"รุ่งรัฐ" ชี้ โค้ชอิชิอิเล่นบอลสมัยใหม่ขอแค่ได้รับโอกาสพร้อมสู้สุดใจ

"รุ่งรัฐ" ชี้ โค้ชอิชิอิเล่นบอลสมัยใหม่ขอแค่ได้รับโอกาสพร้อมสู้สุดใจ
รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก เชื่อทีมชาติไทยต่อกรอุซเบกิสถานได้ หลังร่วมกันทำการบ้านหนักมาก ชี้บอลระดับเวทีเอเชียต้องมาสู้อย่างเดียว ยันถ้ามีโอกาสลงสนามพร้อมลุยเต็มที่แน่ ยกรูปแบบการเล่น "โค้ชอิชิอิ" เป็นแท็กติกฟุตบอลสมัยใหม่ที่รายละเอียดทุกอย่างดีจริง

 รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ปีกทีมชาติไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของตัวเองก่อนทัพ "ช้างศึก" ลงเตะในศึกฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบกับ อุซเบกิสถาน ทีมอันดับ 68 ของโลก ในวันอังคารที่ 30 มกราคม 2567

 ดาวเตะวัย 31 ปี กล่าวว่า "ส่วนตัวและทีมพร้อมเต็มร้อย ทั้งตัวผมและนักเตะทุกตำแหน่ง อุซเบฯ เป็นทีมที่แข็งแกร่ง เราทำการบ้านมาอย่างหนัก คิดว่าเราสู้ได้แน่นอน ผมดีใจมากที่ได้มาสัมผัสในระดับเอเชีย ทำให้เราได้พัฒนา ในหลายด้าน และช่วยเรื่องจังหวะฟุตบอลที่ยกระดับขึ้นค่อนข้างสูง"

 "ผมคิดว่าในการมาระดับเอเชีย เราต้องมาสู้อย่างเดียว ถ้าเราสู้ทุกนัดเราก็ไม่มีความห่างมากเท่าไหร่ ถ้าตัวผมได้โอกาส ผมก็พร้อมที่จะสู้เต็มที่ ในส่วนตัวผม คิดว่านักเตะทีมชาติไทยทุกคนพร้อมที่จะสู้ทุกคนทุกตำแหน่ง การได้เล่นในระดับเอเชีย ช่วยยกระดับทั้งตัวผม และตัวทีม"

 แนวรุกจากสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวต่อไปว่า "ผมว่าน้องๆ และเพื่อนๆที่มา ได้ประสบการณ์เต็มๆ เพราะเอเชียน คัพ เป็นรายการที่สำคัญและยิ่งใหญ่ด้วย ผมคิดว่าประสบการณ์เหล่านี้จะต่อยอดไปถึงฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รวมถึงเกมระดับนานาชาติอีกหลายรายการหลังจากนี้"

 "ผมภูมิใจทุกครั้งที่ได้ติดทีมชาติไทย ผมรู้สึกเป็นเกียรติเสมอที่ได้รับใช้ชาติ ส่วนการทำงานกับโค้ชอิชิอิ ต้องปรับตัวพอสมควร เราเพิ่งมาเจอกับโค้ช และรายละเอียดทุกอย่างดีมาก แท็กติกของเราเป็นฟุตบอลสมัยใหม่อยู่แล้ว ทุกคนทุกตำแหน่ง ต้องลงมาช่วยเกมรับ และเล่นเกมรุกไปด้วย ทำให้ศักยภาพของทีมเรายกระดับขึ้นไปสูง ฝากแฟนบอลชาวไทยมาส่งกำลังใจให้พวกเรา พวกเราจะทำให้เต็มที่"

 สำหรับโปรแกรมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ อุซเบกิสถาน ทีมอันดับ 68 ของโลก ที่ผ่านเข้ารอบในฐานะเป็นรองแชมป์จากกลุ่ม บี ในวันอังคารที่ 30 มกราคม 2567 ที่สนามอัล ยานูบ สเตเดี้ยม เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD หมายเลข 36 และช่อง T Sport 7


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport