จำราชมังฯได้แม่น!สื่อเกาหลีใต้ตีข่าวเยือนไทยไม่ง่าย-พร้อมจับตาชะตาโค้ช(มีคลิป)

จำราชมังฯได้แม่น!สื่อเกาหลีใต้ตีข่าวเยือนไทยไม่ง่าย-พร้อมจับตาชะตาโค้ช(มีคลิป)
ยอนฮับนิวส์ สื่อเกาหลีใต้ตีข่าว ทีมฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ ในการเยือน ทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม ซี พร้อมตั้งข้อสงสัย จะเป็นเกมสุดท้ายของ ฮวาง ซุน ฮง กุนซือทีมชาติหรือไม่?

ยอนฮับนิวส์ รายงานข่าว คืนพรุ่งนี้ (วันที่ 26 มี.ค.) ทีมฟุตบอลทีมชาติจะลงเล่นนัดที่ 2 ของฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม ซี กับ ทีมชาติไทย

มีความสนใจอย่างมากว่าทีมชาติที่เสมอมาในเกมแรก ในเกมที่เล่นในบ้าน จะได้รับข่าวดีเก็บชัยชนะได้หรือไม่

นี่คือนักข่าว กวัก จุน-ยอง [ผู้สื่อข่าว] รายงาน

ฟุตบอลทีมชาติที่นำโดยโค้ช ฮวาง ซุน ฮง จะเล่นรีแมตช์กับ ทีมชาติไทย ในเกมเยือน ที่กรุงเทพฯ

"แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงสามวัน แต่นักเตะก็ซ้อมแทคติกกันอย่างเข้มข้นในสภาพอากาศร้อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลงสนาม

[ฮวาง ซุน ฮง / โค้ชทีมฟุตบอลชาติ] "อากาศร้อนอาจเป็นความลำบาก แต่ผมวางแผนที่จะให้นักเตะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น และเตรียมกลับบ้านพร้อมกับชัยชนะในเกมที่สอง"

แม้ในช่วงเย็นของเกมจริง อุณหภูมิท้องถิ่นน่าจะเกิน 30 องศา และความชื้นประมาณ 70-80% ดังนั้นสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้นอาจเป็นตัวแปรสำหรับเรา

นอกจากนั้นกองเชียร์ไทยในสนาม ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คนก็ถือเป็นงานยากเช่นกัน

แถมสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่จะจัดครั้งนี้ ยังเป็นสนามที่ ทีมชาติไทย เคยเอาชนะเราในเอเชี่ยนเกมส์เมื่อ 26 ปีที่แล้ว

แม้จะมีความยากลำบาก แต่โอกาสในการชนะของ ฮวาง ซุน ฮง ก็ยังคงสูงตามมาตราฐานความแข็งแกร่งของเขา

ทีมชาติที่ยืนยันว่ารวมทีม "เป็นหนึ่งเดียว" ในเกมที่แล้ว มุ่งมั่นที่จะตอบแทนแฟน ๆ ด้วยผลการแข่งขันในครั้งนี้

[ฮวาง ซุน ฮง / โค้ชทีมชาติ] "ผมคิดว่าถ้าความพยายามของเราไม่มากพอ ผลงานเกมที่สองอาจจะไม่ดี ผมจึงบอกว่าเราควรเตรียมตัวสำหรับเกมที่สองด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น และผมคิดว่านักเตะทุกคนมีทัศนคติแบบเดียวกัน"

โดยในเกมนี้นอกจากผลการแข่งขันแล้ว เกมนี้ยังได้ให้ความสนใจว่า โค้ชชั่วคราว ฮวาง ซุน ฮง ซึ่งล้มเหลวในการคว้าชัยชนะในนัดแรก จะสามารถคว้าชัยชนะอันมีค่าในการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ได้ไหม ซึ่งจะเป็นนัดสุดท้ายของเขาภายใต้สัญญาของเขาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม


ที่มาของภาพ : 연합뉴스TV
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport