สำหรับแฟนบอลเจนเนอเรชั่นนี้ และทุกคนที่ผ่านการเชียร์ทีมชาติไทย ต่างมีประสบการณ์คล้ายๆกัน นั่นคือเราได้ทั้งความสุขและความทุกข์ คละเคล้ากันไปโดยที่ทีมชาติไทยของเราก็ยังคงก้าวไม่ข้ามอาเซียน พอถึงระดับทวีปเราก็ไปอยู่ใกล้ๆพรมแดนของทีมระดับทอป ยังไม่ข้ามแดนเข้าไป
เหมือนเกมล่าสุดเราดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการเล่นตลอดสามนัดรอบแรกและสุดท้ายก็ทำได้ดีแต่ไม่ดีพอที่จะผ่านอุสเบกิสถานได้ไปต่อ
สำหรับเจนผม 50+ เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้ว ในวันที่ทีมชาติไทยมีแต่ข่าวอื้อฉาว ล้มบอล เล่นไม่เต็มที่ มาจนถึงการชนะญี่ปุ่น 5-2 ก่อนได้ที่4 เอเชียน เกมส์
ยุค คาร์ลอส คาร์วัลโย , ปีเตอร์ วิธ ที่มีบิ๊กหอย ธวัชชัย สัจกุล, พี่ก๊อง วิรัช ชาญพานิชย์ น้าชัช ชัชชัย พหลแพทย์ ดูแลทีมกัน
ชุด คาร์ลอส ไม่มีพี่ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน แต่ไปล้มเจ้าภาพจีนในวันชาติ เข้ารอบรองชนะเลิศ และจบที่สี่เอเชียนเกมส์ สมัยยังเป็นทีมชาติชุดใหญ่ลงแข่งขันกัน ต่อด้วยชุด ปีเตอร์ วิธ ได้ที่สี่เอเชียนเกมส์ ในบ้านเรานี่แหละ
ประสบการณ์มีความสุขกับทีมชาติชุดใหญ่เที่ยวล่าสุด ทำให้ย้อนนึกถึงความสุขเมื่อ 30-40 ปีก่อน
โดยเคล็ดไม่ลับคือ....ซ้อมหนัก วินัย เข้ม ไม่ง้อสตาร์ นักเตะเล่นดีทุกคน และมีผลงานที่แฟนบอลมีความสุขเมื่อเราเล่นกับทีมระดับทวีปได้ดีจริงๆ
แน่นอนยุคไทยลีก เราแฮปปี้กับ โค้ชซิโก ซึ่งมาคล้ายๆกัน เพียงแต่พอถึงระดับทวีปในการคัดบอลโลกมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสมาคมที่มองว่า ซิโก ไม่ใช่คนที่ตัวเองเลือก ก็ต้องเปลี่ยน ทั้งที่เขาก็ทำมาต่อเนื่อง
โอเค...มาจนถึงราเยวัช, นิชิโนะ และ อิชิอิ ในยุค 8 ปีของผู้บริหารองค์กรชุดปัจจุบันก่อนมีผลงานที่ยอดเยี่ยมรายการใหญ่อย่าง เอเชียน คัพ ครั้งนี้
แล้วจากนี้จะไปไงต่อ...
ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของ อิชิอิ แล้วก็ต้องบอกว่า "อาริกาโตะ โคไซมัตสึ" กันเลยทีเดียว ทั้งกระตุ้นและกระทุ้ง ไปในตัว
เขากระตุ้นนักเตะก่อนเลยหลังแพ้อุสเบกิสถาน
"เมื่อกลับไปสโมสรแล้ว ขอให้พยายามทำผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ยกระดับตัวเองขึ้นมาอีก ไม่ว่าอะไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเราขอให้พยายามพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ"
อย่างที่ทราบกันดีแฟนบอลมักวิจารณ์ว่านักเตะพอติดทีมชาติแล้ว คิดว่าติดแล้ว ไม่พัฒนาตัวเองต่อ ยิ่งเล่นสโมสรรายได้เดือนละครึ่งล้าน เงินมันหนักเท้าเวลาเล่นให้ทีมชาติแล้ววิ่งไม่ถนัด
อิชิอิ มาทำให้นักเตะทีมชาติไทยวิ่งได้คล่องขึ้น ต่อสู้มากขึ้น อย่างที่เราเห็น ก่อนที่เขาจะย้ำว่า "กลับไปสโมสรต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น"
เหมือนเขารู้ปัญหา...
