สุภโชค สารชาติ กำลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยตัวเลข 2 นัด 3 ประตู และอีก 1 แอสซิสต์ ซึ่งฟอร์มขนาดนี้ ย่อมทำให้แฟนฟุตบอลชาวไป รวมไปถึงที่ญี่ปุ่น ต่างก็รู้สึกปลื้มปริ่มเสียมิได้
แนวรุกจากจังหวัดศรีสะเกษ อดทนรอโอกาสของตนเองอยู่นานพอสมควร แม้จะได้ลงสนามอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ต้องการ
กระทั่งมาระยะหลังนี่แหละ ที่เขาเริ่มมีบทบาทกับทัพคอนซะมาขึ้น ซึ่งนั่นคือผลพวงจากความมุ่งมั่นและพยายามมาโดยตลอด
'ทิซัง' ทิวาพล สังขพันธ์ ล่ามผู้ชิดใกล้นักเตะไทย เคยหล่นคำพูดไว้ในเชิงลึกเมื่อครั้งตั้งแต่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังค้าแข้งอยู่ในรั้ว ซัปโปโร โดม ถึงการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นของ มิไฮโล เปโตรวิช ที่เคี่ยวเข็ญเพลย์เมเกอร์ร่างเล็กอย่างหนักหน่วง จนผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมีประโยชน์มหาศาล
กุนซือชาวยูโกสลาเวีย ก็คงจะใช้วิธีการเดียวกันในการผลักดัน สุภโชค ไปให้ไกลที่สุด เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีศักยภาพมากเพียงใด
เปโตรวิช ค่อยๆ หยอดประสบการณ์ให้ทีละนิด ให้สัมผัสเกมทีละหน่อย จากนั้นก็เริ่มปรุงแต่งความเก่งกาจทีละน้อย กระทั่งตัวนักเตะเริ่มสุกงอมทั้งเรื่องระบบการเล่นและแท็กติกที่โค้ชพยายามใส่ลงไป
สุภโชค มีความว่องไวและความสามารถเฉพาะตัวสูงอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อเพิ่มเรื่องของความเข้าใจเกมลงไป มันจึงทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม
อาจจะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าเจ้าของเสื้อหมายเลข 49 ได้กลายเป็นผู้เล่นหลักของ ซัปโปโร ไปแล้ว เพราะยังมีสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์อีกมากมาย ไม่ใช่แค่ 2 เกมที่ผ่านมา แต่ด้วยฟอร์มแบบนี้ มันคือนิมิตหมายที่ดีสำหรับอนาคตข้างหน้า
'ปลดล็อก' คำๆ นี้คงจะเข้าเค้ากว่า
ดังนั้นการกลับมาช่วยทีมชาติไทย ในศึก คิงส์ คัพ 2023 มันจึงน่าสนใจว่า สุภโชค จะเฉิดฉายเพียงใด เพราะผลงานที่ญี่ปุ่น กำลังร้อนฉ่าเหลือเกิน
ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ รุ่นพี่ที่เคยค้าแข้งใน เจลีก ก็ยังอยู่ในทีมชุดนี้ น่าเสียดายก็แต่ ชนาธิป ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัว มิเช่นนั้นคงจะได้เห็นพวกเขาประสานงานกันอย่างลื่นไหลเป็นแน่
ด้วยเซ้นส์ฟุตบอลที่เหลือร้าย บวกเข้ากับความเก่งกาจที่เพิ่มพูนของ สุภโชค มันจึงทำให้ทัพช้างศึกทรงพลานุภาพยิ่งกว่าเก่า และหากสอดประสานกับบรรดาแนวรุกคนอื่นๆ ได้ลงตัว มันยิ่งน่าดู ยิ่งน่าชมเสียเหลือเกิน
คู่แข่งของทีมชาติไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายนก็แข็งแกร่งเสียด้วย แม้ว่าชื่อเลบานอน อาจจะดูไม่ดึงดูดนัก แต่อย่าลืมว่าพวกเขามีแรงกิ้ง ฟีฟ่า สูงกว่าเราอีก (อันดับ 100)
ดังนั้นมาตรฐานของ เดอะ เซดาร์ส จึงเหนือกว่าช้างศึกแน่นอน ซึ่งมันคือ 'บททดสอบ' ที่ดีว่าเราจะสามารถยกระดับได้หรือเปล่า และการที่ได้ สุภโชค ที่กำลังฟอร์มแจ่มมาช่วยทีม เขาจะสร้างความแตกต่างได้หรือไม่ มันคือเรื่องที่น่าติดตามจริงๆ
รอชม 'เช็ค' ให้ดี บางทีเขาอาจจะ 'ปล่อยของ' สำแดงฤทธิ์เดชจนเป็นที่จดจำของแฟนๆ ในศึก คิงส์ คัพ 2023 ก็เป็นได้
ชิกกะด้าว