มาโน่นำช้างศึกบินลัดฟ้าสู่มาเลเซียแล้วพร้อมดวลบรูไนนัดแรก

มาโน่นำช้างศึกบินลัดฟ้าสู่มาเลเซียแล้วพร้อมดวลบรูไนนัดแรก
23 ขุนพลช้างศึก ชุดใหญ่ ตบเท้าออกเดินทางจากแดนสยามเมืองยิ้ม บินลัดฟ้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์เรียบร้อย โดย มาโน่ โพลกิ้ง มีเวลานำลูกทีมลงซ้อมเพื่อปรับสภาพร่างกาย 2 วันเต็มที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนเปิดหัวศึกชิงจ้าวอาเซียน 2022 ปะทะบรูไน ทีมที่อันดับโลกต่ำกว่า 79 ขั้น ในวันอังคารที่ 20 ธ.ค.นี้

  ความเคลื่อนไหวของทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทีมอันดับ 111 ของโลก ภายใต้การคุมทีมของ "มาโน่ โพลกิ้ง" โดยมี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม หลังจากที่เพิ่งตัดตัวเหลือ 23 คนสุดท้าย เตรียมความพร้อมไปลุยศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.65 - 16 ม.ค.66

  ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.65 เวลา 19.30 น. ทางด้าน มาโน่ โพลกิ้ง ได้นำนักเตะช้างศึก 23 คน และทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช เดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีแฟนบอลชาวไทย และครอบครัวของนักเตะบางส่วน ที่ร่วมเดินทางมาส่งและส่งกำลังเชียร์ให้ประสบชัยชนะในเกมเจอนัดเปิดสนามพบกับทีมชาติบรูไน ทีมอันดับ 190 ของโลกกันอย่างเนืองแน่นเต็มสนามบิน

  ทั้งนี้ ขุนพลจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะออกเดินทางจากประเทศไทยด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ AK 897 ในเวลา 22.10 เพื่อมุ่งหน้ากรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที ก่อนจะถึงจุดหมายในเวลา 01.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) และใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. ในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจะนั่งรถเข้าพักที่โรงแรม The pearl kuala Lumpur ทันที  มีกำหนดเริ่มลงซ้อมที่มาเลเซียในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. 2565

  สำหรับโปรแกรมของทัพ "ช้างศึก" ในเวทีอาเซียน คัพ ประกอบด้วย วันอังคารที่ 20 ธ.ค. 2565 พบ ติมอร์ เลสเต หรือ บรูไน (เยือน) เวลา 19.30 น. , วันจันทร์ที่ 26 ธ.ค. 2565 พบ ฟิลิปปินส์ เวลา 19.30 น. (เหย้า), วันพฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค. 2565 อินโดนีเซีย (เยือน) เวลา 16.30 น. และวันจันทร์ที่ 2 ม.ค.66 พบ กัมพูชา (เหย้า) เวลา 19.30 น.

    อนึ่ง ทีมชาติไทย คว้าแชมป์อาเซียนคัพมากที่สุด 6 สมัยในปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016, 2020 รองลงมาเป็นทีมชาติสิงคโปร์ 4 สมัย ปี 1998, 2004, 2007, 2012 ขณะที่ทีมชาติเวียดนาม 2 สมัย ปี 2008, 2018 และทีมชาติมาเลเซีย 1 สมัย ปี 2010



ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport