ถ้าจะมีความกังวลอยู่บ้างเมื่อครั้งที่เลือก เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ เข้ามารับตำแหน่ง ก็อาจจะเป็นการที่คลิ้นซี่ห่างหายจากการคุมทีมข้างสนามมา 7 ปีเข้าไปแล้ว
ไม่ใช่เรื่อง Disrespectful - ความไม่เคารพให้เกียรติกันอย่างที่เป็นอยู่
อันที่จริงแล้วเราคงปักใจเชื่อไม่ได้เสียทีเดียวว่า คลิ้นส์มันน์ ทำงานไม่เต็มที่กับทีมชาติเกาหลีใต้ การไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลีใต้และใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ ถิ่นพำนักไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำงานให้ผู้ว่าจ้างอย่างสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้แบบขอไปที
เขาอาจจะทำงานหนักไม่แพ้การไปทำงานในแดนโสมขาวก็ได้
นั่นเป็นเรื่องที่เราไม่รู้ แต่ทุกอย่างล้วนตัดสินกันด้วยผลงาน ที่สำคัญคือตัวคลิ้นส์มันน์เป็นคนพูดเอาไว้เองว่าขอให้ใช้ทัวร์นาเม้นต์เอเชียน คัพ กาตาร์ 2023 ตัดสินเขา ไม่ใช่ตัดสินด้วยการอยู่หรือไม่อยู่ทำงานในประเทศ เพราะโลกวันนี้ไกลคือใกล้ ทุกอย่างเชื่อมโยงกันได้หมด อยู่อีกฟากโลกก็สามารถทำงานได้
มองในมุมของคลิ้นส์มันน์ก็มีเหตุผลรองรับ ทีมชาติเกาหลีใต้วันนี้มีนักเตะแกนหลักจากกลุ่มที่ค้าแข้งในยุโรป การอยู่ในเกาหลีใต้จะแตกต่างอะไรไปจากการอยู่ที่ลอส แองเจลีส ประชุมผ่านวีดีโอคอลล์ได้ ส่งทีมงานไปดูผลงานนักเตะในเคลีกได้ ส่วนตัวเองก็ทำงานประสานกับผู้คนในภาคพื้นยุโรปได้
โอเคเรื่องตรงนั้นไม่ว่ากัน เราคงไม่ปรักปรำใครง่ายๆ ว่าทำงานหรือไม่ทำงานเพียงเพราะยังไม่เห็นการทำงานของเขาจริงๆ จังๆ ทำไมถึงจะเป็นไปไม่ได้ว่าคลิ้นส์มันน์ทุ่มเทรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้อย่างเต็มที่แม้ตัวเองจะอยู่ต่างแดน
สื่อเกาหลีใต้คำนวนระยะเวลาการอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ของคลิ้นส์มันน์ว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของการทำงาน เขาอยู่ในเกาหลีใต้แค่ 67 วันเท่านั้น
67 วัน จาก 180 วัน
ในมุมมองของผม มันไม่น่าแปลกใจหรอกครับที่แฟนบอลเกาหลีใต้จะรู้สึกติดลบกับการทำงานของคลิ้นส์มันน์ ไม่จำเป็นต้องเอาผลการเตะอุ่นเครื่อง 5 เกมแรกที่เอาชนะใครไม่ได้เลยมาพิจารณาด้วยซ้ำ (แพ้อุรุกวัย แพ้เปรู เสมอโคลอมเบีย เสมอเอล ซัลวาดอร์ เสมอเวลส์) แต่การทำงานอยู่ในประเทศที่เขาจ้างคุณแค่ 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมดมันก็ชวนให้รู้สึกไปในทิศทางนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
นักเตะในเคลีกฟาดแข้งกันทุกสัปดาห์แทบไม่เคยเห็น คลิ้นส์มันน์ โผล่เข้าไปชมเกมในสนาม จะบอกว่าทีมโสมขาวยุคนี้ใช้แกนหลักจากต่างแดนอย่าง ซน ฮึง-มิน, คิม มิน-แจ, อี คัง-อิน, ฮวาง ฮี-ชาน ฯลฯ นั่นไม่เถียง แต่คุณไม่คิดจะสนใจผลงานของนักเตะที่อาจเป็นเพชรเม็ดงามที่ยังไม่ได้รับโอกาสไปยุโรปหรือกำลังรอโอกาสนั้นอยู่เลยหรือ
ไม่ไปดูให้เห็นกับตาตัวเองหน่อยหรือว่าไอ้กองหน้าคนนี้ กองกลางคนนั้น หรือกองหลังคนนู้นมันดีจริงอย่างที่คนเขาเชียร์กันหรือทีมงานของตัวเองแนะนำ
ไม่เพียงเท่านั้นที่บอกว่าทีมชาติเกาหลีใต้ใช้นักเตะในยุโรปเป็นหลักนั้นเป็นหลักกันกี่คน รายชื่อในฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 เกาหลีใต้โดยกุนซือ เปาโล เบนโต้ เรียกนักเตะในเคลีกติดทีม 14 คนจากทั้งหมด 26 คน คิดเป็นสัดส่วนเกินครึ่ง
ในฟุตบอลเอเชียน คัพ กาตาร์ 2023 เอง คลิ้นซี่ก็เลือกนักเตะจากเคลีกในทีมของเขาถึง 11 คนจาก 26 คน คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่ง
สำคัญไหมสำหรับนักเตะที่เล่นในประเทศที่คุณทำงานที่นั่นแค่ 1 ใน 3 ของระยะเวลาทั้งหมด และสายตาของทีมงาน สตาฟฟ์ หรือใครก็ตามที่คุณส่งไปดูแทน คุณอาจจะไว้ใจพวกเขาแต่ถ้าได้ดูด้วยตาตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้นจะดีกว่าไหม
อันนี้ย่อมเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจแฟนบอล ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามีความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้น เราจ้างคุณ คาดหวังความสามารถของคุณมาช่วยพัฒนาฟุตบอลของเราขึ้นไปอีกระดับ เราจริงจังที่สุดกับคุณ แต่ดูเหมือนคุณไม่ค่อยจริงจังกับเราเลย ดูทิ้งขว้างเราอย่างไรก็ไม่รู้
โอเคครับในเมื่อคลิ้นส์มันน์บอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินเขาจากการอยู่หรือไม่อยู่ทำงานในประเทศเกาหลีใต้ แต่ให้ตัดสินจากผลงานในเอเชียน คัพ มันก็ออกมาให้เห็นแล้วนี่ไง
เกาหลีใต้ที่เหมือนจะดูดีขึ้นจากการชนะรวด 6 เกมติดก่อนเข้าทัวร์นาเม้นต์ชิงแชมป์ทวีปที่กาตาร์กลับต้องกระเสือกกระสนแทบทุกเกม เสียประตูทุกนัด และเอาชนะคู่แข่งในเวลาปกติ 90 นาทีได้แค่เกมเดียวเท่านั้นคือนัดแรกกับบาห์เรน (3-1)
ต้องไล่ตีเสมอจอร์แดนทดเวลา 2-2 ถูกมาเลเซียยิง 3-3 นาที 90+15 เข้ารอบน็อกเอ๊าต์ไปต้องไล่ตีเสมอซาอุดีอาระเบียนาที 90+9 ต่อด้วยตีเสมอออสเตรเลียนาทีบาปอีกครั้ง 90+6
บางคนแอบคิดว่านี่คือคุณสมบัติของแชมป์ ตายยากตายเย็น ฟืนคืนชีพกลับมาได้เสมอ และเมื่อ ญี่ปุ่น เต็งหนึ่งร่วงตกรอบไปแล้ว เกาหลีใต้จึงขึ้นเป็นเต็งหนึ่งทีมใหม่แทนเมื่อทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศแม้ จอร์แดน คู่ต่อกรจะเคยทำเอารากเลือดในรอบแรกก็ตาม
แล้วสุดท้ายเกาหลีใต้ก็ได้สิ้นชื่อจริงๆ เกมแพ้ จอร์แดน 0-2 ที่ อัล-รายยาน คือความผิดหวังอย่างที่สุด แพ้แบบที่พูดได้ว่าเอ๊าต์คลาส ตลอดทั้งเกมยิงไม่ตรงกรอบเลย
ไม่มีลูกฮึด ไม่มีฟื้นคืนชีพ ไม่มีโกงความตายให้เห็นอีกแล้ว
แฟนบอลเกาหลีใต้ย่อมผิดหวังมาก พวกเขารอคอยแชมป์เอเชียสมัยที่ 3 มา 64 ปี ไม่ได้แชมป์อีกเลยนับตั้งแต่เหมา 2 สมัยแรกที่ยังมีทีมเตะแค่ 4 ชาติเท่านั้น เส้นทางก็สะดวกโยธินเพราะญี่ปุ่นร่วงไปแล้วแถมยังเจอจอร์แดนของเบาที่จะดีจะแย่เกาหลีใต้ก็ยังไม่เคยแพ้ทีมชาตินี้มาก่อน
ในภาพรวมของทัวร์นาเม้นต์ เกาหลีใต้จึงออกมาดูซึมกระทือ ไร้แรงดึงดูด ทีมเวิร์คไม่น่าประทับใจ เอาเข้าจริงไม่มีเกมไหนเลยที่พวกเขาเล่นได้อย่างชนะใจคนดูไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมารูปไหน
สื่อโสมขาววิจารณ์หนักถึงขั้นนิยามฟุตบอลของคลิ้นส์มันน์ในรายการนี้ว่าเป็น Zombie football
Zombie football - ฟุตบอลผีดิบ ฟุตบอลไร้วิญญาณ ฟุตบอลซังกะตาย แล้วแต่จะใช้คำไหน - ในทัวร์นาเม้นต์ที่คลิ้นส์มันน์บอกว่าให้ใช้มันเป็นเกณฑ์ในการตัดสินผลงานของเขา
ก็นั่นล่ะครับ ผลลัพธ์ออกมาอย่างที่เห็น
ถามว่าเข้าถึงรอบตัดเชือกถือว่าล้มเหลวไหม มองอย่างเป็นธรรมมันก็เป็นรอบที่ลึกมากและระหว่างทางทีมโสมขาวยังแสดงแคแร็กเตอร์ตายยากออกมาในเกมกับซาอุดีอาระเบียและออสเตรเลีย แต่โจทย์ของคลิ้นส์มันน์นั้นยากขึ้น เกณฑ์วัดสูงขึ้นเพราะการทำงานของเขาเอง
มองในโลกอีกมิติหนึ่ง คลิ้นส์มันน์ย้ายมาลงหลักปักฐานที่เกาหลีใต้ ทำงานแบบฟูลไทม์ให้เห็นเหมือนกุนซือต่างชาติคนอื่นๆ เดินทางไปดูเกมเคลีกทุกสัปดาห์ กระแสต่อต้านเขาและมีอคติกับเขาคงไม่มากขนาดนี้ และการเข้าถึงรอบรองฯ เอเชียน คัพ แม้จะน่าผิดหวังแต่แรงกระเพื่อมก็คงไม่มหึมาอย่างที่เป็นอยู่แน่
วิธีการทำงานของคลิ้นส์มันน์ทำให้โจทย์ของเขาโหดหินเอง ต้องแชมป์หรืออย่างน้อยก็ต้องเข้าชิงและเล่นฟุตบอลที่เปี่ยมด้วยจินตนาการเลอเลิศออกมาให้เห็นด้วย ก็ถ้าคุณเลือกที่จะทำงานให้ดูเหมือน Disrespectful - ไม่เคารพให้เกียรติทีมชาติของเรา คุณก็ต้องมีผลงานสุดยอดมาปิดปากเราให้เถียงไม่ออก ถูกไหม
ผลการประชุมของคณะกรรมการพิเศษของสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (KFA) มีความเห็นเกี่ยวกับตำแหน่งโค้ชใหญ่ทีมชาติเกาหลีใต้ของคลิ้นส์มันน์ว่า ไม่เหมาะสมอีกต่อไป ควรเปลี่ยนให้คนอื่นมาทำงานแทน การแยกทางกับอดีตกุนซือทีมชาติเยอรมันและสหรัฐอเมริกาเป็นทางออกที่ควรรีบทำที่สุด
เป็นข่าวใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลเกาหลีใต้เมื่อวานนี้
หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับ KFA แล้วครับว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะสัญญาของคลิ้นส์มันน์มีไปถึงจบฟุตบอลโลกปี 2026 ค่าชดเชยจึงมหาศาลพอสมควร
น่าเสียดายเหมือนกันนะครับที่ คลิ้นส์มันน์ ซึ่งมีพร้อมทุกอย่างทั้งชื่อเสียง บารมี และการเป็นที่พูดถึงในเรื่องความกล้าคิดกล้าทำสิ่งใหม่ๆ อย่างตอนที่นำทีมชาติเยอรมันสู้ศึกฟุตบอลโลก 2006 ด้วยระบบหลังสี่ จะต้องลงเอยด้วยสถานะถูกต่อต้านแบบนี้ เป็นวิกฤติศรัทธาที่ไม่มีใครเชื่อถือเขาอีกต่อไป อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของแฟนบอลชาวเกาหลีใต้
งานฟูลไทม์ แต่ทำงานเหมือนพาร์ทไทม์.. คุณห้ามความรู้สึกของผู้คนไม่ได้หรอกจากลักษณะการทำงานของคุณ
เสียงวิจารณ์พร้อมจะพุ่งใส่คุณทันทีที่ทีมมีปัญหา ดูเอาเถิดกระทั่งยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับผลงานของทีมยังถูกจับไปเป็นประเด็นจริงจังว่ายิ้มทำไม
ไม่มีอะไรปกป้องเขาได้เลยนอกจากผลงานในสนามเท่านั้น
ผลงานในสนามล้วนๆ ที่จะคุ้มกันเขาและบอกกับทุกคนว่าเขาอาจจะดูเหมือนทำงานพาร์ทไทม์แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่คิด
น่าเสียดายที่คลิ้นส์มันน์ทำไม่สำเร็จ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกไหม..
เสียงของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ จึงเบา และเบาลงทุกที จนต้องตกเก้าอี้กุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ โดยพกเอาคำว่า Zombie football กลับแอลเอไปด้วย
-ตังกุย-