เสียดายแทน รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก

   ด้วยเหตุนี้เอง อเล็กซานเดร โพลกิ้ง จึงไม่พลาดที่จะเรียกตัวปีกวัย 31 ปี เข้ามาอยู่ในทีมชาติชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะเผชิญหน้ากับจีน และสิงคโปร์ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน

   อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานจากทาง แบงค็อก ออกมาว่าแนวรุกชาวนครราชสีมา อาจจะต้องถอนตัวจากทัพช้างศึก เนื่องจากได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขากระตุกจากเกมลีกที่ต้นสังกัดบุกไปชนะ การท่าเรือ เอฟซี ได้ถึงถิ่น 2-0 ซึ่งคงหายไม่ทันการแข่งขันที่รออยู่ทั้งสองเกม

   แม้ว่าทีมชาติไทย จะมีทั้ง บดินทร์ ผาลา, สุภโชค สารชาติ และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ต่างก็เก่งกาจสามารถทั้งนั้น แต่คนที่ผลงานสม่ำเสมอที่สุดคือ รุ่งรัตน์ ดังนั้นจึงน่าเสียดายแทนเจ้าตัวจริงๆ

   บดินทร์ อาจจะเป็นตัวจริงให้ การท่าเรือ สม่ำเสมอ แถมสถิติยังดีอีกเมื่อยิงไป 4 และแอสซิสต์อีก 3 แต่ผลงานโดยยังไม่สามารถรักษามาตรฐานของตนเองได้ทุกเกม

   สุภโชค ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นหลักของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร แล้วก็จริง ทว่าระยะหลังนั้นฟอร์มยังไม่เปรี้ยงนัก อีกทั้งพอกลับมาเล่นให้ทีมชาติทีไร ดูเหมือนว่าสปีดบอลของเขาจะเร็วกว่าคนอื่นๆ จึงต้องรอเล่นร่วมกับตอนที่ทัพช้างศึกมี ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา ถึงจะได้เห็นผลงานที่แท้จริงของเด็กหนุ่มชาวศรีสะเกษ 

   ขณะที่ เอกนิษฐ์ ก็กำลังอยู่ในช่วงปรับตัวที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็มีสัญญาณเป็นไปในทิศบวก ทว่าการขาดเกมไปนาคงจะส่งผลถึงการเล่นในสนามแน่

   อาจจะรวมไปถึง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ขยับออกมาด้านข้างได้เช่นกัน แต่หมอนี่ก็ยังสัมผัสการแข่งขันจริงร่วมกับ โอเอช ลูเวิน น้อยนิด ดังนั้นก็ต้องใช้เวลาจับจังหวะอยู่พอสมควร

   ดังนั้นเมื่อนับเฉพาะผู้เล่นริมเส้น คนที่ดูจะเจิดจรัสมากที่สุดคือ รุ่งรัตน์ เท่านั้นเลย คนเดียวเพียวๆ

   แม้ว่าในแง่ของตัวเลขการทำประตูและแอสซิสต์อาจจะดูด้อยกว่า บดินทร์ และ สุภโชค แต่องค์ประกอบรวมๆ เขาเข้าขั้นดีเลิศ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะใด หากเขาเลือกตัดสินใจ มักจะทำได้ถูกเสมอ

   18 ประตู ที่ แบงค็อก ทำได้ ในลีก - รุ่งรัตน์ มีส่วนร่วมมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมด เท่านี้ก็บ่งชี้ได้ชัดถึงความสำคัญและฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา

   ก่อนหน้าจะถูกเรียกตัวสู่ทีมชาติไทย ชุดนี้ หมอนี่ก็มีชื่อเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลชุด คิงส์ คัพ 2023 ที่ได้รองแชมป์ ทว่าไม่ได้สัมผัสเกมในสนามสักวินาที

   เท่ากับว่า นับถึงปัจจุบัน รุ่งรัตน์ ไม่ได้ลงสนามในนามทัพช้างศึกมานานถึง 6 ปี เพราะหนสุดท้ายคือปี 2017 ที่เขาได้รับใช้ชาติ

   ห้วงเวลา 6 ปี ที่ใครๆ ต่างก็น่าจะลืมชื่อของเขาออกจากสารบบ แถมตอนที่ยังติดทีมสม่ำเสมอ แต่เจ้าตัวก็ไม่ใช่ผู้เล่นหลัก 

   กระทั่งผลงานของ รุ่งรัตน์ มาเจิดจรัสในซีซั่น 2023-24 นี่แหละ ที่ทำให้เขาถูกจับตามองว่าน่าจะเป็นอาวุธลับสำหรับทีมชาติไทย เพราะสไตล์การเล่นคือเป็นบอลสมอง เซ้นส์การจ่ายเหลือร้าย ถ้าได้เพื่อนร่วมทีมที่ทันกัน มันจะทวีคูณความอันตรายไปหลายเท่า

   ตัวเขาเองก็คงจะดีใจไม่น้อยเช่นกันที่กลับมามีชื่ออีกครั้ง ซึ่งก็มันก็มาจากการที่เขามุ่งมั่นฝึกซ้อมจนทำให้ฟอร์มการเล่นเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมาเด่นเอาอีกครั้งตอนอายุ 31 แต่มันก็ไม่สายเกินไปสำหรับคนที่พยายามอย่างหนักมาต่อเนื่อง

   รุ่งรัตน์ เป็นนักเตะที่พูดน้อย เขาใช้หนึ่งสมองและสองเท้าต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย ทั้งในตอนที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง แต่ก็ไม่สามารถยืนระยะได้จนต้องอดทนกับความยากลำบากในการฟื้นการเล่นอันเก่งกาจอีกครั้ง

   แต่พอเจ้าตัวมาถึงจุดที่ปรารถนาจริงๆ กับการได้หวนคืนสู่ทีมชาติไทย ดันต้องมาได้รับบาดเจ็บจนมีโอกาสไม่น้อยทีเดียวที่จะต้องถอนตัวอีกครั้ง

   มันจึงน่าเสียดายแทน รุ่งรัตน์ จริงๆ ที่ 'โอกาส' มาจ่อรอคอยอยู่ข้างหน้านี้แล้ว แต่กลับไม่สามารถคว้าไว้ได้ 

   ทว่าด้วยจิตใจที่กร้าวแกร่ง ยังไงวันหน้า เขาก็กลับมาแน่ แต่ก็หวังให้วันนั้น ฟอร์มการเล่นของปีกชาวนครราชสีมา จะคงเส้นคงวาเช่นนี้ไปนานๆ เพราะไม่ได้มีผลดีเพียงแค่ทีมชาติ แต่มันยังรวมไปถึงต้นสังกัดด้วยเช่นกัน

ชิกกะด้าว