มีใครกันบ้าง? เปิด 11 คู่แข่ง "นิโคลัส มิคเคลสัน" ท้าชิงแบ็กขวาทีมชาติไทย

[ 1 ] นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม

สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

อายุ: 29

ติดทีมชาติ: 37 นัด (1 ประตู)

   เจ้าของสัมปทานฝั่งขวาของทีมชาติไทย ก่อนที่ มิคเคลสัน จะเฉิดฉาย - นฤบดินทร์ คือฟูลแบ็กที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติการเป็นกองหลังชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพละกำลัง, เกมรับ, วินัย, ความไวหรือการเติมเกมรุก ที่สำคัญหมอนี่มักจะแอสซิสต์ให้เพื่อนได้บ่อยอีกต่างหาก

   นี่คือแคนดิเดตอันดับ 1 ที่ มิคเคลสัน ต้องระวังให้ดี เพราะวันใดที่ฟอร์มตก เขาอาจจะถูก นฤบดินทร์ ซึ่งเป็นนักเตะที่รักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงได้

[ 2 ] ทริสต็อง โด

สโมสร: เมืองทอง ยูไนเต็ด

อายุ: 30

ติดทีมชาติ: 48 นัด (0 ประตู)

   ในยุคที่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นเฮดโค้ช - โด คือตัวเลือกแรกที่กุนซือจอมตีลังกาเลือกใช้งาน โทษฐานที่เป็นนักเตะที่ฟิตจัดมากๆ แถมยังได้เรื่องของเกมรับอันเหนียวแน่นเป็นจุดขาย แต่ระยะหลังผลงานดร็อปลงไป กระทั่งหลุดออกจากทัพช้างศึกไปในที่สุด

   อย่างไรก็ตาม การย้ายกลับมาเล่นในเมืองไทย กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นเหมือนการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่า โด เองก็มีดีไม่แพ้ใคร หากฟื้นฟอร์มการเล่นเหมือนเมื่อ 4-5 ปีก่อนได้ โอกาสที่เขาจะเบียดแย่งตำแหน่งจาก มิคเคลสัน ก็มีไม่น้อยเช่นกัน

[ 3 ] ศุภนันท์ บุรีรัตน์

สโมสร: การท่าเรือ เอฟซี

อายุ: 29

ติดทีมชาติ: 14 นัด (1 ประตู)

   ศุภนันท์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาตลอด ตั้งแต่อยู่กับ พัทยา ยูไนเต็ด ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น สมุทรปราการ ซิตี้ กระทั่งได้ย้ายมา การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งก็ยังรักษามาตรฐานของตนเองไว้ได้ในระดับสูง หมอนี่เป็นแบ็กที่เบสิกดี, พละกำลังล้นเหลือ และมีจุดเด่นในเรื่องการทะลุทะลวง

   ด้วยฟอร์มปัจจุบัน อาจจะเป็นรองคนอื่นๆ อยู่นิดๆ แต่ถ้าเรื่องการรักษาความสม่ำเสมอ ศุภนันท์ ทำได้เหนือกว่าคู่แข่งแน่ ดังนั้นขึ้นอยู่ที่ว่าชั่วโมงนั้นโค้ชทีมชาติไทย จะเล็งเห็นตรงส่วนใดเท่านั้นเอง

[ 4 ] นิติพงษ์ เสลานนท์

สโมสร: แบงค็อก ยูไนเต็ด

อายุ: 30

ติดทีมชาติ: 4 นัด (0 ประตู)

   จริงๆ แล้ว นิติพงษ์ คือหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดของเมืองไทย แต่ด้วยความที่ในทัพช้างศึกอุดมไปด้วยนักเตะชั้นยอดในตำแหน่งนี้ มันจึงทำให้สถิติรับใช้ชาติของเขาน้อยนิดกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยสไตล์การเล่นที่ว่องไว, ไปกับบอลดี แถมยังมีเรื่องเกมรุกเป็นจุดขาย กองหลังชาวราชบุรี จึงเข้าข่ายผู้เล่นยุคโมเดิร์นอย่างแท้จริง

   การถูกเรียกตัวมาเป็นเบอร์สองต่อจาก มิคเคลสัน ในศึก คิงส์ คัพ 2023 บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเก่งกาจเพียงใด เพียงแต่ว่าคู่ต่อสู้ในตำแหน่งนี้มีเยอะมาก ดังนั้น นิติพงษ์ คงต้องทำงานอย่างหนักและพยายามรักษามาตรฐานให้ได้สม่ำเสมอ โอกาสถึงจะกลับมาหาอีกครั้ง

[ 5 ] สันติภาพ จันทร์หง่อม

สโมสร: บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

อายุ: 26

ติดทีมชาติ: 1 นัด (0 ประตู)

   แม้จะไม่ได้มีเกมรุกที่โดดเด่นเหมือนเช่นฟูลแบ็กคนอื่นๆ แต่ถ้าเรื่องของเกมรับ รับประกันเลยว่า สันติภาพ ไม่มีแพ้แน่นอน เพราะหมอนี่เป็นกองหลังที่ประกบตัวได้ดี จนบางทีแนวรุกฝั่งตรงข้ามยังท้อ และที่สำคัญคือความฟิตที่วิ่งไม่มีหมด 120 นาที เลยทีเดียว

   อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ สันติภาพ จะกลับไปท้าชิงตำแหน่งในทีมชาตินั้นมีไม่มากนัก เนื่องจากแคนดิเดตแต่ละรายล้วนแล้วแต่เด็ดดวงทั้งนั้น อีกอย่างคือการที่ปัจจุบันในสโมสรเอง เขาก็ต้องแย่งพื้นที่กับ ไรฮาน สจ๊วร์ต แบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

[ 6 ] สุพร ปีนะกาตาโพธิ์

สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

อายุ: 28

ติดทีมชาติ: 2 นัด (0 ประตู)

   สุพร มีข้อดีที่สามารถเล่นได้ทั้งแบ็กขวาและซ้าย แถมยังมีทีเด็ดจากลูกยิงจากแถวสองที่ได้โอกาสสับไกเมื่อใด มีเสียวเมื่อนั้น นอกจากนี้ เรื่องของการเติมเกมรุก หมอนี่ก็ทำได้โดดเด่นมากๆ ด้วยความที่เป็นนักเตะสกิลสูง

   อย่างไรก็ตาม การที่อยู่ บุรีรัมย์ เขาไม่ใช่ตัวเลือกแรกในรายชื่อตัวจริง ดังนั้นโอกาสที่จะกลับมาติดทีมชาติจึงถูกจำกัดลงไปด้วยเช่นกัน

[ 7 ] สุขสันต์ บุญตา 

สโมสร: ชลบุรี เอฟซี

อายุ: 21

ติดทีมชาติ: 0 นัด (0 ประตู)

   เพิ่งถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ ชลบุรี เอฟซี ได้ไม่นาน แต่ผลงานกระฉูดจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดของประเทศ แต่น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาว และต้องลุ้นกันว่าเมื่อหายกลับมา เขาจะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลเพียงใด

   ในวัยเพียง 21 ยังมีเวลาอีกมากมายให้ สุขสันต์ ได้สำแดงเดช แต่มันขึ้นอยู่กับว่าตัวเขาจะหลีกหนีจากสิ่งเร้ารอบข้างได้ดีเพียงใด ถ้าหากโฟกัสฟุตบอลอย่างเดียวเพียวๆ รับรองเลยว่า มิคเคลสัน จะต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดอย่างแน่นอน

[ 8 ] บุญทวี เทพวงศ์

สโมสร: แบงค็อก ยูไนเต็ด

อายุ: 27

ติดทีมชาติ: 0 นัด (0 ประตู)

   ผลงานดีมากๆ กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด เกมรับไฉไล แทบไม่มีใครเลี้ยงผ่านได้เลย เกมรุกก็เติมจนสุดเส้น กระทั่งได้ย้ายมาอยู่กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2023-24 ทว่ายังต้องนั่งสำรอง เพราะว่า นิติพงษ์ เสลานนท์ นั้นฟอร์มเด่นเหลือเกิน

   แม้โอกาสที่จะถูกเรียกติดทีมชาติน้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ทว่าขั้นแรก บุญทวี ต้องพยายามแย่งตัวจริงในสโมสรให้ได้ก่อน จากนั้นประตูสู่ทัพช้างศึกจะเปิดกว้างเอง

[ 9 ] บุคฆอรี เหล็มดี

สโมสร: ชลบุรี เอฟซี

อายุ: 19

ติดทีมชาติ: 0 นัด (0 ประตู)

   บุคฆอรี มีคุณสมบัติครบถ้วนกับการที่จะกลายเป็นกองหลังชั้นยอดในอนาคต รูปร่างดี, แข็งแกร่ง, มีความไว, อ่านเกมเยี่ยม, สกัดแม่น และที่สำคัญคือเรื่องของหัวใจที่สู้ยิบตาจนกองหน้าต้องระอากันเลยทีเดียว

   แนวรับชาวสงขลา เล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหลัง ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถเป็นตัวเลือกที่โค้ชทุกคนปลาบปลื้ม แต่กระนั้น เวลานี้ บุคฆอรี ต้องแย่งตำแหน่งกับ พงศกร ตรีศาสตร์ ที่ผลงานโดดเด่น ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติชุดยู-23 ทำให้เขาต้องเร่งพัฒนาตนเอง หากปรารถนาที่จะไปให้ไกลที่สุดบนถนนสายลูกหนัง

[ 10 ] พีฬาวัช อรรคธรรม

สโมสร: ประจวบ เอฟซี

อายุ: 24

ติดทีมชาติ: 0 นัด (0 ประตู)

   จริงแล้วตำแหน่งของ พีฬาวัช คือกองกลางตัวรับ หรือไม่ก็เซนเตอร์ฮาล์ฟ ทว่า 2 จาก 3 นัดแรกของฤดูกาล 2023-24 เขาถูกจับไปยืนเป็นฟูลแบ็กฝั่งขวา ซึ่งก็ทำได้โดดเด่นทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องของเกมรับที่แทบไม่มีใครผ่านได้เลย

   ด้วยอายุเพียง 24 ปี เส้นทางฟุตบอลของเขายังอีกยาวไกล แต่อาจจะเป็นรองคนอื่นๆ อยู่พอสมควร เพราะไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติ ทว่าของแบบนี้มันพัฒนากันได้ หากว่า พีฬาวัช ยังได้รับมอบหมายให้เล่นแบ็กขวาอยู่เรื่อยๆ และรักษาฟอร์มได้ต่อเนื่อง บางทีอนาคตข้างหน้าอาจจะมีเซอร์ไพรส์ ก็เป็นได้

[ 11 ] จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์

สโมสร: สุโขทัย เอฟซี

อายุ: 26

ติดทีมชาติ: 0 นัด (0 ประตู)

   อดีตดาวรุ่งมุ่งสู่ทีมชาติไทย ผู้เคยไปเล่นในลีกญี่ปุ่น กับ เอฟซี โตเกียว รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มาแล้ว ก่อนจะกลับมาโลดแล่นบนแผ่นดินขวานทอง และก็กำลังไปได้สวยกับ สุโขทัย เอฟซี เช่นกัน

   จุดเด่นของ จักรกฤษณ์ คือการเป็นแบ็กจอมบุก เขามีทักษะลูกหนังอันเอกอุเป็นทุนเดิม มันจึงทำให้เรื่องของเกมรุกสามารถทำได้หลากมิติ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับทัพช้างศึก หากต้องการนักเตะประเภททะลุทะลวงในอนาคต

[ 12 ] มนตรี พรมสวัสดิ์

สโมสร: เชียงราย ยูไนเต็ด

อายุ: 28

ติดทีมชาติ: 0 นัด (0 ประตู)

   ตำแหน่งธรรมชาติของ มนตรี คือปีกขวา ทว่าการที่ เชียงราย ยูไนเต็ด มักจะเล่นระบบ 3-5-2 ทำให้ถูกจับไปยืนเป็นวิงแบ็กบ่อยๆ แต่ด้วยความที่ตนเองมีพละกำลังล้นเหลือ มันจึงทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ 

   แม้จะโดดเด่นในเรื่องเกมรุก แต่กับเกมรับ มนตรี ก็รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองได้ดีมากๆ จน ณ ปัจจุบัน ผ่านไป 3 เกม กว่างโซ้งมหาภัยยังรักษา 'คลีนชีต' ได้อยู่เลย และบางทีถ้าผลงานยังไปได้สวยแบบนี้ เขาอาจจะถูกเรียกตัวสู่ทัพช้างศึกชุดใหญ่ก็ได้