ไทยขึ้นที่ 100, ท็อป 10 ยังไม่ขยับ อันดับโลกฟีฟ่า เดือนก.ย.

ไทยขึ้นที่ 100, ท็อป 10 ยังไม่ขยับ อันดับโลกฟีฟ่า เดือนก.ย.
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศผลการจัดอันดับโลกอย่างเป็นทางการ ประจำเดือนก.ย. 2567 โดย 10 อันดับแรกไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ทีมชาติไทยขยับ 1 อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 100 ส่วนในภาพรวมนั้นเป็นทีมชาติบรูไนขยับขึ้นสูงสุดถึง 7 อันดับ กลับกับ กาตาร์ หล่นมากที่สุดถึง 10 อันดับด้วยกัน

ท็อป 10 ทีมชาติ

1 อาร์เจนตินา

2 ฝรั่งเศส

3 สเปน

4 อังกฤษ

5 บราซิล

6 เบลเยียม

7 เนเธอร์แลนด์

8 โปรตุเกส

9 โคลอมเบีย

10 อิตาลี

ท็อป 10 ทีมชาติในเอเชีย (ในวงเล็บหมายถึงอันดับที่ขยับจากเดือนก่อน)

16 ญี่ปุ่น (+2)

19 อิหร่าน (+1)

23 เกาหลีใต้

25 ออสเตรเลีย (-1)

44 กาตาร์ (-10)

55 อิรัก

56 ซาอุดีอาระเบีย

60 อุซเบกิสถาน (+1)

68 จอร์แดน

69 ยูเออี

อันดับทีมชาติอาเซียน

100 ไทย (+1)

116 เวียดนาม (-1)

129 อินโดนีเซีย (+4)

132 มาเลเซีย (+2)

148 ฟิลิปปินส์ (-1)

161 สิงคโปร์

167 เมียนมา (-1)

180 กัมพูชา

183 บรูไน (+7)

187 ลาว (+1)

196 ติมอร์-เลสเต

สำหรับทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้อยู่อันดับ 101 กระทั่งเกมล่าสุดจะเอาชนะ เวียดนาม 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอล LP BANK CUP 2024 พร้อมได้คะแนนสะสมเพิ่มจำนวน 4.5 คะแนน รวมเป็น 1223.06 คะแนน

โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2567 โดยมีโปรแกรมแข่งขันดังนี้

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567

16.30 น.  ซีเรีย (92) พบ ทาจิกิสถาน (103)

20.00 น. ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) (100) พบ ฟิลิปปินส์ (148)

ผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2567 ส่วนผู้แพ้ก็จะแข่งขันกันในนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกัน โดยมีกำหนดการดังนี้

16.30 น. รอบชิงชนะเลิศ อันดับ 3

20.00 น. รอบชิงชนะเลิศ

แฟนบอลที่สนใจ สามารถซื้อได้ที่ เว็บไซต์ https://www.thaiticketmajor.com/.../football-50th-kings... และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

ราคาบัตร

โซน WA/WB/WC/WD : 600 บาท และ AWAY 600 บาท

โซน E : 500 บาท

โซน N1 / N2 / N3 : 300 บาท

โซน S1 / S2 / S3 :300 บาท

รายละเอียดบัตร : บัตร 1 ใบ (ต่อ 1 วัน) สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ 2 แมตช์


ที่มาของภาพ : Getty
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport