เคบียู สปอร์ต โพล โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ร่วมกับ หลักสูตรการบริหารนวัตกรรมการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ ม.เกษมบัณฑิต สำรวจความคิดเห็นเรื่อง “เอเชียนคัพ 2023 กับความหวังและโอกาสของทัพช้างศึก” ชี้แฟนกีฬาส่วนใหญ่เชื่อมั่นศักยภาพของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ดีพอเข้ารอบน็อคเอาท์ในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ที่กาตาร์
จากการที่นักฟุตบอลทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือ เอเชียนคัพ 2023 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12 ม.ค.-10 ก.พ.67 ที่ประเทศกาตาร์ เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองของแฟนกีฬาในมิติที่เกี่ยวกับความหวังและโอกาสของนักฟุตบอลทีมชาติไทย KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ต โพล) โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ร่วมกับ หลักสูตรการบริหารนวัตกรรมการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้สำรวจคิดเห็นเรื่อง “เอเชียนคัพ 2023 กับความหวังและโอกาสของทัพช้างศึก”
สำหรับการสำรวจดังกล่าว ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ และการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 12 -14 ม.ค. 2567 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,189 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 754 คน คิดเป็นร้อยละ 63.42 เพศหญิง 435 คน คิดเป็นร้อยละ 36.58 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า
ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน กลุ่มอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 71.06 สนใจ รองลงมา ร้อยละ 15.60 ไม่แน่ใจแล้วแต่โอกาส และร้อยละ 13.34 ไม่สนใจ ส่วนทีมคู่แข่งขันร่วมสายที่น่าเกรงขามของทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 30.82 ทุกทีม รองลงมาร้อยละ 29.02 ซาอุดิอาระเบีย, ร้อยละ 23.66 โอมาน และร้อยละ 16.50 คีร์กิชสถาน
ความเชื่อมั่นกับโอกาสในการเข้ารอบลึกๆของทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 28.30 เชื่อมั่นค่อนข้างมาก รองลงมา ร้อยละ 25.37 ไม่แน่ใจ, ร้อยละ 20.60 เชื่อมั่นมาก, ร้อยละ 17.96 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย และร้อยละ7.77 เชื่อมั่นน้อย ด้านปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลต่อความสำเร็จของทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.60 ศักยภาพและความสามารถของนักกีฬา รองลงมา ร้อยละ 22.08 ระยะเวลาในการเตรียมทีม, ร้อยละ 18.10 ศักยภาพและความสามารถของผู้ฝึกสอน, ร้อยละ 15.32 การสนับสนุนของผู้จัดการทีมและผู้เกี่ยวข้อง, ร้อยละ 12.94 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา และอื่นๆร้อยละ 6.96
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขันทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าฟุตบอลรายการนี้เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่จะได้เห็นนักเตะชั้นนำของชาติในเอเชียร่วมแสดงศักยภาพและโชว์ฝีเท้า ขณะที่คู่ต่อกรร่วมสายของทีมชาติไทยแฟนกีฬาต่างเห็นว่าทุกทีมล้วนแล้วแต่เป็นทีมที่น่าเกรงขามทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามในการสู้ศึกเอเชียนคัพ 2023 ของทัพช้างศึกในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงความเชื่อมั่นและโอกาสที่มีต่อการทะลุเข้ารอบรอบลึกๆ เมื่อผนวกกับปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จแฟนกีฬา ส่วนใหญ่ต่างเชื่อมั่นอยู่ในระดับค่อนข้างมาก และชี้ว่าศักยภาพตลอดจนความสามารถของนักกีฬา รวมทั้งระยะเวลาในการเตรียมทีมน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ และเหนืออื่นใดการแข่งขันรายการ นี้จะเป็นตัวชี้วัดและบ่งบอกว่าโค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ มีศักยภาพและความสามารถเพียงพอกับพัฒนาและยกระดับทีมชาติไทยได้มากน้อยแค่ไหนอีกด้วย ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย