ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ถือว่าเป็นช่วงโค้งสำคัญสำหรับการสร้างความหวังทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพราะมีโปรแกรมสำคัญในการลงเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง นอกจากนั้นรายการระดับทวีปยังมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย รายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ซึ่งตัวแทนสโมสรจากไทย ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ แบงค็อก ยูไนเต็ด จะลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม อัตโนมัติ ส่วน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ จะลงเล่นรอบเพลย์ออฟ
ห้วงเวลาที่ถือว่าโหดสุดขีดของนักเตะไทยและทีมชาติไทย คงเป็นโปรแกรมการแข่งขันตั้งแต่เดือน ก.ย.66-26 มี.ค.67 เพราะว่ามีโปรแกรมสำคัญไหลมารวมกัน แม้ว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะออกมายืนยันว่าการแข่งขันฟุตบอลีกจะเริ่มออกสตาร์ทฤดูกาล ในวันที่ 11 ส.ค.66 แต่ด้วยสถานการณ์ของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดอาจจะต้องช่วยพยุงสถานการณ์กับโปรแกรมการแข่งขันให้ควบคู่ไปกันได้ตามแผนเดิมที่วางไว้ เพราะหากอยากเห็นทีมชาติไทยประสบความสำเร็จต้องมีวินัยต่อโปรแกรมการแข่งขันทีกำหนดออกมา เนื่องจากกลุ่มนักเตะที่เล่นทีมชาติส่วนใหญ่ก็จะต้องลงทำหน้าที่ในการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรเอเชีย บวกกับนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก็ต้องลงทำการแข่งขันเอเซียน เกมส์ และ 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2024 รอบคัดเลือก รวมไปถึงโปรแกรมลีกในบางเดือนที่จะเข้ามาอัดแน่น ซึ่งเมื่อถึงสถานการณ์ของทีมชาติในเวทีฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย สภาพร่างกาย,ความพร้อม,อาการบาดเจ็บจะเข้ามาเป็นปัจจัยร่วม
โปรแกรมทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 (ก.ย.66 - มี.ค.67)