ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ประเดิมศึก เอเชียน คัพ 2024 รอบคัดเลือกได้อย่างงดงามกับการถล่มฟิลิปปินส์ ไปเละเทะ 5-0 รายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ และนี่คือสิ่งที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!
1.บทบาทกองกลางของ ฉัตรมงคล
ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ คือหนึ่งในดาวโรจน์ของสยามประเทศ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เขาถูกคาดหมายว่าอนาคตข้างหน้า คงจะก้าวขึ้นมาแทนที่ ธีราทร บุญมาทัน สุดยอดนักเตะทีมชาติไทย ที่ประสบความสำเร็จมากมาย
สไตล์การเล่นของกองหลัง ชลบุรี เอฟซี คือมีวินัยในเกมรับ, พละกำลังล้นเหลือ, จ่ายแม่น, เล่นฟุตบอลฉลาดและยังสามารถเติมไปช่วยเพื่อนๆ ในแดนบนได้แบบไหลลื่น
ด้วยคุณสมบัติที่มี อิสระ ศรีทะโร จึงมอบหมายบทบาท 'กองกลาง' ให้ ฉัตรมงคล ในเกมพบฟิลิปปินส์ ซึ่งถือว่าเจ้าตัวทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมทีเดียว เพราะนอกจากจะเข้าขากับ อิรฟาน ดอเลาะ เป็นปี่เป็นขลุ่ย ยังมีจังหวะวางบอลยาวที่แม่นยำ ซึ่งกลายเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ทัพช้างศึกโจมตีคู่ต่อสู้ได้หลากหลายมากกว่าเดิม
การปรับมาเล่นมิดฟิลด์ แม้มันอาจจะไม่ชินตา แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นว่าทีมชาติไทย มีความยืดหยุ่นเช่นกัน และที่สำคัญ ถ้าเล่นได้ด้วยมาตรฐานนี้ แฟนๆ คงจะอุ่นใจว่าอนาคตข้างหน้า อย่างน้อยก็มีเด็กหนุ่มชาวปทุมธานี ที่พร้อมจะก้าวมาทดแทนรุ่นพี่ได้อย่างแน่นอน
2.ขึ้นนำไวทำชนะง่าย
การออกนำตั้งแต่นาทีที่ 5 จากการทำประตูของ ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางบวก เพราะก่อนเกมการแข่งขัน ทุกคนรู้ดีว่าฟิลิปปินส์ นั้นจะต้องมาตั้งรับลึกแน่นอน
เริ่มเกมมา นอกจากจะขันน๊อตแน่นหนา แต่ส่วนหนึ่งจากความหละหลวม บวกกับการประกบตัวผิดพลาด ที่ทำให้แนวรับทัพตากาล็อกต้องเสียประตูแรก และพอโดนก่อน มันจึงเข้าทางทีมชาติไทย ไปทีละนิด
ประตูที่ 2 และ 3 ตามมาในนาทีที่ 20 กับ 28 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ซึ่งการนำห่าง 3-0 นั้นทำให้ทัพช้างศึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ
ด้วยผลต่างของจำนวนประตู ครึ่งหลังจึงเป็นเหมือนการทดสอบผู้เล่นคนอื่นๆ เพราะว่า อิสระ ศรีทะโร เปลี่ยนตัวหลายตำแหน่ง แต่รูปเกมไม่ได้เปลี่ยนไป แถมยังดูลื่นไหลกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพียงแต่ยิงไม่ได้เท่ากับครึ่งแรกเท่านั้นเอง
3.อิรฟาน ประสานเกมลื่นไหล
อิรฟาน ดอเลาะ กัปตันทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อาจจะไม่โดดเด่นเท่ากับบรรดาตัวรุกที่ผลัดกันสร้างสรรค์เกมและยิงประตู ทว่าการมีมิดฟิลด์หมายเลข 6 อยู่ในสนามนั้นทำให้ทัพช้างศึกมีความสมดุลทั้งรับ-รุก
ผู้เล่นจากค่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันอยู่กับ อุทัยธานี เอฟซี ในฐานะนักเตะยืมตัวเชื่อมเกมระหว่างแดนหลังและกลางได้อย่างเนียนตา อีกทั้งยังทำให้ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ที่ขยับมายืนเป็นมิดฟิลด์เล่นได้สบายขึ้น เพราะมีคนคอยเก็บกวาดให้
แม้ว่าจะไม่หวือหวา แต่บอลจากเท้าของ อิรฟาน นั้นสามารถสร้างประโยชน์ได้ทุกครั้ง ส่วนเกมรับ เขาก็ช่วยแบ่งเบาภาระกองหลังได้ดีทีเดียว เพราะก่อนที่แนวรุกฟิลิปปินส์ จะทะลุถึงคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟของไทย นั้นมักจะสะดุดที่เด็กหนุ่มวัย 22 ปี คนนี้บ่อยๆ
หากจะบอกว่าเขาเป็นนักเตะผู้ 'ปิดทองหลังพระ' คงจะไม่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด
4.ปุรเชษฐ์-อนันต์ สร้างความป่วนปั่น
แนวรุกของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดนี้ ถือว่ามากันเกือบครบ นำทัพโดย ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, พันธมิตร ประพันธ์, อนันต์ ยอดสังวาลย์, เนติธร แก้วเจริญ, เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์, ยศกร บูรพา และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
ทุกรายชื่อที่ อิสระ ศรีทะโร เรียกตัวมา จัดว่าจัดจ้านมากๆ ในรุ่นนี้ และแต่ละรายต่างก็โลดแล่นใน ไทยลีก กันไปพอสมควร บางคงเป็นผู้เล่นหลักของสโมสร บางคนอาจจะไม่ได้ลงบ่อยๆ แต่ก็จัดอยู่ในหมวด 'ทีเด็ด' ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ชัดเจน
สำหรับเกมชนะฟิลิปปินส์ 5-0 ต้องชื่นชมฟอร์มการเล่นของ ปุรเชษฐ์ ที่อาจจะลงเล่นเพียงครึ่งเดียว แต่กองกลางจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ยังรักษามาตรฐานของตนเองยามเล่นให้ทัพช้างศึกได้อย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่ อนันต์ คงจะเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกม กับจังหวะโชว์สกิลและลากเลื้อยที่สามารถปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้ตลอด แถมยังมีประตูด้วยอีกต่างหาก
นอกจากนี้ ชาญณรงค์ ก็โดดเด่นตามแบบฉบับของตนเอง เล่นฉลาด มีลูกจ่ายทะลุช่องที่อันตราย และมันนำมาซึ่ง 2 แอสซิสต์
ปิดท้ายที่ ธีรศักดิ์ ที่ยืนหน้าเป้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะทำ 1 แอสซิสต์ และก็ปิดสกอร์ได้ 1 ประตู
5.กาวิน มิวเอนส์ น่าสนใจ
ในความพ่ายแพ้ 0-5 ของฟิลิปปินส์ พวกเขายังมีแสงที่ประกายอยู่บ้างกับฟอร์มของ กาวิน มิวเอนส์ กองกลางเชื้อสายอเมริกา ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ทั้งบู๊-ทั้งบุ๋น
มิดฟิลด์วัย 18 ปี เล่นได้ดุดัน หลายๆ จังหวะที่เขาเข้าปะทะกับผู้เล่นที่มีร่างกายแข็งแกร่งอย่าง ธีรศักดิ์ เผยพิมาย หรือ ลีออน เจมส์ ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย แต่ได้รับเลือกให้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง และเมื่อได้โอกาส ก็ไม่ทำให้มันหลุดลอยออกไป แถมยังทำผลงานได้โดดเด่นเสียด้วย
ฝีเท้าแบบนี้ บวกกับเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล และที่สำคัญคือหน้าตาหล่อเหลาเอาการ หากแมวมองของ ไทยลีก เห็นเข้า รับประกันเลยว่าอาจจะได้เห็น มิวเอนส์ ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้