เก็บตก 10 ข้อ ทีมชาติไทย บุกกำชัยเหนือเวียดนาม

เก็บตก 10 ข้อ ทีมชาติไทย บุกกำชัยเหนือเวียดนาม
ทีมชาติไทย ชุดสายเลือดใหม่บุกไปเอาชนะเวียดนาม ได้ถึงกรุงฮานอย โดยเกมนี้มีนักเตะหลายรายที่ได้ประเดิมสนามเป็นหนแรก และนี่คือ 10 ข้อที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!

1 เวียดนาม ยังไม่ฟื้น


นับตั้งแต่ พัก ฮัง-ซอ อำลาทัพดาวทองไปเมื่อต้นไป 2023 ดูเหมือนผลงานของพวกเขาจะดำดิ่งอย่างชัดเจน ซึ่งสถิติก็บ่งชี้ว่าย่ำแย่มากๆ กับตัวเลขปราชัยไป 13 จาก 18 เกมหลังสุด (รวมแพ้ไทย 1-2) และรูปนัดเผชิญหน้าช้างศึกก็ดูจะไม่ดุดันเหมือนสมัยที่กุนซือจอมเดือดคุมทีมอยู่ข้างสนาม มันจึงทำให้เวียดนาม กำลังเข้าสู่ยุคถดถอยโดยแท้จริง

2 อิชิอิ กับการให้โอกาสหน้าใหม่

การจัดทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ ถือว่าน่าชื่นชมไม่น้อย เพราะเขากล้าที่จะให้โอกาสแข้งหน้าใหม่ที่เรียกเขามาติดทีมหลายราย โดยเฉพาะ 11 ตัวจริงอย่าง โจนาธาร เข็มดี, วิลเลียม ไวเดอร์สเฌอ, กรวิชญ์ ทะสา และ พาตริก กุสตาฟส์สัน ทั้งยังส่ง อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ กับ อนันต์ ยอดสังวาลย์ สองนักเตะที่ฟอร์มสม่ำเสมอจาก ลำพูน วอร์ริเออร์ส ลงในฐานะตัวสำรอง 

สิ่งที่เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น ทำถือเป็นเรื่องดีต่อทัพช้างศึกในระยะยาว เพราะพวกเขาเหล่านี้คืออนาคตของทีมชาติ แถมการพบเวียดนาม ซึ่งถือเป็นเกมใหญ่ มันจึงเป็นบททดสอบชั้นว่าบรรดาผู้เล่นอายุน้อยจะก้าวข้ามได้หรือไม่ และชัยชนะ 2-1 ก็เป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจทีเดียว

3 โจนาธาร ผ่านฉลุย


ชื่อของ โจนาธาร เข็มดี น่าจะอยู่ในโผทีมชาติไทย มาหลายปีแล้ว แต่มันเป็นเหมือนเส้นขนานที่ยังไม่บรรจบกันสักที กระทั่ง 10 กันยายน 2024 ที่เขาสมหวังกับการได้ประเดิมให้ทัพช้างศึกบนวัย 22 ปี

แม้การประสานงานกับ เอเชียส ดอเลาะ และ สุพรรณ ทองสงค์ จะดูติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง เนื่องจากยังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แต่ผลงานโดยรวมของเซนเตอร์ฮาล์ฟจาก ราชบุรี เอฟซี ถือว่าสอบผ่านแบบสบายๆ ลูกกลางอากาศเก็บกินหมด ทั้งยังสกัดแม่นยำ หากรักษามาตรฐานได้แบบนี้ รับประกันเลยว่าทีมชาติไทย จะได้ประโยชน์จากหมอนี่อีกมหาศาล

4 เอกนิษฐ์ อัปเลเวล


หลังจากตกเป็นเป้าโจมตีมาแสนนาน ในที่สุด เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็ได้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่ค่อยได้รับโอกาสกับต้นสังกัดอย่าง อูราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส ก็ตาม แต่การได้ฝึกซ้อมแบบเข้มข้นกับทีมชั้นนำของญุี่ป่น นั้นช่วยเพิ่มความเก่งกาจให้แนวรุกชาวเชียงราย อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเล่นที่ชาญฉลาด, ความฟิต, ทักษะต่างๆ ที่ดูจะพัฒนาไปอีกขั้น

ตลอดทั้ง 90 นาที นักเตะหมายเลข 8 พยายามพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเขาปรารถนาที่จะช่วยทีมเสมอ ซึ่งสิ่งที่สะท้อนก็อยู่ในสนามหมดแล้ว โดยเฉพาะความทุ่มเทที่เอาชนะแฟนฟุตบอลชาวไทย ไปเต็มๆ

5 กุสตาฟส์สัน มีของ


นี่คือเกมประเดิมสนามในฝันของ พาตริก กุสตาฟส์สัน อย่างแท้จริง กับการยิง 1 และแอสซิสต์อีก 1 พร้อมพาทัพช้างศึกบุกชนะเวียดนาม ได้ถึงถิ่น 2-1 ซึ่งผลงานระดับนี้ย่อมหมายถึงความยอดเยี่ยมที่ศูนย์หน้าเชื้อสายสวีเดนมีเป็นอย่างดี

แข็งแรง, ขยัน, ไม่หวงบอลและมีความเฉียบขาดในจังหวะทำประตู นี่คือสิ่งที่หัวหอกวัย 23 ปี แสดงให้เห็นในเกมนี้ ซึ่งถ้าเขาพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เชื่อได้เลยว่าเขาจะกลายเป็นความหวังใหม่ของทีมชาติไทย ได้แน่นอน

6 หากสนามดี น่าจะมีประตูมากกว่านี้


รูปเกมในครึ่งแรก ไทย เป็นฝ่ายครองเกมแบบชัดเจน แม้จะเสียประตูไปก่อน แต่โดยรวมแล้วทัพช้างสามารถจัดการเจ้าถิ่นได้อยู่หมัด แถมยังไม่มีอาการตื่นตระหนกอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่หลายราย 

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญที่ทำให้เกมไม่ไหลลื่นนั้นมาจากสภาพสนามที่ค่อนข้างขรุขระ จนทำให้การต่อบอลกับพื้นขาดความต่อเนื่อง โดยในหลายๆ ครั้งจะเห็นได้ว่านักเตะไม่สามารถกะจังหวะได้ มันจึงทำให้สกอร์ที่ควรจะได้จึงเหลือเพียง 2 ลูกเท่านั้น

7 ช่วยกันวิ่งตลอดทั้งเกม


สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมทีมชาติไทย ในเกมนี้คือการที่ทุกคนต่างช่วยกันวิ่งตลอดทั้ง 90 นาที ทั้งจังหวะที่มีและไม่มีบอล ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นทั้ง 11 คน ในสนามสามารถทำตามแท็กติกที่ มาซาทาดะ อิชิอิ วางไว้ได้ตามเป้า 

จังหวะเกมรับ แม้แต่กองหน้าตัวเป้าอย่าง พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็ยังลงมาบีบพื้นที่เพื่อไม่ให้เวียดนาม สามารถลำเลียงบอลได้โดยง่าย และด้วยความที่ทุกคนช่วยกัน มันจึงถือเป็นชัยชนะที่ดูแล้วไม่ต้องกังวลใจเท่าใดเลย

8 ช้างศึกยุคใหม่กับลูกกลางอากาศเป็นอาวุธลับ


ในครึ่งแรก มาซาทาดะ อิชิอิ แสดงให้เห็นถึงกึ๋นของการเป็นเฮดโค้ชมากฝีมือ เนื่องจากเขาใช้ประโยชน์จากการที่มีนักเตะลูกครึ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะไม่ว่าจะเป็น โจนาธาร เข็มดี, เอเชียส ดอเลาะ และ พาตริก กุสตาฟส์สัน ต่างก็ทำผลงานได้ดีในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

ประตู 1-1 คือสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแท็กติกของเทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น เป็นผล จากฟรีคิกที่วางบอลให้ กุสตาฟส์สัน โหม่งตั้งให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตีเสมอ รวมไปถึงหลายๆ จังหวะที่ลูกกลางอากาศสามารถสร้างปัญหาให้ทัพดาวทองได้ตลอด

9 แดนหน้าประสานงานไม่ลงตัว


แม้ว่าเกมในครึ่งแรกของไทย จะไฉไลไม่เบา เพราะมีจังหวะเข้าทำมากมาย จนได้มาซึ่งสองประตูและชัยชนะในบั้นปลาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าการประสานงานในแดนหน้านั้นยังดูไม่ค่อยจะเข้าตาเท่าใดนัก

เข้าใจได้ว่านี่คือเจเนอเรชั่นใหม่ของทัพช้างศึก เพราะทั้ง กรวิชญ์ ทะสา และ พาตริก กุสตาฟส์สัน เพิ่งจะประเดิมสนาม ขณะที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็เพิ่งคัมแบ็ก จะมีแค่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เท่านั้นที่เป็นตัวหลักสม่ำเสมอ

ดังนั้นการที่พวกเขายังดูติดๆ ขัดๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะของแบบนี้ต้องใช้เวลา

10 แผนตั้งรับน่ากังวล


เกมในครึ่งแรกของไทย สามารถจัดการเจ้าถิ่นได้เบ็ดเสร็จ แต่พอครึ่งหลังกลายเป็นหนังคนละม้วน ซึ่งก็น่าจะมาจากการที่ มาซาทาดะ อิชิอิ วางหมากไว้เพื่อรอจังหวะสวนกลับ ทว่าแผนการไม่สัมฤทธิ์ผล เนื่องจากถูกเจ้าถิ่นไล่เพรสซิ่งจนบอลไปไม่ถึงแดนหน้า

อย่างไรก็ตาม ยังโชคดีที่เป็นเวียดนาม ยุคกำลังปรับจูนใหม่ มันจึงทำให้ทัพช้างศึกไม่พบกับความกดดันมากนัก แต่ถ้าเป็นชาติที่มาตรฐานสูงกว่า ชัยชนะคงจะยังไม่อยู่กับเราแน่ๆ ดังนั้นการนำอยู่แล้วหันไปตั้งรับจึงไม่น่าจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport