ทีมชาติไทย อกหักทำได้เพียง 'รองแชมป์' อาเซียน คัพ 2024 หลังปราชัยต่อเวียดนามคาบ้านตนเองด้วยสกอร์ 2-3 (รวมผล 2 นัด แพ้ 3-5) ซึ่งแน่นอนว่า 'ความผิดพลาด' มีมากมายเหลือเกิน และนี่คือ 5 ข้อ ที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน
[ 1 ] เกมรับมีปัญหา 'หนัก'
ดูเหมือนว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะพะวงกับ เหงียน ซวน ซอน (ราฟาเอลซอน) มากจนเกินไป ทำให้แท็กติกที่วางมาคือการใช้ผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคนมาคอยสกัดกั้นหัวหอกชาวบราซิล จนเป็นที่มาของประตูที่เวียดนาม ขึ้นนำ 1-0
ส่วนประตู 2-2 ที่ทัพดาวทองตีเสมอก็มาจากการที่ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ หลงตำแหน่ง เพราะพุ่งเข้าไปหาแนวรุกคู่แข่ง จนพื้นที่รับผิดชอบของตนเองเกิดช่องว่าง ขณะที่ประตูสุดท้ายนั้นคงกล่าวโทษใครไม่ได้ เพราะไทย ต้องเทหมดหน้าตักเพื่อทวงสกอร์
อย่างไรก็ตาม 12 ประตู ที่ช้างศึกเสียไปในทัวร์นามเมนต์นี้ บ่งชี้ให้เห็นถึง 'ปัญหา' ชนิดที่หนักหน่วงเอาการ เพราะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เคยมีส่วนร่วมการแข่งขันที่โดนถลุงตาข่ายมากมายเกินเลข 2 หลัก
เข้าใจได้ว่าทีมชุด อาเซียน คัพ 2024 ไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อย ด้วยมาตรฐานของฟุตบอลลีก - ไทย ก็เหนือกว่าทุกชาติในภูมิภาค การก่อความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยจึงไม่ควรจะเกิดขึ้น
ขนาดว่าเกมในที่สอง เหงียน ซวน ซอน อยู่ในสนามแค่ 32 นาที เท่านั้น กองหลังช้างศึกยังป่วนปั่นขนาดนี้
นี่คือ 'โจทย์ใหญ่' ที่ อิชิอิ ต้องพยายามกลับไปแก้ไขให้ได้ เพราะถ้าเกมรับยังหละหลวมเช่นเดิม บางที ฟีฟ่า แรงกิ้ง อาจจะถูกทั้งเวียดนาม และอินโดนีเซีย แซงหน้าในอนาคตอันใกล้
[ 2 ] ประตู 2-1 ไม่ควรเกิดขึ้น
จังหวะดรามากับประตูที่ สุภโชค สารชาติ ยิงให้ไทย พลิกแซง 2-1 ไม่ควรจะเกิดขึ้นจริงๆ แม้ว่าเสียงจะแตกเป็น 2 ฝั่งว่า 'เล่นได้' เนื่องจากผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร กับ 'เตะคืน' เวียดนาม
เหตุการณ์นี้ เริ่มต้นจากการที่ เหงียน ดินห์ ตรือ ผู้รักษาประตูของทัพดาวทองขว้างบอลทิ้ง เพราะเห็นว่ามีเพื่อนร่วมทีมนอนเจ็บอยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษ
แน่นอนว่านักเตะคนที่กองอยู่กับพื้นอาจจะลุกขึ้นมาได้แล้วก็จริง แถมผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สิ่งที่ สุภโชค ตัดสินใจคือสับไกจนบอลโค้งเสียบคานเข้าไปอย่างงดงาม
แนวรุกจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร ไม่ผิดในทางกฎการแข่งขัน แต่ถ้าเป็นเรื่องของน้ำใจนักกีฬา เขาควรจะส่งบอลคืนให้กับฝั่งทีมเยือน เพราะก็เห็นๆ อยู่ว่าผู้รักษาประตูเวียดนาม ขว้างบอลออกนอกสนามแบบชัดเจน
มองผิวเผิน ประตู 2-1 อาจจะไม่มีอะไร เพราะในเมื่อตุลาการสนามตัดสินให้ขึ้นบนสกอร์บอร์ด แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันเป็นการเพิ่มความเกรี้ยวกราดและความฮึกเหิมให้ทัพดาวทองพุ่งสูงปรี๊ดปรอทแตกนั่นเอง
[ 3 ] ใบแดง วีระเทพ คือจุดเปลี่ยน
นอกจากประตู 2-1 ของ สุภโชค สารชาติ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงเกมไปโดยสิ้นเชิงคือใบแดงของ วีระเทพ ป้อมพันธ์ ที่ถูกผู้ตัดสินแจกเป็นเหลืองที่ 2 ก่อนจะเดินออกจากสนามไปตามระเบียบในนาทีที่ 74
เชื่อว่าจังหวะนั้นมิดฟิลด์จาก แบงค็อก ยูไนเต็ด คงจะอยู่ในอารามแห่งความโกรธ เพราะก่อนที่ตนเองจะทำฟาวล์ผู้เล่นเวียดนาม เขาเห็น สุภโชค ถูกนักเตะทีมเยือนหวดแบบไม่ยั้งต่อหน้าต่อตา แถมไร้ซึ่งเสียงนกหวีดจากผู้ตัดสินอีกต่างหาก
มันจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่น่าจะทำให้ วีระเทพ น็อตหลุด ก่อนจะไปทำฟาวล์ จนโดนใบเหลืองที่ 2 นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ที่แข่งขันกันค่อนข้างถี่ ทั้งยังเป็นนัดสุดท้ายของรายการ การที่มีผู้เล่นในสนามน้อยกว่าคู่แข่ง มันจึงแทบจะปิดประตูชนะไปเลยทันที เนื่องจากคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เพราะกรำศึกกันมาหลายวัน ดังนั้นมันจึงเหมือนโยนความได้เปรียบให้ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
ใบแดงนี้คงจะเป็นบทเรียนอันล้ำค่าของ วีระเทพ แน่นอน เพราะมันคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมชาติไทย ไม่อาจป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จอย่างแท้จริง
[ 4 ] ผู้ตัดสินไม่ได้มาตรฐาน
ตลอดทั้ง 90 นาที บวกกับช่วงทดเวลาการแข่งขัน ดูเหมือนว่านกหวีดของ โค ฮยอง-จิน ผู้ตัดสินชาวเกาหลีใต้ จะค่อนข้างเปาลำบากเสียเหลือเกิน เอาง่ายๆ แค่สถิติหลังการแข่งขันในเรื่องของ 'การฟาวล์' ที่ไทย ทำไป 11 ครั้ง แต่ฝั่งเวียดนาม มีเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
แฟนฟุตบอลที่ได้ชมการแข่งขันก็คงจะเห็นพ้องต้องกันว่าทัพดาวทองมีจังหวะเล่นหนักๆ ใส่ช้างศึกนับครั้งไม่ถ้วน
ที่เห็นเด่นชัดสุดมีอยู่ 3 หน
1. ตอนต้นเกมที่ ฟาม ตวน ไฮ กระโดดสองเท้าใส่ โจนาธาร เข็มดี แต่กลับได้เพียงใบเหลือง ทั้งๆ ที่จากภาพช้าก็เห็นชัดเจนว่าแนวรุกหมายเลข 10 เปิดปุ่มสตั๊ดแบบเน้นๆ ซึ่งผู้ตัดสิน VAR อย่าง ชอย ฮยุน-แช ก็ไม่ส่งสัญญาณมาที่กรรมการในสนาม
ไม่กี่อึดใจต่อมา ฟาม ตวน ไฮ คือผู้ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ให้เวียดนาม
2. ก่อนจะมาซึ่งใบแดงของ วีระเทพ ป้อมพันธ์ จังหวะก่อนหน้านั้น โค ฮยอง-จิน ผู้ตัดสินที่ 1 ก็เห็นจะจะเต็มตาของตนเองว่า สุภโชค สารชาติ ถูกนักเตะทีมดาวทองไล่หวดแบบตั้งใจ เนื่องจากกำลังหงุดหงิดที่แนวรุกไทย ยิงประตู 2-1
แทนที่กรรมการจะเป่าตั้งแต่ตอนที่ สุภโชค โดนรุมอัดสองครั้งเน้นๆ เขากลับปล่อยให้เกมดำเนินต่อ มันจึงพลอยให้ วีระเทพ คงจะรู้สึกขุ่นมัวเช่นกัน กระทั่งนำมาซึ่งใบเหลืองที่สองนั่นเอง
3. ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะถูกกองหลังของเวียดนาม สกัดกั้นแบบที่ไม่โดนบอล โดยภาพช้าก็เห็นกันเต็มๆ ตาว่ายังไงก็ฟาวล์แน่นอน แต่ทาง ชอย ฮยุน-แช ซึ่งอยู่ในห้อง VAR กลับเมินเฉยเอาดื้อๆ
แม้จะเหมือนเป็นข้อกล่าวอ้างหลังความพ่ายแพ้ แต่ว่า 3 จังหวะนี้ หากว่าได้ผู้ตัดสินที่มีมาตรฐานระดับสากล รูปเกมก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างแน่นอน
[ 5 ] เปลี่ยนตัวผิดพลาด
หนึ่งในสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ ในทัวร์นาเมนต์นี้คือการเปลี่ยนตัวที่ทำค่อนข้างช้า แม้จะมีเกมที่ตัวสำรองลงไปแล้วแผลงฤทธิ์ แต่กับนัดชิงชนะเลิศ ถือว่าสอบตกโดยสิ้นเชิง
เบนจามิน เดวิส ที่วูบวาบและสร้างปัญหาให้กับแนวรับเวียดนาม กลับถูกถอดออกจากสนาม
เสกสรรค์ ราตรี ได้โอกาสลงสนามทุกเกมครบทั้ง 8 นัด แต่เมื่อมองถึงผลงานของดาวรุ่งวัย 21 ปี ต้องย้อนกลับมาว่ามีนัดใดที่เขาแสดงให้เห็นถึงความหวังที่พอจะฝากไว้ได้บ้าง ยิ่งกับความพ่ายแพ้ต่อทัพดาวทอง 2-3 ที่เจ้าตัวทั้งจ่ายพลาด, จับบอลลั่นและไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในทางบวกเลย
วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่มีประโยชน์มากมายในการจ่ายบอลแนวลึก ทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในเกมก่อนๆ ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงเกมได้แน่ๆ แต่กลับได้โอกาสอยู่ในสนามน้อยนิดซะเหลือเกิน
หลายต่อหลายจุดที่ อิชิอิ ตัดสินใจช้าและผิดพลาดไปหมด
เข้าใจได้ว่ากุนซือชาวญี่ปุ่น ไม่อาจใช้ผู้เล่นได้อย่างเต็มศักยภาพ แถมทีมชุดนี้ก็หาใช่ทีมชุดเต็มสูบ ดังนั้นเขาจึงต้องบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นใจ ผลการแข่งขันจึงออกมาแบบที่ไม่เป็นใจเช่นกัน