จากนั้นบอกว่า
"สนามแห่งนี้ (อัล ยานูบ สเตเดียม) เป็นสนามที่ใช้แข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมานะครับ ผมอยากให้สนามต่อไป อาจไม่ใช่สนามนี้ เรายังมีโอกาสที่จะไปฟุตบอลโลก เพราะฉะนั้นพยายามทำให้ได้ ชนะ แล้วก็มีความสุขกับมัน แล้วเราจะไปด้วยกัน สู้ๆ ไปด้วยกันนะทุกคน ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ"
จิตวิทยาโค้ชทุกคนที่ต้องมีอยู่แล้ว เน้นใส่ใจรายละเอียด ปลุกใจ นักเตะแพ้ได้แต่อย่าคอตก ต้องเดินเชิดหน้ามองฟ้า อะไรทำนองนั้น
กระตุ้นนักเตะแล้ว กระทุ้งองค์กรผู้รับผิดชอบอันนี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง
"จากเกมนี้ ก็มีสิ่งที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่เฉพาะทีมชาติไทย อย่างเดียวแต่รวมถึง ไทยลีก และ สมาคมฯ ผมมองว่ามันไม่ใช่แค่ทีมชาติ"
"เราต้องพยายามต่อยอดอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกภาคส่วนก็มีความสำคัญ ทั้งฟุตบอลในประเทศ และสมาคมฯ ก็ต้องปรับปรุงทั้งระบบ และช่วยกันเพื่อเดินหน้าไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้"
เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น กล่าวปิดท้ายว่า "แน่นอนว่านักเตะทุกคนที่มาในทัวร์นาเมนต์นี้ ได้รับการบอกแล้วว่าต้องปรับปรุงเรื่องอะไรบ้าง หวังว่าเมื่อกลับไปที่สโมสรแล้ว จะสามารถนำมันไปแก้ไขอย่างต่อเนื่อง จากสิ่งที่เราได้รับในการลุยทัวร์นาเมนต์นี้ ถ้านักเตะสามารถทำได้เมื่อกลับไปที่สโมสร จะเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับทีมชาติไทย ในการเตรียมทีมในรายการต่อไป อย่างฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก"
อันนี้ผมคัดลอกมาจากหลายๆฉบับที่ลงเบื้องหลังโดยไม่ตัดต่อ ตัดตอนอะไร เพราะเนื้อใหญ่ใจความคือเรื่องการบริหารจัดการองค์กรที่ทำงานทับซ้อนซ่อนเงื่อนกันระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลกับบริษัทไทยลีก จำกัด
ผมเคยเขียนในเพจ jackie ไปนานแล้วว่า...สมาคมกับบริษัท ไทยลีกต้องแยกขาดจากกัน สมาคมคือสนับสนุนภาพกว้างๆ เป็นศาลสถิติยุติธรรม เพราะมันเรื่องกฏ กติกา มารยาท ที่ต้องส่งผู้ตัดสิน และตัวบทกฏ กติกา ควบคุมการแข่งขันให้เพราะคือคนกลาง รวมทั้งรับช่วงการบริหารทีมชาติทุกชุดจากสโมสร
ส่วนบริษัทไทยลีก บริหารเฉพาะลีก ทั้งเรื่องสิทธิประโยชน์ , การดูแลสโมสรสมาชิกในทุกแง่ทุกมุม ทำให้ลีกแข็งแกร่ง ทุกทีมร่วมสร้างนักเตะขึ้นมาจากตั้งแต่ระดับสมัครเล่นจนถึงลีกสูงสุด
ฐานปิระมิด หรือรากหญ้าฟุตบอลต้องอัดแน่น เพื่อให้ยอดยืนหยัดอยู่ได้
อิชิอิ มาคุมทีมสมุทรปราการ, บุรีรัมย์ เขารู้ดีและพยายามปรับตัวเพื่อแก้ปัญหา งานของเขาท้าทายความสามารถ แต่มันคืองานที่ทำแล้วถ้าเกิดผล ทุกคนมีความสุขร่วมกัน
เหมือนที่ทีมชาติไทยของเราเล่นได้ดีเกินคาดในเอเชียน คัพครั้งนี้
เพียงแต่ถ้าการบริหารจัดการบอลภายในขององค์กรฟุตบอลเรายังมือสมัครเล่น สะเปะสะปะ บริหารเฉพาะเรื่องการหาเงินจากผู้สนับสนุนเข้าสมาคมอย่างเดียว โดยไม่ดูแลลีกให้มันแข็งแรง
แล้วทีมชาติจะแข็งแกร่งได้อย่างไร
นึกภาพว่าขณะที่บริหารอย่างไม่เป็นโล้เป็นพาย 7-8 ปีที่ผ่านมา ทีมชาติยังเล่นได้น่าประทับใจ แล้วถ้าหากบริหารได้อย่างมืออาชีพ ร่วมมือกันพัฒนาลีกและฟุตบอลภายในให้เข้มแข็ง แล้วทีมชาติของเราจะเล่นดีมากมายขนาดไหน
ดังนั้นหาก..ผู้บริหารสมาคมชุดใหม่เข้ามาทำงานแล้วยังเหมือนเดิม
10 อิชิอิ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
"JACKIE"