ฟีฟ่าและเอเอฟซี สอบถาม นายกสมาคมฯ ถึงความพร้อมของภาครัฐในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับโลก FIFA Congress 2024
ตามที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้คัดเลือกจากหลายประเทศที่ยื่นเสนอความพร้อม และโหวตให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 74 หรือ FIFA Congress โดยมีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย นั้น ล่าสุดทางฟีฟ่ามีความกังวลหากว่างานดังกล่าวอาจไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทยในการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ
ทั้งนี้ การประชุม FIFA Congress ที่จะเกิดขึ้นนั้น ประเทศไทยได้ถูกนับเป็นชาติแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่ได้เป็นเจ้าภาพงานขนาดใหญ่ของวงการฟุตบอล หลังจากที่คณะทำงานได้นำเสนอวิสัยทัศน์ต่อ FIFA จนได้รับการยอมรับและอนุมัติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม FIFA Congress ครั้งนี้ โดยล่าสุด มร.มาธิอัส กราฟสตรอม เลขาธิการของฟีฟ่า ได้ส่งหนังสือเวียน เพื่อเรียนเชิญให้ชาติสมาชิกลงทะเบียนตอบรับเพื่อเข้าร่วมงานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
โดยคาดว่าในเบื้องต้นจะมีผู้เดินทางเข้ามาร่วมงานไม่น้อยกว่า 3,500 คน นำโดยประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ประธานจากสหพันธ์ฟุตบอลจากทุกทวีป ยุโรป (UEFA) เอเชีย (AFC) อเมริกา และแคริบเบียน(CONCACAF) อเมริกาใต้ (CONMEBOL) แอฟริกา (CAF) โอเชียเนีย (OFC) ร่วมด้วยนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯและผู้บริหาร จาก 211 ประเทศสมาชิก นักกีฬาฟุตบอลระดับตำนานและบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียง สื่อมวลชน เดินทางเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก
และล่าสุด พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ได้พบกับผู้บริหารจากฟีฟ่าและเอเอฟซี ระหว่างการไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ จึงได้มีการสอบถามและแสดงความเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง ถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมที่ต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลโดยเฉพาะในหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากจะมีบุคคลสำคัญจำนวนมากเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย และการได้รับการสนับสนุนเรื่องการเข้าออกประเทศในช่วงงานประชุม รวมถึงกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศและวัฒนธรรม
โดย พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ได้รายงานว่าได้ทำหนังสือไปยังนายกรัฐมนตรี ทราบว่าได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่าน การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานประสานความร่วมมือระหว่าง สมาคมฯ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในระหว่างการขอเข้าพบเพื่อหารือ กับ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อลงลึกในรายละเอียดต่างๆ ของการเตรียมความพร้อมต่อไป
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. พบว่า การประชุมดังกล่าวจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย และก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ กว่า 228 ล้านบาท อาทิ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจในประเทศ ประมาณ 126 ล้านบาท ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลผู้เข้าประชุมแและจำนวนวันเข้าพักของแขกต่างประเทศที่ได้รับจากฟีฟ่า รวมถึงคนไทย ที่เข้าร่วมงาน กว่า 200 คน และคาดว่าจะเกิดการจ้างงานกว่า 160 อัตรา สร้างรายได้จากภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บโดยประมาณจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมครั้งนี้ ประมาณ 7.79 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่รวมมูลค่าของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และรายจ่ายที่ฟีฟ่าคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกจำนวนราว 16 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับ งานประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 74 หรือ FIFA Congress มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย