อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ชาวสยามประเทศก็จะได้เปิดบ้านต้อนรับเกาหลีใต้ กับฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสาหาข้อมูลและเรื่องราวที่น่าสนใจมาให้คุณได้อ่านกัน!!
[ 1 ] แรงกิ้งห่างกันไกลโพ้น
แม้ว่าแรงกิ้งอย่างไม่เป็นทางการของไทย จะขยับเข้ามาอยู่ในท็อป 100 ของโลกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังห่างไกลจากเกาหลีใต้ แบบสุดกู่เหมือนเดิม เพราะทัพโสมขาวนั้นอยู่อันดับ 22 ของ ฟีฟ่า โดยเป็นที่ 3 ของเอเชีย
นอกจากนี้ เมื่อเทียบถึงพัฒนาการ เกาหลีใต้ ก็ยังถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อย้อนไปเมื่อปี 2014 พวกเขายังอยู่อันดับ 50 กว่าๆ แต่ด้วยความที่เอาจริงเอาจังกับฟุตบอล มันจึงให้มาตรฐานการเล่นสูงขึ้น จนมายืนหยัดสู้กับชาติชั้นนำของโลกได้แบบไม่เป็นรอง
ขณะเดียวกัน ทีมชาติไทย เองก็เริ่มเป็นไปในทิศบวก และการรั้งอันดับ 101 ของโลก ยังถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในรอบ 14 ปี เลยทีเดียว เนื่องจากตอนนั้นเราอยู่ที่ 98 ของ ฟีฟ่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010
[ 2 ] แชมป์เอเชีย 2 สมัย ปะทะ แชมป์อาเซียน 7 สมัย
ผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ คือการคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แต่ถ้านับเฉพาะถ้วยรางวัลรายการใหญ่ ทัพโสมขาวเคยได้แชมป์ เอเชียน คัพ มาแล้ว 2 หน คือปี 1956 กับ 1960
อย่างไรก็ตาม หากไม่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศ เกาหลีใต้ น่าจะเพิ่มสถิติของตนเองมากกว่านี้ เพราะทะลุไปเล่นเกมสุดท้ายถึง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของทวีป แต่พลาดท่าถึง 4 หน จนได้เพียงพระรองเท่านั้น
ฟากไทย นั้นยังไม่เคยผ่านเข้าไปเล่น เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย และมันยังคงเป็น 'ฝัน' ที่ทุกคนปรารถนา ส่วนรายการใหญ่ๆ ก็เคยมีส่วนร่วมกับ เอเชียน คัพ 7 ครั้ง และผลงานที่ดีที่สุดคือปี 1972 กับการได้อันดับ 3 ทว่าตอนนั้นมีทีมเข้าแข่งขัน 6 ทีม
อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทัพช้างศึกคือเบอร์หนึ่งผู้ยิ่งยงกับการฟาดแชมป์ไปถึง 7 สมัย มากที่สุดในประเทศแถบนี้
[ 3 ] ฮวาง ซุน-ฮง ตำนานเกาหลีใต้ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำไม่ได้เหมือน ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน
ฮวาง ซุน-ฮง กุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ คนปัจจุบัน คือตำนานของประเทศตัวจริงเสียงจริงกับการรับใช้ทัพโสมขาวไปถึง 103 เกม และยิงไป 50 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติอันดับ 2 รองจาก ชา บึม-กึน (58) คนเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะซัดสลุตหยุดไม่อยู่ แต่รางวัล 'ดาวซัลโว' ของ เคลีก คือสิ่งที่เทรนเนอร์วัย 55 ปี ยังไม่เคยทำได้ในสมัยเล่นให้ โปฮัง สตีเลอร์ส, ซูวอน บลูวิงส์ หรือ เชือนนัม ดราก้อนส์
ในทางกลับกัน ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานทีมชาติไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ดินแดนกิมจิร่วมกับ ลัคกี้ โกลด์ สตาร์ (เอฟซี โซล ในปัจจุบัน) เมื่อปี 1985 ด้วยการคว้าแชมป์ เคลีก โดยที่ตนเองคว้าเกียรติยศส่วนตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแอสซิสต์สูงสุด, ติดทีมยอดเยี่ยมและรวมไปถึง 'รองเท้าทองคำ' (12 ประตู)
[ 4 ] 6 แข้งโสมชุดเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ 2022
เกาหลีใต้ เคยได้เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ มาแล้วถึง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดของทวีปเอเชีย โดยหนล่าสุดที่พวกเขาทำได้คือปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้น ฮวาง ซุน-ฮง กุนซือทีมชุดใหญ่คนปัจจุบัน คือเฮดโค้ชของทัพโสมขาวรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นั่นเอง
ด้วยความที่คุ้นเคยกับนักเตะรุ่นนั้นเป็นอย่างดี เขาจึงเรียกผู้เล่นจากทีมดังกล่าวมาสู่เกาหลีใต้ ชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 กับไทย 2 นัด มากถึง 6 ราย ได้แก่ อี คัง-อิน, เชือง อู-เยือง, เชือง โฮ-เยือน, ซง มิน-คยู, ฮง ฮยอน-ซอค และ โซล ยัง-อู
สำหรับทีมชุดแชมป์ เอเชียนเกมส์ 2022 นั้นในรอบแรกพวกเขาเอาชนะไทย ไปได้ในรอบแรก 4-0 ก่อนจะกรุยทางสู่การคว้าเหรียญทองในบั้นปลาย
[ 5 ] 10 นัดหลังสุด เปอร์เซ็นต์ชนะในบ้านของไทย สูง - เกาหลีใต้ เยือนไม่ค่อยดี
จากสถิติ 10 เกม หลังสุด ปรากฏว่าทีมชาติไทย ยามที่เป็นเจ้าถิ่นนั้นทำผลงานได้ดีทีเดียวกับการมีเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 70 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่เกาหลีใต้ นั้นมักจะมีผลงานในการออกไปเยือนไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะเปอร์เซ็นต์ชนะเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวนั้นคงไม่สามารถอ้างอิงได้เสียทีเดียว เนื่องจากเกาหลีใต้ มักจะต้องเผชิญหน้ากับทีมระดับท็อปของโลกอยู่บ่อยๆ ที่สำคัญต้องอย่าลืมว่า 10 นัดหลังสุด เมื่อนับทุกรายการ ไทย เพิ่งจะเอาชนะคู่แข่งได้แค่ 2 เกม เท่านั้น
[ 6 ] ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเยือนราชมังคลากีฬาสถาน
ด้วยความที่ฟุตบอลเกาหลีใต้ รุดหน้าไปเทียบเคียงทีมชั้นนำของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงมีนักเตะชั้นนำที่ค้าแข้งในยุโรป มากมาย ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นเหล่านี้ได้ขัดเกลาฝีเท้าจนก้าวไปยืนอยู่หัวแถวของวงการลูกหนังสากล
เกมกับไทย ในวันอังคารที่ 26 มีนาคมจึงเป็นโอกาสอันดีที่แฟนๆ จะได้เห็นสตาร์ดังอย่าง ซน ฮึง-มิน, คิม มิน-แจ, อี คัง-อิน, อี แช-ซอง, ฮวาง อิน-บอม และคนอื่นๆ มาโชว์ฟอร์มแบบต่อหน้าของคุณ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะน้อยครั้งนักจะเกิดขึ้น
[ 7 ] ผู้ชมล้นทะลัก
จากกระแสทีมชาติไทย ที่กลับมาฟีเวอร์อีกครั้งหลังผลงานใน เอเชียน คัพ 2023 ทำได้ดีเกินคาด แถมยังต่อยอดด้วยการบุกไปเสมอเกาหลีใต้ ได้ถึงถิ่น 1-1 จนส่งพลังถึงมวลชนชาวสยามประเทศที่ต่างเฝ้ารอการมาเยือนของคู่แข่งที่แข็งแกร่ง
บัตรเข้าชมการแข่งขันถูกระบุตั้งแต่ยังไม่ถึงสัปดาห์แรกของการเปิดขาย และคาดการณ์ว่าในวันอังคารที่ 26 มีนาคม จะมีคอลูกหนังจากทั่วทุกสารทิศเดินทางไปที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
แม้หลายรายจะพลาดการเข้าชมเกมชิดติดขอบสนาม แต่ก็มีรายงานระบุว่าจะมี 'จอยักษ์' ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ผู้ที่ไม่มีตั๋วได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์สำคัญของวงการฟุตบอลไทย
นอกจากนี้ 'ตั๋วผี' น่าจะมีราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว เพราะมีคนต้องการจำนวนมาก ซึ่งทำให้พ่อค้า-แม่ขายหัวใสที่เก็บบัตรไว้เก็งกำไรสามารถสร้างรายได้จากตรงนี้เป็นกอบเป็นกำแน่นอน
[ 8 ] อากาศอาจเข้าทางช้างศึก
ตามหน้าเสื่อ แม้ว่าไทย จะเป็นเจ้าบ้าน แต่กระนั้นทัพช้างศึกก็เป็นรองอาคันตุกะแทบทุกอย่าง มีเพียงสองเรื่องเท่านั้นที่แชมป์ อาเซียน 7 สมัย ได้เปรียบเกาหลีใต้ นั่นคือเสียงเชียร์และ 'สภาพอากาศ'
ผู้เล่นโสมขาวชุดนี้เล่นอยู่ในประเทศ 11 คน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาได้ลงสนามในสภาพภูมิอากาศที่เย็นเฉียบ ขณะที่อีก 12 ราย นั้นแบ่งเป็นยุโรป 10 และเอเชีย อีก 2 คน เท่านั้น
เท่ากับว่านักเตะเกาหลีใต้ เกือบทั้งหมดคุ้นชินกับความหนาวเหน็บมากกว่าอากาศที่อบอ้าวสะท้านทรวงของเมืองไทย
ที่สำคัญ เวลานี้เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว แดดเปรี้ยงๆ นี่แหละอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทัพช้างศึกสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แบบที่โลกต้องตะลึงก็เป็นได้