝ่ายเดียว
ขณะที่ปราสาทสายฟ้า ซึ่งนำโด่งอยู่บนหัวตาราง พวกเขาแข็งแกร่งทุกขุมกำลัง แถมฟอร์มยังโหดจัด ชนะรวด 14 นัด ติดต่อกันในทุกรายการ
แถมก่อนมาเยือน ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม จ่าฝูงยังบุกมายัดเยียดความปราชัยให้อีกต่างหาก
สื่อทุกสำนักเชื่อว่า บุรีรัมย์ น่าจะย้ำแค้น เมืองทอง ได้อีกเป็นแน่
ทว่าเสน่ห์ของฟุตบอลคือการที่เราไม่สามารถคาดเดาผลการแข่งขันได้เลย ทีมที่เหนือกว่า ไม่ได้แปลว่าจะเป็นผู้ชนะเสมอไป
กิเลนผยองแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวอาคันตุกะจากแดนอีสาน และการนำห่าง 3-0 ต่อด้วย 4-1 ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่า เมืองทอง เตรียมตัวรับมือผู้มาเยือนเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณภาพของ บุรีรัมย์ พวกเขาค่อยๆ ยิงคืนทีละลูก กระทั่งมาจบด้วยสกอร์ 4-4 ในท้ายที่สุด
เป็นเกมการแข่งขันที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป ไม่ว่าจะสาวกกิเลนผยองหรือปราสาทสายฟ้า ต่างก็สนุกและตื่นเต้นกับเกมนี้
ทว่าปัญหาเดิมๆ ซึ่งเป็นตัว 'ชะลอ' การเจริญเติบโตของฟุตบอลไทย ยังคงเดินหน้าต่อไปแบบไร้วี่แววที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลง
การตัดสินของผู้ทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันดูจะไม่มีมาตรฐานเอาเสียเลย
หลายๆ จังหวะผิดพลาดแบบน่าฉงนใจยิ่งนัก ไม่ว่าจะเจ้าถิ่นหรือทีมเยือนต่างงุนงงไปกับเสียงนกหวีดที่แปลกประหลาด ราวกับว่าลึกๆ แล้วรู้สึกเกรงใจใครบางคน
แน่นอนว่าถ้าตุลาการสนามฟุตบอลไทย ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่าว่าแต่เรื่องของ 'ความศรัทธา' เลยที่เตรียมมลายหาย หากแต่ยังรวมไปถึงคนทำทีมด้วยความรัก ก็คงจะท้อจิตและเหนื่อยใจ เนื่องจากสู้ไปก็เท่านั้น ในเมื่อมะเร็งร้ายยังคงเกาะกินอยู่ร่ำไป
ไม่ใช่แค่คู่ เมืองทอง กับ บุรีรัมย์ ที่เจอเหตุการณ์มหัศจรรย์ หากแต่ก่อนหน้านั้นยังมีให้เห็นอยู่อย่างสม่ำเสมอ และก็เป็นเช่นนั้นในทุกๆ สัปดาห์
หากปัญหาเดิมๆ ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขแบบจริงจัง โดยมีมาตรฐานสากลอยู่แกนกลาง เชื่อเถิดว่าอนาคตข้างหน้า โอกาสที่คนดูในสนามเหลือน้อยกว่าผู้เล่นจะกลับมาอีกแน่นอน
เมื่อถึงตอนนั้นความฝันที่จะไปฟุตบอลโลกให้ได้สักครั้งก็คงต้องยืดออกไปอีกนานแสนนาน
ชิกกะด้าว