จัดทัพ ทีมชาติไทย ฟีฟ่า เดย์ ตุลาคม 2023!!

ผู้รักษาประตู

    นักเตะที่เรียกติดทีม : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี เอฟซี), ศุเมธี โคกโพธิ์ (การท่าเรือ เอฟซี),จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ (ขอนแก่น ยูไนเต็ด)

   ด้วยประสบการณ์ ยังไง กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล คงจะยึดตัวจริงแน่นอน แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน โอกาสจะตกเป็นของ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ จอมหนึบฟอร์มดีจาก ขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยที่ ศุเมธี โคกโพธิ์ เป็นมือสามของทีมชุดนี้

   อย่างไรก็ตาม การที่เจอกับทีมจากยุโรป ซึ่งมีผู้เล่นรูปร่างสูงใหญ่ บางที อเล็กซานเดร โพลกิ้ง อาจจะลองใช้ ศุเมธี เฝ้าเสา เนื่องจากมีสัดส่วนดีที่สุดในจำนวนนายทวาร 3 คน ที่เรียกมา

   ตัวจริงที่คาด : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล 

เซนเตอร์ฮาล์ฟ 

    นักเตะที่เรียกติดทีม : กฤษดา กาแมน (ชลบุรี เอฟซี), เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด), จักพัน ไพรสุวรรณ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), อดิศร พรหมรักษ์ (ราชบุรี เอฟซี)

   กฤษดา กาแมน อาจจะเป็นตัวจริงมาอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติไทย แต่การที่กองหน้าฝั่งตรงข้ามอย่าง บูดู ซิฟซีวาดเซ่ (จอร์เจีย) และ เฮนรี่ อานิเยร์ (เอสโตเนีย) นั้นหนาบึ้ก แถมยังสูงไม่ต่ำกว่า 1.85 เมตร มันจึงทำให้ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ต้องคิดหนักไม่น้อย

   ทว่า ถ้าเทียบความเจนจัดในเวทีนานาชาติ ยังไงนักเตะจาก ชลบุรี เอฟซี ก็น่าจะต้องลงสนาม ส่วนคู่ขาจะเป็นใครนั้นต้องแย่งกัน เพราะแต่ละรายนั้นมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไปฃ

   เอเลียส ดอเลาะ กับ 1.96 เมตร ของเขาน่าจะช่วยเรื่องลูกกลางอากาศได้แน่ แต่หมอนี่ค่อนข้างช้า แถมมีจังหวะโฉ่งฉ่างให้เห็นบ่อยครั้ง

   จักพัน ไพรสุวรรณ ทักษะสูง อ่านเกมเฉียบ แข็งแรง แต่ต้องดูว่าถ้าปะทะกับนักเตะยุโรป แล้วจะสู้ได้ดีเพียงใด

   อดิศร พรหมรักษ์ ดุดัน บู๊ทุกสถานการณ์ ใจสู้ แต่หายหน้าจากทีมชาติไปนาน เพราะล่าสุดที่เล่นคือปี 2019 อาจจะต้องใช้เวลาปรับจูนอีกสักนิด

   จากตัวเลือกที่มีอยู่ คาดว่า เอเลียส น่าจะมีโอกาสมากที่สุด โทษฐานที่รูปร่างใหญ่ น่าจะเอาไว้คอยปัดกวาดการโจมตีภาคอากาศของคู่แข่ง

    ตัวจริงที่คาด : กฤษดา กาแมน กับ เอเลียส ดอเลาะ

ฟูลแบ็ก

    นักเตะที่เรียกติดทีม : ทริสต็อง โด (เมืองทอง ยูไนเต็ด) นิโคลัส มิคเคลสัน (โอบี โอเดนเซ่, เดนมาร์ก),เจมส์ เบเรสฟอร์ด (อุทัยธานี เอฟซี), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (ชลบุรี เอฟซี)

   ทีมชุดนี้มีเพียง นิโคลัส มิคเคลสัน เท่านั้นที่เป็นตัวหลักของทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ส่วน ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ นั้นถูกเรียกตัวสม่ำเสมอ ทว่ายังไม่อาจเบียดแย่งตำแหน่งได้ ขณะที่ ทริสต็อง โด ก็เพิ่งคัมแบ็กเป็นหนแรก หลังหายหน้าไปร่วมปี แต่ที่เซอร์ไพรส์คือ เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด จาก อุทัยธานี เอฟซี ที่ติดโผมาแบบทึ่งกันทั้งบาง

   อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ 3 จาก 4 คนนั้นเป็น 'แบ็กขวา' ทำให้การแข่งขันในตำแหน่งนี้สูงลิ่วแน่นอน แต่ล่าสุด มิคเคลสัน ดันได้รับบาดเจ็บจากเกมลีกเดนมาร์ก นัดสุดสัปดาห์ จนต้องถอนตัวเป็นที่เรียบร้อย แถมทาง อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ก็ยืนยันว่าจะไม่เรียกใครเพิ่ม 

   ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ โด ที่ประสบการณ์โชกโชนกว่า เบเรสฟอร์ด จึงน่าจะจองตำแหน่งแบ็กขวาแน่นอน

   ส่วนฝั่งซ้าย แต่เดิมที่น่าจะเป็น มิคเคลสัน ก็คงจะต้องใช้ ฉัตรมงคล ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง แต่ก็ยังมี จักรกฤษ ลาภตระกูล ซึ่งเล่นได้ทุกตำแหน่งในทางริมเส้นก็สามารถขยับลงมาช่วยตรงนี้ได้เช่นกัน รวมไปถึง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่ถูกโยกมายืนกองหลังบ่อยๆ อีกราย

    ตัวจริงที่คาด : ทริสต็อง โด กับ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์

กองกลาง

    นักเตะที่เรียกติดทีม : วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด), พิชา อุทรา (เมืองทอง ยูไนเต็ด), ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท (เมืองทอง ยูไนเต็ด), ชานุกูล ก๋ารินทร์ (การท่าเรือ เอฟซี), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (ชลบุรี เอฟซี), เบนจามิน เดวิส (ชลบุรี เอฟซี), พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

   แผงมิดฟิลด์ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ จองพื้นที่แน่ๆ เพราะเป็นนักเตะที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ชื่นชอบมากๆ ส่วนคนอื่นๆ ที่เรียกตัวมา จะได้ลงสนามทั้งหมด และที่น่าสนใจคือ เบนจามิน เดวิส กับ ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ที่จะได้ประเดิมการเล่นให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่เป็นหนแรกในชีวิต

   อย่างไรก็ตาม หากเทียบประสบการณ์ พิชา อุทรา และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่จะได้เคียงข้าง วีระเทพ โดย ชานุกูล ก๋ารินทร์ เป็นตัวสอดแทรก ส่วน ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว น่าจะถูกขยับออกไปเล่นริมเส้นมากกว่า

   ดังนั้นแดนกลางจึงน่าจะออกมาเป็น พิชา, พิธิวัตต์ และ วีระเทพ โดยที่ ปุรเชษฐ์ กับ เดวิส นั้นรอโอกาสอยู่ข้างสนาม แต่ยังไงก็ได้เล่นแน่นอน

    ตัวจริงที่คาด : พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พิชา อุทรา 

ปีก

    นักเตะที่เรียกติดทีม : บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี), จักรกฤษ ลาภตระกูล (ประจวบ เอฟซี)

   บดินทร์ ผาลา จองแน่ๆ ไม่ว่าจะฝั่งขวาหรือซ้าย เพราะผลงานในทีมชาติดีเหลือร้าย อีกทั้งยังมีทีเด็ด เพราะมักจะสอดเข้ากรอบเขตโทษไปทำประตูให้ทัพช้างศึกได้บ่อยๆ 

   ดังนั้นจึงเหลืออีกหนึ่งฝั่ง ซึ่งน่าจะเป็น ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ด้วยพัฒนาการฝีเท้าดีวันดีคืน แถมเรื่องของเซ้นส์ฟุตบอลก็เหนือชั้น ลูกจ่ายแบบ 'คิลเลอร์พาส' ของหมอนี่สามารถพลิกโฉมหน้าของเกมได้ในชั่วพริบตา

   อย่างไรก็ตาม จักรกฤษ ลาภตระกูล และรวมไปถึง อาทิตย์ เบิร์ก ก็พร้อมจะสอดแทรกได้เช่นกัน ซึ่งทั้งคู่ก็คงจะมีส่วนร่วมกับการลุยยุโรป หนนี้เป็นแน่แท้ แต่จะจำนวนนาทีในสนามจะมากน้อยเพียงใด เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ตัวจริงที่คาด : ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กับ บดินทร์ ผาลา 

กองหน้าตัวเป้า

    นักเตะที่เรียกติดทีม : ยศกร บูรพา (ชลบุรี เอฟซี), อาทิตย์ เบิร์ก (นครปฐม ยูไนเต็ด), ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (การท่าเรือ เอฟซี)

    ตำแหน่งนี้มี 2 ผู้เล่นหน้าใหม่ติดทัพเข้ามาด้วย รายแรก อาทิตย์ เบิร์ก กองหน้าฟอร์มร้อนแรงจาก นครปฐม รูปร่างอาจจะไม่สูงใหญ่นัก แต่สกิลลูกหนังจัดจ้าน เอาตัวรอดได้เก่ง แถมยังจมูกไวในกรอบเขตโทษ ส่วนอีกหนึ่งคือ ยศกร บูรพา หัวหอกวัยเพียง 18 ปี แต่ได้รับการยกย่องให้เป็น 'วันเดอร์คิดส์' ของวงการลูกหนังไทย

   ทว่าทั้งคู่น่าจะต้องนั่งรอโอกาสก่อน เพราะมี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย จองพื้นที่อยู่ แต่ทั้ง ยศกร และ อาทิตย์ ก็คงจะได้เล่นแน่ๆ แต่จะได้เล่นมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่ที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง จะให้โอกาส

    ตัวจริงที่คาด : ธีรศักดิ์ เผยพิมาย