รากฐานพัฒนาบอลไทย! ศูนย์ฝึกฟุตบอลฯครบวงจรนับหนึ่งการก่อสร้าง

โดยภายในพิธีเปิดโครงการยังมี ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายสมาคมฯในฐานะ ประธานคณะกรรมการการก่อสร้างศูนย์ฝึกฯ, พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ ลัขณานันต์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกสมาคมฯ อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมฯ, ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมฯ, ทรงยศ กลิ่นศรีสุข รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค, พล.ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมฯ และ สื่อมวลชน

"บิ๊กอ๊อด" เผยว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอบพระคุณ ทางอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่ให้การสนับสนุน รวมถึง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขอใช้พื้นดินกว่า 100 ไร่ ในการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติแบบครบวงจรแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นสถานที่แรก ที่จะเป็นศูนย์ฝึกแบบเต็มระบบ ครั้งแรกนับตั้งแต่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อตั้ง มานานกว่า 108 ปี"

"สำหรับศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติแห่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับการวางรากฐานกีฬาฟุตบอล ซึ่งทางฟีฟ่านั้นใส่ใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้ให้งบประมาณในการก่อสร้างศูนย์ฝึกแห่งนี้ขึ้นมา เพราะเราน่าจะเห็นในหลายประเทศว่าพวกเขามีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ เป็นรากฐานของการพัฒนาฟุตบอล และมีการขยายไปตามแต่ละภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างรากฐานให้ฟุตบอลในประเทศแข็งแกร่ง"

"ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ทางฟีฟ่า จะควบคุมกำกับดูแลในทุกกระบวนการเพื่อให้การก่อสร้างศูนย์ฝึกแห่งนี้ มีมาตรฐาน และไม่สามารถนำเงินงบประมาณตรงนี้ ไปทำในส่วนอื่นได้ และต้องเป็นไปตามเป้าหมายที่ทางฟีฟ่า วางไว้"

"อย่างประเทศอื่นๆ เราจะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้ก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้เราได้เริ่มต้นนับหนึ่งก็คาดหวังว่าศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งนี้ จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาฟุตบอลต่อไปในระยะยาว"

ด้าน นาย ยุทธนา หยิมการุณ ประธานคณะกรรมการการก่อสร้างศูนย์ฝึกฯ กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณ ท่านนายกสมาคมฯ พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ไว้วางใจแต่งตั้งให้ผมเป็นประธานคณะทำงานการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ครบวงจร ในครั้งนี้ หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้ง ผมและคณะทำงานก็เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้การก่อสร้างศูนย์ฝึกแห่งนี้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม จนถึงวันนี้ เราจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งในการทำพิธีเปิดโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ แบบครบวงจร" 

"อย่างที่ทุกท่านทราบกันนี้ ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ท่านมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะวางรากฐานไว้ให้วงการฟุตบอลไทย มีความมั่นคง ทั้งระบบ 4 ด้าน ประกอบด้วย  1.การพัฒนาโครงสร้างองค์กร , 2 การยกระดับและพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุด , 3 การพัฒนาฟุตบอลลีกอาชีพของไทย  และ 4. การพัฒนาด้านเทคนิค วันนี้ เรากำลังจะได้เริ่มโครงการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่เป็นภารกิจสำคัญในการวางโครงสร้างพื้นฐาน ของท่านนายกฯ ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที หลังจากที่ผ่านมา ประเทศไทย ยังไม่เคยมีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่ทันสมัยและครบวงจรมาก่อน" 

"โดยที่ผ่านมา ท่านนายกฯ ได้สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลชั่วคราวไว้ 1 แห่ง คือที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะทีมชาติไทยของเรามีหลายชุด ทั้งชายหญิง นี่คือสาเหตุหลักที่เราจะต้องมีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติแห่งแรกซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาฟุตบอลตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับสูงสุด เพราะ ศูนย์ฝึกแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่เก็บตัวของ นักฟุตบอลทีมชาติไทยแล้ว ทางสมาคมฯ ก็ยังสามารถต่อยอดในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟุตบอลระดับรากหญ้า สำหรับเด็กๆ และเยาวชน, การพัฒนาศักยภาพของผู้ตัดสิน, การอบรมผู้ฝึกสอน รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ มากมาย ทำให้ที่นี่ สามารถใช้คำว่า ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติแบบครบวงจรได้ 

"สุดท้ายต้องขอบคุณ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ที่ให้การสนับสนุนในเรื่องของเงินทุน และขอบคุณทุกๆ หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ขอบคุณ พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่มีความมุ่งมั่นในการวางรากฐานให้ฟุตบอลไทยและไม่ยอมแพ้ ตลอด8 ปีในการทำหน้าที่บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผมเชื่อวันนี้จะเป็นก้าวแรก และเป็นก้าวที่จะสร้างมั่นคงให้แก่วงการฟุตบอลไทย สำหรับวันนี้ถือเป็นวันดี เป็นฤกษ์ยามอันมงคลยิ่ง จึงได้เชิญ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการก่อสร้างการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ครบวงจร "

สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ครบวงจร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างจากฟีฟ่า ตามโครงการ FIFA Forward 3.0 เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาฟุตบอลของชาติ ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน (GrassRoots)ไปจนถึงการยกระดับทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ทั้งชายและหญิงทุกรุ่นอายุ ตลอดจนบุคลากรฟุตบอลในทุกๆ มิติรวมถึงเพื่อประโยชน์ทางราชการ และประโยชน์ แก่ประชาชนในโอกาสต่างๆ