อีกเกมเดียวเพื่อแชมป์คิงส์คัพ! มาโน่ส่ง "มุ้ย-ธีรศิลป์" นำทัพทีมชาติไทยล่าตาข่ายอิรัก

  การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 รอบชิงชนะเลิศ ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.2566 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เวลา 20.30 น. เป็นเกมคู่ระหว่าง ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 113 ของโลก พบกับ ทีมชาติอิรัก ทีมอันดับ 70 ของโลก ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐ ทีวี หมายเลข 32 และช่อง AIS PLAY

  โดยทัพ "ช้างศึก" ในรอบรองชนะเลิศสามารถเอาชนะ เลบานอน ทีมอันดับ 100 ของโลก มาได้ 2-1 ส่วนพลพรรค "สิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย" เอาชนะจุดโทษ อินเดีย ทีมอันดับ 99 ของโลก 5-4 หลังเสมอในเวลาปกติ 90 นาที 2–2 สกอร์รวมชนะไป 7-6

  ความพร้อมของทัพ "ช้างศึก" ที่มี มาโน่ โพลกิ้ง คุมทัพ ประกาศเป้าหมายต้องการเป็นแชมป์ครั้งนี้ให้ได้แม้ว่าคู่แข่งจะแข็งแกร่งกว่าก็ตาม โดยการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายเน้นการซ้อมเกมร้บโดยเฉพาะการป้องกันลูกตั้งเตะจากคู่แข่ง เนื่องจากผู้เล่นอิรัก มีรูปร่างที่สูงใหญ่ ก่อนตะปิดท้ายด้วยการซ้อมยิงจุดโทษ เพื่อเตรียมพร้อมหากเกมต้องยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษตัดสิน

  สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ยังคงเน้นชุดเกมจากเกมที่แล้ว แต่เปลี่ยนระบบการเล่นจากหลัง 3 คนมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม), นิโคลัส มิเกลสัน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา, สุภโชค สารชาติ, ธีรศิลป์ แดงดา

  ด้านทีมชาติอิรัก ที่มี "เฆซุส กาซัส" กุนซือใหญ่ชาวสเปนวัย 49 ปี เกมนี้จะไม่มี ซีดาน อิ๊กบาล กองกลางดาวรุ่งวัย 20 ปี ซึ่งเป็นอดีตเด็กปั้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงสนามแน่นอน หลังโดนใบแดงโดยตรงกรณีไปชักศอกใส่ผู้เล่นอินเดีย ในเกมรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา ส่งผลให้เกมนี้ติดโทษแบนทันที

 ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ซึ่งแฟนบอลชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้ง เรบิน ซูลาก้า อดีตกองหลังบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ซีซั่นติดต่อกันในฤดูกาล 2021/22 กับ 2022/23 ที่ปัจจุบันย้ายไปอยู่กับ ไอเอฟ บรอมมาโปจคาร์นา ทีมในลีกสวีเดน รวมทั้ง ฟรานส์ ปูโตรส แนวรับวัย 30 ปี ที่ค้าแข้งอยู่กับการท่าเรือ เอฟซี พร้อมลงสนามเช่นกัน รวมทั้ง อาลี อัล-ฮามาดี หัวหอกวัย 21 ปีจาก เอเอฟซี วิมเบิลดัน ทีมในลีกทู อังกฤษ เตรียมลงล่าตาข่าย

 สำหรับทีมชาติไทย ไม่ชนะ อิรัก 4 เกมติดต่อกัน โดยหนสุดท้ายที่ "ช้างศึก" โค่น อิรัก ต้องย้อนไปในปี 2008 วันที่ 25 พ.ค.2551 เกมนั้นเป็นแมตช์อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ทีมชาติไทย เปิดบ้านเอาชนะ 2-1 ส่วนสถิติ 5 เกมหลังสุดที่พบกันเป็น อิรัก ที่ชนะไป 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ ทีมชาติไทย แค่เกมเดียวเท่านั้น

 นอกจากนี้ "ช้างศึก" เคยพบกับ อิรัก มาแล้วในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2007 โดยเอาชนะไปได้ 1-0 ก่อนเตรียมโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในเกมชิงดำรอบ 16 ปี โดยทีมชาติไทย ลุ้นคว้าแชมป์สมัยที่ 16 ส่วน อิรัก ลุ้นคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรก