ผลทีมชาติไทย เสมอ จีน ที่เสิ่นหยาง ทำให้เกมสุดท้ายมีความเข้มข้นอย่างยิ่ง
ทีมชาติไทย ต้องชนะสิงคโปร ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ด้วยสกอร์พื้นฐานคือ 3+ โดยไม่เสียประตู ตามเงื่อนไข จีนแพ้เกาหลีใต้
จีนแพ้ ยังไงก็คือ 1 ลูกขี้นไป แต่ถ้าแพ้มากยิ่งทำให้เราได้เปรียบ
บังเอิญคู่ เกาหลีใต้ - จีน ดันเตะก่อนเรา 1 ช.ม.ครี่ง
ตามโปรแกรม AFC แจ้งไว้นั้น คู่เกาหลีเตะ 18.00 น. คู่เรา 19.30 น.
บางทีผลแข่งที่ออกมาพอบอกว่าเราจะเล่นกับสิงคโปรในแบบไหน หรือเป็นไปได้เราอาจตกรอบก่อนลงสนาม หากคู่นั้นเสมอหรือจีน พลิกล็อคชนะ
เอาจริงๆ ไม่ได้ด้อยค่ามังกรจีนชุดนี้นะครับ โอกาสชนะทีมกัปตันซน ฮึง มิน ยากมาก โอกาสเสมอ พอมีทางอยู่ แต่ดูแล้วถ้าโสมขาวเล่นตามจังหวะตัวเอง ไง จีน ก็รอดยาก
นั่นคืออนาคตครับ
สำหรับอดีตที่จบลงไป บอกตรงๆ ว่าน่าเสียดายที่เราได้มาแต้มเดียวจากโอกาสหลายๆครั้งที่เราใช้มันอย่างสิ้นเปลืองในครึ่งแรกที่น่าจะนำ2-3 ลูก
มีการตั้งคำถามกับแต้มเดียวที่ได้ เพราะ มาซาทาดะ อิชิอิ เปลี่ยนตัวผิดพลาดครึ่งหลัง ในจังหวะเปลี่ยน ปฏิวัติ คำไหม และ สันติภาพ จันทร์หง่อม
ในมุมมองของผม ยึดตามหลักการและเหตุผลของโค้ช
จริงอยู่ พอเปลี่ยนแล้วเสียประตูในจังหวะฟรีคิก มันดูเหมือนเป็นเหตุและผลกัน
แต่จะว่าไปการเสียประตูนั้น จีน มีโชคมากกว่าจากการขึ้นโหม่งในจังหวะที่ผิด บอลเลยไปเข้าทาง นักเตะสายเลือดมณฑลซินเจียง อาดูบลี ที่ติดทีมชาตินัดแรกวอลเลย์ง่ายๆเลย
อย่างไรก็ตามผมมองภาพรวมครับ
กระนั้น ผมมองว่าสิ่งที่ อิชิอิ กำลังทำงานกับทีมชุดนี้
ก้าวหน้าครับ
ทั้งเรื่องวินัยเกมรับ ความเข้าใจของนักเตะในแทกติกที่โค้ชวางเอาไว้ เพียงแต่งานสร้างมันก็แบบนี้ ระหว่างทาง ย่อมมีจุดที่ต้องแก้ไข ปรับปรุง
ผลเสมอไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทีมไทยยังมีโอกาสนัดสุดท้าย เพียงแต่เมื่อไม่ชนะ ในเกมการเล่นที่เราน่าจะชนะจีน อิชิอิ เลยต้องรับแรงกระแทกจากความหวังของแฟนๆเยอะเป็นพิเศษ
คหสต ของผม อิชิอิ ทำงานของเขาได้ดีอยู่แล้วครับ
ไม่มีข้อสงสัยอะไรทั้งสิ้น แม้ว่าจะได้มา1 แต้มก็ตาม
JACKIE