เคบียู สปอร์ต โพล เผยผลสำรวจ ชี้แฟนกีฬาส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของทีมช้างศึกจูเนียร์ ชุดทำศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์คัดเลือกทีมไปโอลิมปิกปารีส จะมีขึ้น 15 เม.ย. - 3 พ.ค.นี้ แต่ไม่มั่นใจทีมไทยจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้หรือไม่ เหตุร่วมสายทีมแกร่ง อย่าง อิรัก และซาอุดิอาระเบีย มองความพร้อมในด้านร่างกายและการเตรียมทีมของ 2 สิ่งสำคัญในการทำศึกรอบนี้ โดยไทย จะประเดิมสนามพบทีมชาติอิรัก ในวันอังคาร ที่ 16 เม.ย.นี้ เวลา 22.30 น. (เวลาไทย)
จากการที่นักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เตรียมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2024 ระหว่างวันที่ 15 เม.ย. - 3 พ.ค. 2567 ที่ประเทศกาตาร์นั้น เพื่อเป็นสร้างการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองของประชาชนในมิติที่เกี่ยวกับความหวังและโอกาสของทีมชาติไทย KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ต โพล) โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง "ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 กับความหวัง และโอกาสของทัพช้างศึกจูนียร์"
สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 2567 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจข่าวสารทางการกีฬา ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,168 คน แบ่งเป็นเพศชาย 683 คน คิดเป็นร้อยละ 58.48 เพศหญิง 485 คน คิดเป็นร้อยละ 41.52 ผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 68.20 สนใจ รองลงมา ร้อยละ 21.66 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 10.14 ไม่สนใจ
เมื่อถามถึงความหวังและโอกาสในการผ่านเข้ารอบลึกๆ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 26.12 ไม่แน่ใจ รองลงมา ร้อยละ 22.70 มีโอกาสค่อนข้างมาก, ร้อยละ 19.30 มีโอกาสมาก, ร้อยละ 16.92 มีโอกาสค่อนข้างน้อย, ร้อยละ 8.28 มีโอกาสน้อย และร้อยละ 6.68ไม่มีโอกาส ด้านทีมคู่แข่งขันร่วมสายที่น่าเกรงขามของทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.98 ซาอุดิอาระเบีย รองลงมา ร้อยละ 32.10 อิรัก และร้อยละ 25.92 ทาจิกิสถาน
ขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลต่อโอกาสและความหวังในการเข้ารอบลึกๆ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 26.70 สมรรถนะและความพร้อมของนักกีฬา รองลงมา ร้อยละ 24.28 ระยะเวลาในการเตรียมทีม, ร้อยละ 20.90 สมรรถนะและความสามารถของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ร้อยละ12.74 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา, ร้อยละ 9.50 การสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง และอื่นๆร้อยละ 5.88
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการ พัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่าแฟนกีฬาให้ความสนใจที่จะติดตามเป็นอย่างมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะการแข่งขันรายการนี้เป็นหนึ่งเกมที่มีความสำคัญต่อทีมชาติไทย นอกจากจะได้แสดงศักยภาพให้ประจักษ์ในระดับเอเชียแล้วยังมีโอกาสที่จะได้ไปร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่างโอลิมปิก หรือ "ปารีส 2024" อีกด้วย เมื่อพิจารณาถึงความหวังและโอกาสในการผ่านเข้ารอบลึกๆแฟนกีฬาส่วนใหญ่ยังแน่ใจกับโอกาสดังกล่าว ซึ่งต่อกรณีนี้คงจะสอดคล้องกับความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่มองว่าอุปสรรคของทีมชาติไทยน่าจะอยู่ที่ความน่าเกรงขามของคู่แข่งขันร่วมสายอย่างซาอุดิอาระเบีย และอิรัก ก็อาจจะเป็นได้
ขณะเดียวกันในการแข่งขันครั้งนี้ถ้าจะกล่าวถึงความหวังและโอกาสของทัพช้างศึกจูเนียร์กับการที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จหรือผ่านเข้ารอบลึกๆได้ไกลแค่ไหนหรือไม่หากพิจารณาถึงปัจจัยหรือองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องพบว่าแฟนกีฬาหรือกลุ่มตัวอย่างต่างชี้ไปที่สมรรถนะและความพร้อมของนักกีฬามาเป็นลำดับแรก สำหรับในมิติที่เกี่ยวกับสมรรถนะและความพร้อมของทีมนั้นต้องยอมรับว่าเป็นที่น่าเสียดายที่โอกาสและความหวังพอจะมีแต่ทีมนี้กลับไม่สามารถระดมขุมกำลังหรือนักกีฬาตัวหลักไปร่วมทัพได้ ผศ.ดร.รัฐพงศ์ ทิ้งท้าย
สำหรับศึก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รายการ AFC U23 Asian Cup 2024 ที่ประเทศกาตาร์ จะแข่งขันระหว่าง 15 เม.ย. - 3 พ.ค.นี้ โดยมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 16 ทีม แบ่งสายออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยจะนำทีมแชมป์กลุ่ม และรองแชมป์กลุ่มผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ โดยทีม 3 อันดับแรกจะผ่านเข้ารอบไปแบบอัตโนมัติ ส่วนทีมที่ได้อันดับ 4 จะต้องไปเล่นเกมเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 4 จากทวีปแอฟริกา
ทั้งนี้ไทยถูกจับอยู่ในกลุ่มซี โดยจะประเดิมลงแข่งขันกับทีมชาติอิรัก ในวันอังคาร ที่ 16 เม.ย.นี้ เวลา 22.30 น. (เวลาไทย) จากนั้นจะลงสนามเกมที่ 2 พบกับแชมป์เก่า อย่าง ซาอุดีอาระเบีย ในศุกร์ ที่ 19 เม.ย.นี้ เวลา 22.30 น. (เวลาไทย) และปิดท้ายเกมในรอบแรก ด้วยการดวลกับทีมชาติทาจิกิสถาน ในวันจันทร์ ที่ 22 เม.ย.นี้ เวลา 22.30 น.(เวลาไทย)