มีความเชื่อเกิดขึ้นอยู่เสมอในการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์
เช่นกันครับมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อในอดีตมากมายหลายแมตช์ แต่ที่เข้าตาจนกลายเป็นบันทึกด้านมืดของวงการฟุตบอลก็มักจะเป็นแมตช์แข่งขันระดับโลกอย่างเช่น ฟุตบอลโลก
ก่อนไปว่ากันถึงประเด็นที่จั่วขึ้นมาในทฤษฏีสมคบคิดนั้น ลองย้อนอดีตสักสองสามแมตช์กันซักหน่อยครับ
-1978 ล้มบอลประวัติศาสตร์?
21 มิ.ย. 1978 ฟุตบอลโลกที่อาร์เจนติน่า มาถึงรอบสอง รอบสำคัญ เหลือสองกลุ่ม 8 ทีม กลุ่มละ 4 แข่งแบบพบกันหมดในกลุ่มอีกครั้ง (เมื่อก่อนยังไม่มีรอบน้อคเอาต์)
จากนั้นแชมป์กลุ่มจะเข้าไปชิงถ้วยบอลโลก ที่สองของกลุ่มชิงอันดับสามกัน
สถานการณ์ก่อนลงสนามนัดสุดท้ายกลุ่มบี
บราซิล ลงสนามก่อนอาร์เจนติน่า เจ้าภาพ โดยทีมบราซิลชนะโปแลนด์3-1 มี 5 แต้ม
ส่วนอาร์เจนตินา ลงสนามในอีกสองชั่วโมงต่อมาพบกับ เปรู ถ้าอาร์เจนติน่าชนะก็มี 5 แต้มเท่ากัน ต้องนับประตูได้เสีย ซึ่งก่อนแข่งพบว่า.....
ถ้าจะเป็นแชมป์กลุ่มและไปชิงถ้วยบอลโลก ฟ้าขาวต้องชนะ เปรู 4 ลูก
เกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะของอาร์เจนติน่า 6-0 พร้อมทั้งข้อครหามากมายว่า เปรู ล้มบอลให้ฟ้าขาวผ่านไปชิงชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์ แชมป์กลุ่มเอ
มีข่าวลือกันหนาหูหลังจบเกมนั้นว่าผู้นำประเทศอาร์เจนติน่าคือเผด็จการทหารนายพล ฮอรเก้ บิเดลา มีข้อแลกเปลี่ยนกับประธานาธิบดีเปรู ฟรานซิสโก เบร์มูเดส เรื่อง
นักโทษการเมือง13 คน รวมทั้งผู้รักษาประตูเปรู รับเงินเพื่อล้มบอล
ไม่มีใครพิสูจน์อะไรได้เลยนะครับ นอกจากเราเห็นผลแข่งว่า อาร์เจนติน่า ชนะเปรู 6-0
แม้ช่วงหลังมีนักการเมืองยุคนั้นมาพูดเรื่องข่าวลือแบบนี้....แต่มันก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าจริง นอกจากความสงสัยที่เปรู ทำไมแพ้เยอะจัง
-1982 แมตช์อื้อฉาวที่กิฆอน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 1982 ฟุตบอลโลกที่สเปน
รอบแรกนัดสุดท้าย เยอรมนี (ต.ต) พบกับออสเตรีย และ อัลจีเรียพบชิลี
ก่อนลงสนามออสเตรีย ชนะ 2 นัด (ชนะอัลจีเรียและชิลี)มี 4 แต้ม ยุคนั้นถ้าชนะได้ 2 แต้ม ส่วนเยอรมนี (ต.ต) เปิดตัวแพ้อัลจีเรีย 1-2 ก่อนชนะชิลี 4-1 เยอรมนี มี 2 แต้ม ส่วน อัลจีเรีย ก็มี 2 แต้ม จากการชนะเยอรมนี (ต.ต) ,แพ้ออสเตรีย
ปรากฏว่านัดสุดท้ายแม้อัลจีเรียชนะ ชิลี ได้ 4 แต้ม แต่ออสเตรีย กลับแพ้เยอรมนี 0-1 จากการยิงของ ฮอร์ส ฮรูเบช ตั้งแต่นาทีที่ 10 ทำให้มี 4 แต้มเท่ากัน สามทีม
ต้องนับประตูได้เสียสรุปว่า...
