กุญแจ 5 ดอกทีมชาติไทย ไข 3 แต้มในรังจีน ...?

กุญแจ 5 ดอกทีมชาติไทย ไข 3 แต้มในรังจีน ...?
ชนะลุ้นต่อ! เสมอลุ้นเหนื่อย! แพ้ตกรอบ! เกมสำคัญของทัพนักเตะทีมชาติไทย เตรียมยกพลบุกฟัดทีมชาติจีน ศึกคัดบอลโลก 2026 รอบสอง นัดที่ 5 กลุ่ม ซี ที่จะเริ่ม 'Battle' ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายนนี้ หรือ (แรม 15 ค่ำ เดือน 6) ณ เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ เวลา 19.00 น. ยิงสดช่อง ไทยรัฐ ทีวี หมายเลข 32

อะไรคือสิ่งสำคัญที่ขุนพลจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาต้องทำในแมตช์นี้? กุญแจดอกนี้อาจใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าจะหาอะไรมาไขไม่ได้ 

ว่าแล้วมาดูกันว่า 5 ประเด็นที่นำมาให้คุณได้อ่าน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นกุญแจ 5 ดอก ทัพ 'ช้างศึก' จะไขได้ทั้งหมดหรือไม่ เพื่อคว้า 3 แต้มกลับมายังแดนสยาม!

ดอกแรก : รับมือแข้งจีน 'แท้-เทียม'

อย่างที่รู้กัน 'จีน' ชุดนี้มีนักเตะโอนสัญชาติ 4 คน ได้แก่ 'ไทอัส บราวนิ่ง' กองหลังที่เกิดเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ และอีก 3 นักเตะชาวบราซิลทั้ง 'แอลเคซอน' ตำแหน่งกองหน้า, 'อลัน' ตำแหน่งศูนย์หน้า และ 'แฟร์นานดินโญ่' ปีกความเร็วที่เพิ่งโอนมาหมาด ๆ เมื่อเดือนมีนาคม

แม้ทีมชุดนี้ของเจ้าถิ่นจะขาด 'อู๋ เหล่ย' ดาวเตะตัวเก่งที่ติดโทษแบน แต่เมื่อนำกองกำลังทั้งแข้ง 'โอน' มาผนึกกับนักเตะสายเลือด 'มังกร' แท้ ๆ ยังมองว่าลูกทีมของ 'บรังโก อีวานโควิช' กุนซือชาวโครเอเชีย ดูดีกว่าทีมชาติไทยพอสมควร ทว่าหาก 'มาซาทาดะ อิชิอิ' วางหมากได้ดี ก็ไม่จะเป็นต้องเกรงกลัวใคร

ดอกที่สอง : แนวรับต้องมีสมาธิทั้งเกม

การขาดหายไปของ 'พรรษา เหมวิบูลย์' ทำให้ต้องจัดคู่หูเซนเตอร์ฮาล์ฟใหม่ แต่เชื่อว่าเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น จะเลือกใช้ 'เอเลียส ดอเลาะ' และ 'สุพรรณ ทองสงค์' ประจำการคุมแนวรับแน่นอน ส่วนแบ็กซ้ายเป็นกัปตันทีม 'ธีราทร บุญมาทัน' และแบ็กขวาที่ขาด 'นิโคลัส มิคเกลสัน' ที่บาดเจ็บ ก็จะใส่ 'ศุภนันท์ บุรีรัตน์' ลงแทน

สิ่งสำคัญของแผงแบ็กโฟร์ 'ช้างศึก' ในเกมนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีสมาธิ จดจ่ออยู่กับเกมตลอด 90 นาที ห้ามวอกแวกเด็ดขาด โดยเฉพาะ 4 ช่วงเวลาทั้ง 15 นาทีแรก, 15 นาทีก่อนจบครึ่งแรก, 15 นาทีครึ่งหลัง และ 15 นาทีช่วงท้ายเกม 

หากเป่านกหวีดมาโดนประตูเร็ว โอกาสกลับคืนสู่เกมที่บ้านของจีน จะยิ่งเป็นงานยากทวีคูณ เพราะฉะนั้นวินัยเกมรับต้องคุมให้อยู่ทั้งเกม

ดอกที่สาม : โป้งเดียวปิดบัญชี

แมตช์สำคัญเช่นนี้ อาคันตุกะช้างศึก ต้องละเอียดทุกฝีก้าว โดยเฉพาะจังหวะการเข้าทำเพื่อจบสกอร์ ที่จำเป็นต้องโป้งเดียวตุงตาข่าย 

ทีนี้ต้องมาลองวัดใจว่า 'มาซาทาดะ อิชิอิ' จะเลือกวางใครเป็นกองหน้าตัวเป้า เพราะทีมชาติไทยชุดนี้มี 'ธีรศิลป์ แดงดา' หัวหอกเบอร์หนึ่งเมืองไทย ที่กลับมาติดอีกครั้งหลังหายเจ็บไปนาน

หรืออีกหนึ่งตัวเลือกอาจจะใช้ 'ศุภชัย ใจเด็ด' กองหน้าดาวซัลโวไทยลีกฤดูกาลล่าสุด ประจำการหน้าเป้าไปก่อนเหมือนกับเกมที่เจอกับ 'เกาหลีใต้' ทั้ง 2 เกมเมื่อเดือนมีนาคม หรือจะส่ง 'ปรเมศย์ อาจวิไล' ดาวยิงฟอร์มแรงจากเมืองทอง ยูไนเต็ด 

อยู่ที่ 'อิชิอิ' จะตัดสินใจ แต่ไม่ว่าใครลงไปเล่น ต้องเฉียบคมและมีความเลือดเย็นในการยิงประตู

ดอกที่สี่ : ลดความเครียดล่าชัยชนะ

สถานการณ์ที่จำเป็นต้องเก็บชัยชนะเพื่อลุ้นตั๋วเข้ารอบ 3 แถมเล่นเป็นเกมเยือน และถูกแฟนบอลชาวไทยคาดหวังมาก แม้จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่บอกเลยว่าไม่มีทางไม่กดดัน 

ทุกคนล้วนมีความเครียดอยู่ข้างในตัว แต่จะมากจะน้อยไม่มีใครรู้ อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะขจัดสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร ก่อนลงสนามไปต่อสู้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด

ท่ามกลางความจุที่ 'เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์' มากถึง 6 หมื่นคน อีกทั้งเกมนี้ถูกจำหน่ายบัตรเข้าชมเกลี้ยงทุกที่นั่ง งานนี้แฟนบอลเจ้าถิ่นเข้าไปเชียร์เต็มอัฒจันทร์แน่นอน 

ซึ่งนักเตะไทยที่ได้โอกาสเป็น 11 ตัวจริง คงต้องใจนิ่งดุจดั่งผาหิน อย่าตื่นสนามกับเสียงเชียร์ เชื่อว่าตรงนี้น่าจะไร้ปัญหา เพราะแข้งไทยต่างมีประสบกาณ์เพียบกับเรื่องนี้ และพร้อมฝ่าด่านกระชาก 3 แต้มให้ได้

ดอกที่ห้า : พลังแฝงนักเตะวัยเก๋า

ศึกนี้นอกจากเป็นเกมสำคัญแล้ว ยังถือเป็นตัวตัดสินว่า ทีมชาติไทยจะได้ลุ้นต่อในนัดสุดท้ายเพื่อตั๋วเข้ารอบ 3 หรือจอดป้ายไว้เพียงแค่รอบ 2 

ทว่าผู้เล่นไทยชุดนี้มีหลายคนที่อาจเป็น 'คัดบอลโลก' หนสุดท้ายก็เป็นได้ เมื่อดูอายุที่เลข 3 กันหลายคน เพราะอีก 4 ปีต่อไป ก็ใกล้ขึ้นเลข 4 หรือบางคน 40 ขวบเรียบร้อย

อาทิ ธีรศิลป์ แดงดา (ครบ 36 ปี วันเตะกับจีน), ธีราทร บุญมาทัน (34 ปี), สารัช อยู่เย็น (32 ปี) และคนอื่น ๆ อีกเพียบที่อายุเลข 3 

เชื่อว่าพวกเขาเหล่านี้ แถมเป็นแกนหลักของทีมที่จะลงหวดกับ 'มังกรแดง' จะลงเล่นเต็มที่ ใจเกินร้อย ทุ่มเทเต็มพิกัด งัดพลังแฝงออกมาหมดเปลือก หรือมีเท่าไหร่ใส่ให้หมดอย่างไม่มีอะไรข้างคาใจเป็นแน่

" กอล์ฟ เบนเทเก้ "


ที่มาของภาพ : SIAMSPORT
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport