บทสรุปของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ใน เอเชียนเกมส์ 2022 จบลงที่รอบ 16 ทีม สุดท้าย กับความพ่ายแพ้ต่ออิหร่าน ไปด้วยสกอร์ 0-2
แน่นอนว่าคอลูกหนังทุกคนคงจะเสียดายที่ทัพช้างศึกไม่สามารถหักด่านหินเพื่อกรุยทางสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ ทว่าสิ่งที่นักเตะทุกคนแสดงออกมาในสนาม ถือว่า 'ชนะใจ' ผู้ชมจริงๆ
ตามหน้าเสื่อ ไม่ว่ามุมไหน ไทย ก็เป็นรองนักรบแห่งเปอร์เซียอยู่หลายช่วงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสบการณ์ในเกมระดับนานาชาติ, รูปร่าง, มาตรฐานการเล่นและอื่นๆ แทบจะทุกมุม
ดังนั้นการเผชิญหน้ากับยอดทีมแห่งเอเชียตะวันออกจึงต้องใช้ 'หัวใจ' เข้าสู้เท่านั้น ถึงพอจะมีทางเป็นไปได้ แม้มันจะยากมากๆ แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ ไม่มีอะไรแน่นอนทั้งนั้น
เริ่มเกมก็ตามทรงที่อิหร่าน จะเปิดหน้าบุกใส่ ด้วยชื่อชั้นที่เหนือกว่า บวกกับกุนซือของพวกเขาอย่าง เรซ่า เอนายาติ ซึ่งเป็นอดีตกองหน้าก็เป็นโค้ชที่ชื่นชอบเกมรุก มันจึงทำให้ทัพช้างศึกต้องตั้งรับเต็มรูปแบบ
ทว่าสิ่งที่ผิดคาดคือการที่ไทย ทำได้ดีมากๆ ทุกคนช่วยกันวิ่งบีบพื้นที่ ซึ่งทำเอาคู่แข่งเองก็คงจะงุนงงไม่น้อยว่าเราไปเอาพละกำลังมาจากไหน ทั้งๆ ที่ลงสนามถี่ขนาดนั้น
ทุกอย่างกำลังไปได้ดี แท็กติกที่ตระเตรียมมาไม่แตกแถม แต่แล้วเรื่องเดิมๆ ก็เกิดขึ้นจนได้ กับความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทำให้โดนนำ 1-0
มันคือ 'บทเรียน' อันล้ำค่าของ นพพล ละครพล ผู้รักษาประตูจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เตะไปติดบล็อกนักเตะอิหร่าน จนเป็นเหตุให้ไทย ต้องตามหลังตั้งแต่นาทีที่ 15 และนั่นเอง รูปแบบการเล่นจึงปรับเปลี่ยนไปพอสมควร
จากสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่านายทวารหนุ่มคงจะจดจำไปอีกนาน แต่ก็ต้องนำไปแก้ไข เพื่อที่จะพัฒนาตนเองต่อในอนาคต เพราะเขาคือหนึ่งในจอมหนึบอนาคตไกล และก็หวังว่าเจ้าตัวจะไม่เก็บเอามาเป็นตราบาป เพราะคนเรามันพลาดกันได้ ไม่มีใครไม่เคยทำผิด
พอโดนนำ ใครและใครต่างก็คิดว่าสกอร์น่าจะไหลแล้ว แต่ดีที่ว่าแข้งไทย ไม่สติหลุด หากแต่ยังอยู่ในเกม และก็มีจังหวะสวนกลับที่สร้างความลำบากใจให้อิหร่าน อยู่เนืองๆ ซึ่งก็น่าเสียดายที่ต้องมาเสียประตูที่ 2 จากความผิดพลาดอีกครั้ง ก่อนจะจบเกมด้วยความพ่ายแพ้ไปในที่สุด
มันคือเกมที่ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างสุดความสามารถจริงๆ แต่ด้วยมาตรฐานและปัจจัยหลายๆ อย่าง มันทำเรามาได้ไกลเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ผู้เล่นหลายๆ คนมีแววที่สดใสรออยู่ข้างหน้า และต้องอย่าลืมว่าขุนพลทัพช้างศึกที่มาลุย เอเชียนเกมส์ 2022 นั้นไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด เพราะจริงๆ แล้วไทย ยังมีนักเตะอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เก่งกาจอยู่อีกหลายราย ทว่าพวกเขาเหล่านั้นติดภารกิจกับต้นสังกัด จนอดช่วยเพื่อนๆ บู๊ที่เมืองจีน
ยังมีทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่าง เอเชียน คัพ 2024 รออยู่ในปีหน้า ซึ่งเชื่อได้เลยว่าตอนนั้นเราคงจะส่งทีมที่เต็มสูบทุกตำแหน่งไปแข่งขัน เพราะมันคือรายการที่จะชี้วัดมาตรฐานของวงการลูกหนังแดนสยามว่าอยู่ในจุดใดของทวีปเอเชีย
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, อิรฟาน ดอเลาะ, อนันต์ ยอดสังวาลย์, ลีออน เจมส์, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, โจนาธาร เข็มดี, ชนภัช บัวพันธ์, เบนจามิน เดวิส หรืออาจจะรวมถึง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา อีกคน นี่คือเหล่านักเตะที่เก่งกาจที่จะเป็นอนาคตของชาติในภายภาคหน้า
หากได้ผู้เล่นก๊วนนี้เข้ามา และบวกกับบรรดาแข้งชุด เอเชียนเกมส์ ที่ฟอร์มดีหลายๆ คน รับประกันเลยว่าทัพช้างศึกจะแข็งแกร่งและสามารถต่อกรกับทีมอื่นได้แน่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องรบกวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังไทย จัดการเรื่องโปรแกรมของลีกให้สอดคล้องกับการแข่งขันของเวทีนานาชาติด้วยเช่นกัน เพื่อที่เราจะได้ไปฟาดแข้งกับประเทศใหญ่ๆ แล้วนำประสบการณ์ที่ได้ กลับมาพัฒนากันต่อ
ส่วนทัพช้างศึกชุด ซีเกมส์ ที่อาจจะต้องพบความผิดหวัง ทว่ามันไม่ใช่สิ่งสุดท้ายในชีวิต หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่ก็อยากให้มุ่งมั่นและพยายามฝึกฝนตนเองเพื่อที่จะก้าวไปเป็นนักเตะที่ดีขึ้นในอนาคต
พวกคุณสู้ได้ดีแล้ว
ชิกกะด้าว