เยอรมนี ที่1 ออสเตรีย ที่ 2 เข้ารอบ
ส่วนอัลจีเรีย ตกรอบ
เกมนั้นถูกวิจารณ์ว่า ออสเตรีย เล่นเพื่อแพ้เยอรมนี จูงกันเข้ารอบ เหมือนกันกับว่าถ้าออสเตรียเล่นเต็มที่ เยอรมนี ก็ผ่านยาก (ปี1978 ออสเตรีย ชนะเยอรมนี 3-2 ที่อาร์เจนติน่าด้วย) และฟอร์มเที่ยวนี้ชนะมาสองนัดรวดดูแข็งแกร่งดีมาก
บอลแมตช์นั้นถูกวิจารณ์แง่ลบไปทั่วโลกในเกมนี้ ถึงขนาดที่ เอแบร์ฮาร์ด สตานเยค ผู้บรรยายเกมถ่ายทอดสดทางช่อง ARD ของเยอรมนี เอง เลิกบรรยายฟุตบอลเพราะรับไม่ได้ที่เกมออกมาแบบซูเอี๋ย เพื่อให้เยอรมนี เข้ารอบ
ฝั่งผู้บรรยายออสเตรีย อย่าง โรเบิร์ต ซีเกอร์ พูดระหว่างเกมว่าให้ผู้ชมทางบ้านปิดทีวี เลิกดูแมตช์นี้ไปเลย
สื่อสเปนพาดหัวหลังเกมเป็นภาษาสแปนิชว่า Desgracia de Gijón หรือ Disgrace of Gijón แมตช์อัปยศที่กิฆอน ด้วยเพราะเกมนี้แข่งขันกันที่สนาม เอล โมลินอน ของ สปอร์ติง กิฆอน
หลังจบเกมทีมอัลจีเรียยื่นหนังสือประท้วงไปยังฟีฟา แต่ก็ไม่ได้มีคำตอบอะไรลงมา เพราะมันก็หาหลักฐานพิสูจน์ไม่ได้ นอกจากการเล่นในสนามที่ดูเหมือน ออสเตรีย เล่นไม่เต็มที่จริงๆ
-1998 แมตช์ อัปยศ ที่โฮจิมินห์
แมตช์ที่อื้อฉาวนี้ฉาวไปทั่วโลกเลยครับ ตอนนั้นผมทำงานอยู่อังกฤษซีซั่นสุดท้ายของผมคือปี 1998 ช่องสกายสปอร์ต นำข่าวนี้มาลงแล้ววิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนานว่า ฟุตบอลแข่งกันเพื่อแพ้ โดยเฉพาะลูกยิงเข้าประตูตัวเองของอินโดนีเซีย เพื่อให้ทีมตัวเองแพ้ รวมทั้งทีมไทยที่เล่นไม่เต็มที่ด้วยในเกมนั้น
ด้วยเป้าหมายไม่ต้องการเป็น "แชมป์กลุ่ม" เพื่อหลบเวียตนามทีมอันดับสองของอีกกลุ่มในรอบรองชนะเลิศ
เกมนัดนี้เตะวันที่ 31 ส.ค. 1998 ซึ่งก่อนลงสนามทราบผลกลุ่มบี (เตะก่อน) แล้วว่า สิงคโปร แชมป์กลุ่ม, เวียตนาม เจ้าภาพ รองแชมป์กลุ่ม ดังนั้นกลุ่มเอ ที่1 ตัดเวียตนาม ที่สองเจอสิงคโปร์
ว่ากันว่าเที่ยวนั้นเวียตนามมาแรงมาก ดูดุดันน่ากลัว ทำให้มีข่าวลือว่า ไทยกับอินโดนีเซียนัดสุดท้ายจะเล่นแบบแย่งกันเป็นที่สองเพื่อหลบเจ้าภาพเวียตนาม
ก่อนลงสนามเล่นมาสองนัด ทีมไทยมี 4 แต้ม (เสมอเมียนมาร์, ชนะฟิลิปินส์) อินโดนีเซียมี 6 แต้ม (ชนะฟิลิปินส์, ชนะเมียนมาร์6-2เลย)
แมตช์ไทยกับอินโดนีเซีย เตะที่โฮจิมินห์ ท่ามกลางแฟนบอล 5,000 คน ปรากฏว่าครึ่งแรกเล่นเหมือนบอลวีไอพี เตะกันไปเรื่อยๆ จนแฟนบอลเริ่มทยอยออกจากสนาม เมื่อเวลาผ่านไปจนจบครึ่งแรก 0-0 ไม่มีอะไรในกอไผ่
รายงานจากสื่อฝั่งอินโดนีเซีย ระบุว่า ผู้ตัดสิน หลิว จุน เป่านกหวีดหมดครึ่งแรกก่อนเวลาจริง จากนั้นเข้าไปพูดคุยกับสต๊าฟทั้งสองฝั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไม่ยืนยันว่าคุยไร)
ก่อนที่ความอัปยศบังเกิดขึ้นครึ่งหลัง
น.53 มิโรบัลโด เบนโต ยิงแฉลบกองหลังไทยให้อินโด นำ 1-0
น.62 ทีมไทยตีเสมอจาก กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ 1-1
น.83 อินโดนีเซียนำ 2-1 จังหวะที่ อาจี ซานโตโซ ได้บอลในเขตโทษหลบนักเตะไทยสี่คนเข้าไปยิงอย่างง่ายดาย
น.86 ไทยตีเสมอ 2-2 จาก เทิดศักดิ์ ใจมั่น
น.90 มูร์สยิด เอฟเฟนดี รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมในแดนรับตัวเอง ก่อนพาบอลเข้าไปยิงประตูตัวเอง ให้ไทยชนะอินโดนีเซีย 3-2
ไทยจบที่หนึ่ง เจอเวียตนาม และ อินโดนีเซียที่สองเจอ สิงคโปร์
รอบรองชนะเลิศ ไทยแพ้ เวียตนาม 3-0 ส่วนอินโดนีเซียก็แพ้สิงคโปร์ 1-2
นัดชิงที่สามไทยเสมออินโดนีเซีย 3-3 แต่เราแพ้จุดโทษ
ส่วนแชมป์เป็นของสิงคโปร์ เฉือนเจ้าภาพ เวียตนาม1-0
นั่นคือแมตช์ อัปยศที่เกิดขึ้นจากการที่เล่นเพื่อ "หลีกหนี" คู่แข่งในแมตช์ต่อไป และเป็นตำนานด้านมืดของวงการฟุตบอลอาเซียน, บอลไทย, อินโดนีเซีย ไปชั่วฟ้าดินสลาย
ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนโดนตราหน้าและมีตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต
เอาละกลับมาที่ทฤษฏีสมคบคิดในเอเชียน คัพ 2023
ผมอ่านเจอในโซเชียลว่ากันแบบนั้นเยอะอยู่ว่า สถานการณ์กลุ่มดีมาพัวพันกลุ่มอีและเอฟ จึงทำให้อาจมีการเล่นนัดสุดท้ายในกลุ่มอีและเอฟ แบบไม่100%
ฉากทัศน์เป็นแบบนี้
กลุ่มดี ผมส่งต้นฉบับนี้ก่อนแข่งนัดสุดท้าย แต่ดูจากคะแนน ไม่ว่าอิรักกับเวียตนามออกผลแบบไหนพวกเขาคือที่หนึ่ง เพราะ เฮด ทู เฮด ดีกว่าญี่ปุ่น ที่มี 3แต้ม และจะลงสนามพบกับอินโดนีเซียที่มีสามแต้มเท่ากัน
ถ้าญี่ปุ่นชนะหรือเสมอ ก็เข้าอันดับสอง แล้วหากได้ที่สองพวกเขาจะรอพบแชมป์กลุ่มอี ที่มี จอร์แดน 4 แต้ม , เกาหลีใต้ 4 แต้ม, บาห์เรน3 แต้ม, มาเลเซีย0 แต้ม (ตกรอบ)
นัดสุดท้ายกลุ่มอี เกาหลีใต้-มาเลเซีย, จอร์แดน-บาห์เรน
กลุ่มเอฟ บ้างครับ ซาอุดีอาระเบีย 6 แต้ม ชนะรวด ไทย 4 แต้ม, โอมาน 1 แต้ม และคีร์กิสถาน 0 แต้ม นัดสุดท้ายกลุ่มนี้ ซาอุ-ไทย, โอมาน-คีร์กิสถาน
รอบต่อไปที่หนึ่งกลุ่มเอฟ เจอที่สองกลุ่มอี ของเกาหลีใต้ และที่สองกลุ่มเอฟ ไปเจอที่สองกลุ่มบี ซึ่งทราบแล้วว่าคืออุสเบกิสถาน
จึงมีความเชื่อกันว่า....เกาหลีใต้จะเข้าที่สอง และเชื่อต่ออีกว่า ซาอุ จะเข้าที่สองด้วยการแพ้ไทย เพื่อที่พวกเขาจะไปเจออุสเบกิสถานโน่นเลย ปล่อยไทยที่ชนะไปเจอเกาหลีใต้ แทน
คำถามคือว่า....เมื่อมีทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้เกิดขึ้นคุณเชื่อหรือไม่
1 เกาหลีใต้ จะหลบญี่ปุ่น ด้วยเป็นที่สองของกลุ่ม
2 ซาอุดิอาระเบีย จะเล่นเพื่อแพ้ไทย หากเกาหลีใต้เป็นที่สองของกลุ่ม
คุณคิดเห็นอย่างไร
คหสต ผมไม่ซื้อทฤษฏีนี้ และไม่ใช่ความคิดของผม พอดีเจอในโซเชียลแล้วนำมาให้ทุกท่านได้แสดงทัศนะร่วมกัน
ที่ผมเชื่อคือ...เป็นไปได้ที่มีการจัดตัวแบบไม่เต็มทีม เพราะมันก็หลักการทำงานโค้ช เนื่องจากเข้ารอบ ก็ต้องพักนักเตะตัวหลัก ป้องกันใบเหลืองที่อาจส่งผลกระทบต่อการโดนแบน
ที่สำคัญ...ตัวสำรองที่ลงอยากโชว์ และคงเล่นเต็มที่ เผลอๆ ดีกว่าตัวจริงด้วยซ้ำ
สิ่งที่ผมเชื่อคือ เล่นกันตามเกมนั่นแหละ ทั้งเกาหลีใต้และซาอุดีอาระเบีย ส่วนออกมาแบบไหนก็เรื่องหนึ่งครับ
คงไม่มีใครเล่นเพื่อแกล้งแพ้ แกล้งไม่ชนะกันหรอกสำหรับโลกที่มันพัฒนาไปไกลสุดกู่ขนาดนี้ 55555
JACKIE