กำลังใจมาเต็ม! ตัดเกรดแข้งทีมชาติไทยนัดสองหลังบุกชนะสิงคโปร์

 หลังจากที่ "ทัพช้างศึก" ฟุตบอลทีมชาติไทยสามารถบุกไปเก็บ 3 แต้มถึงบ้านของทีมชาติสิงคโปร์ ด้วยสกอร์ 3-1 ด้วยความเก๋าเกมและศักยภาพคุณภาพผู้เล่นที่มีมากกว่าสามารถเอาตัวรอดได้สำเร็จ แต่เชื่อว่าฟอร์มการเล่นอาจจะยังไม่ประทับใจแฟนบอลมากนักเพราะยังไม่ค่อยชัดเจนของระบบเกมนัก แต่ก็สามารถสร้างความสุขให้กับแฟนบอลได้ และยังคงอยู่บนเส้นทางลุ้นเข้ารอบต่อไป 

 กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล - กลับเป็นมือ 1 อีกครั้ง และยังคงเล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง แม้ว่าจะโดนส่องไป 1 เม็ดก็ตาม แต่จังหวะนั้นถือว่าสุดวามสามารถแล้ว เจ้าตัวเองยังปัดเอาไว้ได้ด้วยปลายมือ แต่ความแรงของบอลทำให้ตุงตาข่าย ทว่ามองถึงการเซฟการออกมาตัดบอลและการออกบอลทั้งมือและเท้าก็ยังทำได้คงเส้นคงวา ได้ 6 คะแนน

 ธีราทร บุญมาทัน  -  ช่วงครึ่งแรกปักหลักแบ็กซ้ายแทบจะไม่เติมเกมรุก และมีส่วนร่วมกับประตูแรกของทีมชาติไทยด้วย รวมถึงการเปิดบอลจากแนวหลังขึ้นไปแดนหน้าจากริมเส้น ทว่าจังหวะการเสียประตู น่าจะสกรีนตัวประกบได้ดีกว่านี้ ครึ่งหลังปรับเข้าไปเล่นตรงกลางอีกครั้ง และพยายามที่จะส่วนร่วมกับเกม ช่วยไล่บอลด้วย ภาพโดยรวมถือว่าโอเค ได้ 7 คะแนน

 เอเลียส ดอเลาะ  - ได้รับโอกาสลงมายืนเซ็นเตอร์แบบเต็มเวลา แต่ดูเหมือนจะยังไม่นิ่งสักเท่าไหร่ ยังมีจังหวะหวือหวาสกัดแบบมีเชิงน้อยไปนิด แม้ว่าจะพยายามที่จะสู้ทุกดอก เข้าทุกจังหวะจนดูเหมือนเปรียกับมวยมีเชิงน้อยไปหน่อย ส่วนการออกบอลยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ได้ลูกขยันเติมขึ้นไปโหม่งเกือบได้หลายหน ได้ 6.5 คะแนน

 สารัช อยู่เย็น  - ครึ่งแรกดูเหมือนจะเล่นเกมรับมากเกินไป ยืนกัปคู่กับ พิธิวัตต์ ทำให้การยืนตำแหน่งดูเหมิอนว่าจะทับไลน์กัน  ครึ่งแรกสารัช ไมได้โชว์อะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันเลย แต่ครึ่งหลังโดดเด่นขึ้นพอสมควร เมื่อมีบทบาทเติมเกมรุกมากขึ้น ตัดเกมได้สวยๆหลายจังหวะเมื่อทีมเสียเปรียบ และคุมจังหวะได้ดี ได้ 7 คะแนน

 สุภโชค สารชาติ  - เกมนี้ได้เล่นในตำแหน่งมี่ถนัดตจามต้องการทำให้โชว์ศักยภาพได้อย่างเต็มที่และมีโอกาสส่อง 2-3 หนที่น่าจะเป็นประตูจนสุดท้ายก็เปิดสกอร์ให้ทีมชาติไทยได้ ถือว่าเล่นได้อย่างมีมาตรฐาน แต่ช่วงครึ่งหลังดูจะดร็อปลงไป อาจจะมาจากเรี่ยวแรงที่ถอถอย แต่เกมนี้ภาพรวมถือว่ามีความอันตรายไม่น้อย และเป็นเดอะแบกในแนวรุกที่คอยทำเกมพอสมควร ได้ 8 คะแนน

 เอกนิษฐ์ ปัญญา  -  ลงมาเล่นแทนที่ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ทำได้ดีทีเดียวในช่วงต้นๆของครึ่งแรกและรักษามาตรฐานมาได้ดีจนปลายครึ่งแรก จากนั้นค่อยๆหายไปจากเกม เพราะต้องแบกภาระหน้าที่หนักเกินไปในแนวรุกที่ทั้งคอยเชื่อมเกมและลงมาเล่นรับ ครึ่งหลังดูเหมือนบทบาทจะน้อยลงไป ค่อยๆหายไปจากเกมถูกเปลี่ยนออก แต่ภาพรวมถือว่าทำได้ดีกับการขาดหายไปของชนาธิปในแดนกลาง.... 7.5 คะแนน  

 ศุภชัย ใจเด็ด -  ลงมาประจำการหน้าเป้า มีความขยัน พยายามที่จะลงมาช่วยเกมรับในจังหวะที่ทีมเสียเปรียบ แต่การครองบอลอาจจะต้องมีความเหนี่ยวแน่กว่านี้อีกนิด การหาจังหวะทะลุทะลวงวิ่งตามช่องทำได้ดี ยังเข้าขารู้ใจกับอดีตเพื่อนร่วมทีมเก่าอย่างสุภโชค และศุภณัฎฐ์ เสียดายเพียงแต่เกมนี้ไม่มีสกอร์เท่านั้นเอง ได้ 6 คะแนน

 สุพรรณ ทองสงค์  -  เกมนี้ได้รับโอกาสอยู่ในสนามเพียงแต่ครึ่งแรก และมีอาการบาดเจ็บ ความหนักและความทุ่มเททำได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว แต่อาจจะต้องให้มีความแม่นยำกว่านี้ และเมื่อตัดบอลได้การออกมาบอลให้เพื่อนเล่นต่ออาจจะต้องทำให้เนียนกว่านี้อีกนิด  จริงๆแล้วสไตน์น่าจะเป็นตัวชนคอยตัดคอยกวาด ซึ่งเป็นสไตน์เดียวกับ เอเลียส ทำให้เมื่อมายืนคู่กันเกมรับจะหลวมๆไปหน่อยเพราะขาดคนเก็บบอลในจังหวะสอง ได้ 6 คะแนน

 นิติพงษ์ เสลานนท์ - เป็นผู้เล่นแบ็กที่มักจะเติมเกมรุกสูง ทำให้บางจังหวะลงมารับไม่ทัน มีความทุ่มเทและทำได้ดีหลายจังหวะที่เติมขึ้นไปกดดันคู่แข่ง ทว่าจังหวะสุดท้ายเปิดบอลยังไม่มีความแน่นอนและเฉียบคมเพียงพอทำให้เสียโอกาสที่จะสร้างความกดดันในกรอบเขตโทษ 64 นาทีที่อยู่ในสนามภาพรวมเล่นได้ตามแทคติกที่ได้รับมอบหน้าได้ดีตามมาตรฐาน ได้ 6 คะแนน

 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล - เกมนี้บอกเลยว่าเสียดายไม่น้อยที่ดูเหมือนว่าครึ่งแรกตำแหน่งจะทับกับสารัช ทำให้พิธิวัตต์ ดูจะไม่มีประโยชน์กับเกมอย่างที่ควรจะเป็น ความดุดัน ในจังหวะการตัดบอลไม่ค่อยีให้เห็น เพราะเหมือนจะลังเลจับจังหวะการเล่นตัวเองไม่ได้ เมื่อมายืนคู่กับสารัช และต้องมารับแบบเต็มตัวจนเกินไป ได้ 6.5 คะแนน

 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา - ลงเล่นในตำแหน่งที่เอ่ยกันว่าถนัดทำให้สามารถที่จะแผลงฤทธิ์ซัดถึง 2 ประตู และน่าจะเป็นแฮตทริกด้วยแต่เสียในที่ใจกว้างเกินไปจนเสียของ ภาพรวมครึ่งแรกเจ้าตัวพยายามที่จะปล่อยของ แต่ดูเหมือนว่ายังทำได้ไม่ถนัดนัก เพราะผู้เล่นฝั่งตรงข้ามปิดจังหวะการเล่นทุกจังหวะจนแทบพลิกตัวไมได้ ทำให้ยังไม่เด่นมากในครึ่งแรกแต่ก็ยังมีความขยัยลงมาช่วยเกมรับถึงกรอบประตูน่าชื่นชม ครึ่งหลังพื้นที่ปิดให้เขาเล่นมากขึ้นและเข้าทางถนัดเหมือนตอนเล่นกับบุรีรัมย์ เมื่อมีพื้นที่ให้เขาวิ่งลากเลื่อยที่มักจะทำได้ดีในการไปกับบอลและยังยิงได้คมอีกด้วยในเกมนี้ ได้ 9 คะแนน

 บดินทร์ ผาลา - (สำรองนาที 64) มาแทน นิติพงษ์ เสลานนท์ และปรับการยืนมาประจำการตำแหน่งที่ถนัดของตัวเอง ทว่าไม่สามารถที่จะปล่อยของให้เป็นทีเด็ดได้เห็น จังหวะลากเลื้อยตัดเข้าในหรือไปจนสุดเส้นหลังแล้วเปิดหักมาสวยๆ แทบจะไม่มี เรียกว่าไม่สามารถร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้ในฐานะผู้เล่นสำรอง แต่ไมได้เสียหายอะไร ได้  5.5 คะแนน 

 วีระเทพ ป้อมฟันธ์ - (สำรองนาที 64) ลงมาแทนพิธิอวัตต์ สุขจิตธรรมกุล แต่เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์อีกครั้งในยุคของ มาโน่ โพลกิ้ง ถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่เขาเคยเล่นทีมชากับบทบาทหน้าที่ได้รับมอบหมาย ไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัด แต่มีบางจังหวะที่เปิดบอลจากแนวรับให้เพื่อนได้สวยๆ ส่วนการตัดบอลสกัดไม่ได้โดดเด่นอะไรเป็นพิเศษสำหรับเกมนี้ ได้ 6 คะแนน

 ธีรศิลป์ แดงดา - (สำรองนาที 64)  ลงมายืนหน้าเป้าแทน ศุภชัย ใจเด็ด และแสดงให้เห็นชัดเจนว่า 26 นาทีไม่รวมทดเจ็บ ทีมชาติไทยยังคงไม่สามารถหาใครมาทดแทนได้ จังหวะการเก็บบอลครอบครองที่เหนียวแน่น ให้บอลที่ได้เปรียบและเป็นที่มาของการได้ประตูเพิ่มของทีมชาติไทยด้วย การลงมาของ "เทพมุ้ย" สามารถสร้างความชัดเจนในแดนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้มีสภาพร่่างกายที่เต็มร้อยได้ 8 คะแนน 

 ศุภนันท์ บุรีรัตน์ - (สำรองนาที 80) ลงมาแทน เอกนิษฐ์ ปัญญา แต่ประจำการแบ็กขวามีเวลาเพียง 10 นาทีโดยประมาณ พยายามทุ่มเทวิ่งขึ้นลงในพื้นที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ แต่ยังไม่เห็นความชัดเจนสักเท่าไหร่  ยังไม่มีคะแนน 

 สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ของทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย จะมีคิวจะบุกไปอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ก่อนที่จะลุยศึก เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า

ขณะที่โปรกรมนัดที่ 3 ของศึกฟุตบอลโลก2026 รอบคัดเลือก รอบสอง กลุ่มซี ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือนทีมชาติเกาหลีใต้ วันที่ 21 มีนาคม 2567 เวลาและสนามแข่งขันจะมีการแจ้งอีกครั้ง ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32)