ช้างศึกลุย! คาด 11 ตัวจริง ทีมชาติไทย พบ จีน ชี้ชะตาคัดบอลโลก

ช้างศึกลุย! คาด 11 ตัวจริง ทีมชาติไทย พบ จีน ชี้ชะตาคัดบอลโลก
วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน เวลา 19:00 น. ทีมชาติไทย มีเกมสุดสำคัญที่จะชี้ชะตาการผ่านสู่รอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสาเดาใจ มาซาทาดะ อิชิอิ ถึงการจัดตำแหน่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงในระบบ 4-3-3 ที่จะเผชิญหน้าทัพมังกร!!

*** ทีมชาติไทย พบจีน วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน เวลา 19:00 น. ถ่ายทอดสดทาง ถ่ายทอดสดทาง Youtube กับ Facebook Changsuek Official และ ไทยรัฐทีวี (เลข 32) ***

ผู้รักษาประตู: ปฏิวัติ คำไหม

   ครองมือหนึ่งของทีมชาติไทย มาอย่างต่อเนื่อง และมาตรฐานของจอมหนึบจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ค่อนข้างสูงเสียด้วย จนยากที่ใครจะมาแย่งชิงพื้นที่ปราการด่านสุดท้าย อีกทั้งการที่เขาเล่นลูกเท้าได้ดี ดังนั้นเกมกับจีน ปฏิวัติ ก็จองตำแหน่งเดิมเหมือนเช่นเคย

แบ็กขวา: ศุภนันท์ บุรีรัตน์

   น่าเสียดายที่ นิโคลัส มิคเคลสัน ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถบินมาช่วยทัพช้างศึกได้ โดยในตำแหน่งนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกสองนักเตะจากชุด เอเชียน คัพ 2023 อย่าง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ และ สันติภาพ จันทร์หง่อม เข้ามา แต่คนที่น่าจะได้รับเลือกให้ลงสนามคงเป็นฟูลแบ็กจาก การท่าเรือ เอฟซี ที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังอันล้นเหลือ

เซนเตอร์ฮาล์ฟ: เอเลียส ดอเลาะ

   เอเลียส คือตัวเลือกแรกๆ ของ มาซาทาดะ อิชิอิ แม้จะไม่ได้เล่นในเมืองไทย แต่ผลงานของปราการหลังเชื้อสายสวีเดน กับต้นสังกัดที่อินโดนีเซีย ก็จัดว่าเยี่ยมยอด อีกทั้งการที่มีส่วนสูง 1.96 เมตร น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทัพช้างศึกในการรับมือลูกกลางอากาศของจีน ด้วยเช่นกัน

เซนเตอร์ฮาล์ฟ: สุพรรณ ทองสงค์

   โทษฐานที่ มานูเอล ทอม บีร์ห และ พรรษา เหมวิบูลย์ สองเซนเตอร์ฮาล์ฟมากประสบการณ์ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บ มันจึงเป็นโอกาสอันดีของ สุพรรณ ที่จะคว้าไว้ เพราะฟอร์มการเล่นของหมอนี่ตลอดซีซั่น 2023-24 นั้นโดดเด่นจนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด เสียประตูน้อยที่สุดในลีก

แบ็กซ้าย: ธีราทร บุญมาทัน

   ยังไงแบ็กซ้ายของทีมชาติไทย ก็ยังเป็น ธีราทร แน่นอน ด้วยคุณสมบัติครบถ้วน อีกทั้งฝีเท้าของเขาก็อยู่ในระดับทวีป และนักเตะอย่างเขานี่แหละที่จะเป็นคนสร้างความแตกต่างระหว่างเกมได้ในทุกวินาทีที่สัมผัสบอล

กองกลาง: พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี

   ด้วยความที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นกุนซือที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงทีมมากนัก เขาจึงน่าจะเลือก พีรดนย์ ที่ลงเล่นในสองเกมล่าสุดกับเกาหลีใต้ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงเช่นเดิม แม้ว่าระยะหลังกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หมอนี่จะตกเป็นตัวสำรองก็ตาม แต่เมื่อถึงยามรับใช้ชาติ เขาพร้อมทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อทีมเสมอ

กองกลาง: วีระเทพ ป้อมพันธ์

   มิดฟิลด์เท้าซ้ายสถาปนาตัวเองขึ้นสู่การเป็นกองกลางตัวเลือกแรกของทีมชาติเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าฟอร์มในเลกที่สองหลังจากย้ายไป แบงค็อก ยูไนเต็ด จะไม่เด่นเหมือนเล่นให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ยังไงหมอนี่ก็จองตำแหน่งใน 11 คนแรกของทัพช้างศึกแน่นอน

กองกลางตัวรุก: ชนาธิป สรงกระสินธ์

   หากผ่านความฟิต ยังไงทีมชาติไทย ก็ต้องมี ชนาธิป บัญชาเกมอยู่หลังแนวรุก ด้วยสกิลฟุตบอลที่สามารถพลิกแพลงสถานการณ์คับขันได้ดี อีกทั้งยังมีลูกจ่ายแบบคิลเลอร์พาสอันเป็นอาวุธเด็ด เพลย์เมเกอร์ชาวนครปฐม นี่แหละจะเป็นผู้เล่นที่ตัดสินเกมในเสี้ยววินาที

กองหน้าฝั่งขวา: เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์

   แม้ว่าแนวรุกไทย จะอุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดมากมาย แต่เมื่อเทียบฟอร์มปัจจุบัน ยังไงก็ไม่มีใครแซงหน้า เจริญศักดิ์ แน่ๆ ด้วยความเร็วอันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับเซ้นส์ฟุตบอลที่ชาญฉลาด มันจึงทำให้ มาซาทาดะ อิชิอิ ค่อนข้างที่จะชื่นชอบหมอนี่เป็นพิเศษ หลังจากได้ร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ระดับสโมสร กระทั่งถึงทีมชาติ

กองหน้า: ปรเมศย์ อาจวิไล

   นี่คือตำแหน่งที่ 'อาจจะ' เซอร์ไพรส์แฟนๆ แม้ว่า ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าความหวังสูงสุดจะกลับมาลงสนามได้แล้ว แต่เขาไม่น่าจะเล่นครบ 90 นาที ได้แน่ๆ ขณะที่ ศุภชัย ใจเด็ด อาจจะเป็นดาวซัลโว ไทยลีก 2 สมัยติดต่อกันก็จริง ทว่าผลงานเมื่อสวมเสื้อทีมชาตินั้นยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่

   เมื่อเทียบมาตรฐานโดยรวม ณ ชั่วโมงนี้ ปรเมศย์ นี่แหละที่ดูจะเปล่งประกายกว่าคนอื่นๆ 11 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ ในลีกบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าหมอนี่มีประโยชน์ต่อทีมมากเพียงใด และที่สำคัญเขากำลังมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีโอกาสไม่น้อยเลยที่จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

กองหน้าฝั่งซ้าย: สุภโชค สารชาติ

   ตำแหน่งกองหน้าฟากซ้ายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ไม่มีใครแย่ง สุภโชค ได้แน่นอน กับมาตรฐาน เจลีก ที่เขาเป็นตัวหลักของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไปแล้ว และถ้าวันไหนท็อปฟอร์ม ทีมชาติไทย ก็เตรียมเฮได้เลย เพราะหมอนี่คือนักเตะประเภท 'แมตช์ วินเนอร์' นั่นเอง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport