ความสำเร็จในอดีต, สไตล์การเล่น, เฮดโค้ช, ทีมชุดปัจจุบัน, นักเตะเด่น, นักเตะน่าจับตามองและเกร็ดน่ารู้เรื่องอื่นๆ 'SIAMSPORT' ขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับทีมชาติ 'อิรัก' เพิ่มมากยิ่งขึ้น!!
คิงส์ คัพ 2023 นัดชิงชนะเลิศ - ทีมชาติไทย พบอิรัก วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐทีวี หมายเลข 32 และช่อง AIS PLAY
[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต
แม้จะมีเรื่องของสงครามภายในและระหว่างประเทศ ทว่าทีมชาติอิรัก คือหนึ่งในเสือร้ายแห่งดินแดนเอเชียตะวันตก ฟุตบอลของพวกเขาอาจจะเคยผ่านเข้าไปเล่น เวิร์ล คัพ รอบสุดท้ายเพียงหนเดียว แต่ก็ไม่มีใครกล้าประมาทสิงโตแห่งเมโสโปเตเมียเช่นกัน
ความเก่งกาจของอิรัก คือการผงาดคว้าแชมป์ เอเชียน คัพ เมื่อปี 2007 ซึ่งครั้งนั้นหักด่านชาติใหญ่อย่างเกาหลีใต้ มาได้ โดยนัดชิงชนะเลิศเอาชนะซาอุดีอะราเบีย จนกลายเป็นเบอร์หนึ่งของเอเชีย
เท่านั้นไม่พอ พวกเขายังเคยคว้าถ้วย WAFF Championship หรือศึกชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย ตะวันตกอีกในปี 2002, แชมป์ อาหรับ คัพ 4 สมัย, แชมป์ อะราเบียน กัล์ฟ คัพ 4 สมัย (เพิ่งได้หนล่าสุดในปี 2023) และ เอเชียน เกมส์ อีก 1 สมัย
ด้วยความสำเร็จที่ผ่านมา อิรัก จึงถือเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของทวีปเอเชีย อย่างแท้จริง
[ 2 ] สไตล์การเล่น
สไตล์การเล่นของทีมในเอเชียตะวันตก ไม่แตกต่างกันมากนัก คือเปี่ยมไปด้วยเทคนิค, นักเตะมีรูปร่างสูงใหญ่และเน้นฟุตบอลกับพื้นเป็นหลัก
ทว่าสิ่งที่อิรัก แตกต่างจากประเทศอื่นๆ คือความแข็งแกร่งในเกมรับที่เจาะได้ยากยิ่ง คือถ้าแนวรุกฝั่งตรงข้ามไม่มีแผนหนึ่งหรือแผนสอง ก็เป็นเรื่องลำบากที่จะฝ่าถึงปราการด่านสุดท้าย ซึ่งคือผู้รักษาประตูนั่นเอง
[ 3 ] เฮดโค้ช
เฆซุส กาซาส เทรนเนอร์ผู้เคยเป็นผู้ช่วยของ ฆาบี การ์เซีย ที่ วัตฟอร์ต เมื่อปี 2018 ก่อนจะได้รับการทาบทามจากสมาคมฟุตบอลสเปน ให้ไปรับบทมือขวาของเฮดโค้ชทีมชาติระหว่างปี 2018-22 ซึ่งทำให้เขาได้ร่วมงานกับ หลุยส์ เอ็นริเก้ และ โรเบิร์ต โมเรโน่
กระทั่งปลายปี 2022 เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือของอิรัก ด้วยสัญญา 4 ปี พร้อมเป้าหมายระยะยาวในการพาสิงโตแห่งเมโสโปเตเมียประสบความสำเร็จในอนาคต
พอเข้ามารับงานได้ไม่นาน กาซาส ก็สร้างชื่อในเอเชีย ทันทีเมื่อนำทีมคว้าแชมป์ อะราเบียน กัล์ฟ คัพ 2023 แถมจนถึงปัจจุบัน เขาก็มีสถิติที่ดีเยี่ยมกับการคุมทัพ 10 นัด ชนะ 6, เสมอ 2 และแพ้ 2 ซึ่งความปราชัยที่เกิดขึ้นคือการพ่ายต่อโคลอมเบีย กับรัสเซีย ที่มีแรงกิ้งสูงกว่า
สไตล์การทำทีมของเขาคือเน้นบอลเท้าต่อเท้า และชื่นชอบเกมรุกเป็นชีวิตจิตใจ มันจึงทำให้อิรัก คือทีมที่เล่นฟุตบอลสนุกขึ้นกว่าเก่าก่อนมากทีเดียว
[ 4 ] ทีมชุดปัจจุบัน
แม้ว่า เฆซุส กาซาส เพิ่งจะเข้ามารับงานในช่วงปลายปี 2022 ทว่าเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างนักเตะชุดเก่ามากมายนัก เพราะทีมปัจจุบันก็อุดมไปด้วยผู้เล่นผสมผสานระหว่างเก๋าประสบการณ์และดาวรุ่ง
ผู้รักษาประตู จาลาล ฮัสซัน ยังคงเป็นทั้งกัปตันทีมและปราการด่านสุดท้ายที่มีสถิติรับใช้ชาติ 73 นัด ส่วนแดนหลังมีสองแข้งที่มีความเกี่ยวข้องกับ ไทยลีก อย่าง เรบิน ซูลาก้า (อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) กับ ฟรานส์ ปูโตรส แนวรับ การท่าเรือ เอฟซี
นอกจากนี้ อาลี อัดนาน อดีตนักเตะ อุดิเนเซ่ และ รูบิน คาซาน ซึ่งเป็นแบ็กซ้ายระดับเอเชีย ก็ยังอยู่จะขาดก็แค่ อาลี ฟาเอซ ปราการหลังวัย 28 ปี ที่ไม่ได้อยู่ใน ชุด คิงส์ คัพ 2023
ขยับมาที่แผงมิดฟิลด์ พวกเขายังมีนักเตะเก่งๆ มากมาย ไล่ตั้งแต่ อัมจ๊าด อั๊ตวาน, บาสฮาร์ เรซาน, ฮุสเซน อาลี อัล-ซาเอดี้, อิบราฮิม บาเยช และที่ขาดไม่ได้คือ ซีดาน อิกบาล อดีตนักเตะที่เติบโตจากระบบเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ส่วนแดนหน้าก็ค่อนข้างฟูลทีม เมื่อมี อายเมน ฮุสเซน กับ อาลี อัล-ฮามาดี้ หัวหอกดาวรุ่งที่เล่นในอังกฤษ กับ เอเอฟซี วิมเบิลดัน จึงจะขาดแค่ โมฮาน๊าด อาลี เท่านั้นที่ไม่ได้ร่วมทัพชุดนี้
[ 5 ] นักเตะเด่น
อิรัก มีผู้เล่นฝีเท้าเยี่ยมมากมาย ไล่ตั้งแต่ อาลี อัดนาน ที่ผ่านประสบการณ์ในยุโรป มาโชกโชน รวมไปถึง ฮุสเซน อาลี อัล-ซาเอดี้, อิบราฮิม บาเยช, อายเมน ฮุสเซน หรือ ซีดาน อิกบาล แต่คนที่เปล่งประกายที่สุดในชุดนี้คือ บาสฮาร์ เรซาน
แนวรุกจอมพลิ้ววัย 26 ปี ประสบความสำเร็จมากๆ กับการเล่นนอกประเทศ เพราะไปได้แชมป์ลีกอิหร่าน ถึง 3 สมัย รวมทั้งยังอยู่ในสนามแบบเต็มเกมในนัดชิงชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 และ 2020 แต่น่าเสียดายที่เป็นพระรองทั้ง 2 ครั้ง
จุดเด่นของ เรซาน คือ 'เซนส์' ฟุตบอลที่เหลือร้ายและลูกจ่ายทะลุช่องที่สามารถสร้างความหนักใจให้กับแนวรับที่ต้องเผชิญ
[ 6 ] นักเตะน่าจับตามอง
จริงๆ แล้ว ซีดาน อิกบาล คือผู้เล่นที่น่าจับตามองมากที่สุดของอิรัก ชุดนี้ ทว่าอดีตนักเตะจากอะคาเดมี่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดันติดโทษแบนจากใบแดงในเกมชนะอินเดีย ทำให้พลาดการลงสนาม เนื่องจาก คิงส์ คัพ คือทัวร์นาเมนต์ที่ได้รับการรับรองจาก ฟีฟ่า ให้อยู่ในระดับ 'A-Match'
ด้วยเหตุนี้ อิบราฮิม บาเยช มิดฟิลด์วัยเพียง 23 ปี จึงกลายเป็นแข้งที่ไทย ต้องระแวดระวังให้มาก เพราะหมอนี่คือเพลย์เมเกอร์ที่สามารถเปลี่ยนทิศทางของการแข่งขันได้ในชั่วพริบตา
เจ้าของรางวัล 'นักเตะยอดเยี่ยม' พ่วงด้วย 'ดาวซัลโว' จากศึก อะราเบียน กัล์ฟ คัพ 2023 โดดเด่นทั้งเรื่องของทักษะลูกหนัง, วิสัยทัศน์, จ่ายแม่นทั้งสั้น-ยาว และที่สำคัญยังมีลูกยิงไกลที่หวังผลได้ทุกครั้งเมื่อสับไก
[ 7 ] เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- หนล่าสุดที่เจอกันคือ ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2017 โดยเกมนั้นอิรัก บุกมาเฉือนไทย 2-1 ส่วนเกมที่พวกเขาเล่นในบ้านนั้นถล่มทัพช้างศึกไป 4-0
- หนล่าสุดที่ไทย ชนะอิรัก ได้สำเร็จ ต้องย้อนกลับไปปี 2008 ซึ่งทัพช้างศึกเอาชัยไปด้วยสกอร์ 2-1 แต่นั่นเป็นเพียงเกมกระชับมิตรเท่านั้น
- ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู) คือนักเตะที่อายุมากที่สุดของไทย ชุดนี้ (36 ปี) ส่วนฝั่งอิรัก นั้นมากสุดเพียง 32 ปี คือ จาลาล ฮัสซัน (ผู้รักษาประตู) ซึ่งมีวัยเพียง 32 ปี
- เบนจามิน เดวิส (กองกลาง) คือนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของไทย ชุดนี้ (22 ปี) ขณะที่อิรัก เรียก อามิน อัล-ฮามาวี่ ศูนย์หน้าวัย 19 ปี จากลีกสวีเดน ติดมาด้วย
- ธีรศิลป์ แดงดา คือดาวซัลโวของฝั่งไทย (64 ประตู) ส่วนอิรัก นั้นมี อายเมน ฮุสเซน (15 ประตู)
- เบนจามิน เดวิส (กองกลาง) และ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ (ผู้รักษาประตู) คือนักเตะที่ยังไม่เคยเล่นให้ทีมชาติไทย มาก่อน แต่ถูกเรียกตัวเข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้ ขณะที่อิรัก นั้นมี มาซี่ส์ อาร์เตียน เซนเตอร์ฮาล์ฟเชื้อสายอาร์เมเนีย ที่เพิ่งถูกเรียกตัวสดๆ ร้อนๆ
- ไทย มีนักเตะ 3 ราย ที่ค้าแข้งต่างแดน คือ นิโคลัส มิคเคลสัน (โอเดนเซ่, เดนมาร์ก), เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด, อินโดนีเซีย) และ สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ญี่ปุ่น)
- อิรัก มีนักเตะ16 ราย ที่ค้าแข้งต่างแดน ดังนั้นจึงมีเพียง 7 คน เท่านั้นที่เล่นในประเทศ
- อิรัก มี 2 นักเตะที่มีส่วนร่วมกับ ไทยลีก คือ เรบิน ซูลาก้า ซึ่งเป็นอดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ฟรานส์ ปูโตรส กองหลัง ที่ปัจจุบันอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี
- จริงๆ แล้วน่าจะมี จิโลน อาหมัด แนวรุกของ อุทัยธานี เอฟซี อีกคนที่เคยติดทีมชาติอิรัก แต่เขาไม่ถูกเรียกตัวในทีมชุดนี้