ฟุตบอลยช.17ปี..ทำดีที่สุดแล้วท่ามกลางอุปสรรคและปัญหา

ฟุตบอลยช.17ปี..ทำดีที่สุดแล้วท่ามกลางอุปสรรคและปัญหา
ทีมฟุตบอลเยาวชนไทยอายุไม่เกิน 17 ปี เคยไปบอลโลก 2 ครั้ง เป็นสองครั้งที่ติดต่อกันด้วยปี 1997 ที่อียิปต์ และปี 1999 ที่นิวซีแลนด์

ปี 1997 โค้ชคือ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน พาทีมไทยไปในฐานะ "รองแชมป์เอเชีย"

ไปถึงรอบสุดท้าย 3 นัดแพ้รวด 

แพ้อียิปต์ 3-2, แพ้ เยอรมนี 3-0, แพ้ชิลี 6-2  ตกรอบแรก

ต๋อม ทองดี คือนักเตะประวัติศาสตร์ ที่ยิงประตูแรกในบอลโลก น.30 เป็นลูกตีเสมออียิปต์ 1-1 ซะด้วย 

สุธี สุขสมกิจ เป็นนักเตะไทยที่ยิงประตูมากสุดในบอลโลก 2 ลูก (ยิงอียิปต์และ ชิลี) ส่วนอีกคน มนตรี มาตรง ที่ยิงตีเสมอชิลี 1-1 ก่อนแพ้ขาด 

นักเตะคู่แข่งที่เราเจอแล้วดังสุดในเวลาต่อมาคือ เซบาสเตียน ไดส์เลอร์ (เยาวชนกลัดบัค) เซบาสเตียน เคห์ล (เยาวชนฮันโนเวอร์) โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ (เยาวชนไกเซอร์)  ต่อมา ไดส์เลอร์ อยู่บาเยิร์น, เคห์ลและ ไวเดนเฟลเลอร์ อยู่ดอร์ทมุนด์ 

ส่วนของเราที่ก้าวมาติดทีมชาติไทยและมีชื่อเสียงในวงการก็มี กัปตันทีม ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น,  สุธี สุขสมกิจ,วัชรพงษ์ กล้าหาญ กระทั่งบุญคง อรรคบุตร ประตูมือสองเป็นนักข่าวสยามกีฬา ปัจจุบันคือโค้ชผู้รักษาประตู, อิสระ สีทะโร, บำรุง บุญพรหม, อภิเชษฐ์ พุฒตาล....

ปี 1999 โค้ชคือ "น้าติ๊ก" สมชาติ ยิ้มศิริ ไปในฐานะแชมป์ทวีปเอเชีย แต่นักเตะที่ใช้งานรอบคัดเลือก "อายุเกิน" พิภพ อ่อนโม้ ก็อยู่ในทีมนั้น ก่อนเปลี่ยนใช้นักเตะอายุไม่เกิน17 ปี

เราแพ้รวดสามนัดตกรอบแรก แพ้เมกซิโก0-4, แพ้สเปน 0-6,แพ้ กานา 1-7 สุริยะ อมตะเวทย์ ยิง

นักเตะคู่แข่งของเราที่ดังที่สุดในกลุ่ม เปเป เรนา และ มิคาเอล เอสเซียง 

นักเตะไทยก้าวมาติดทีมชาติและยิ่งใหญ่ในวงการหลายคนสุรีย์ สุขะ, สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย , สุริยะ อมตเวทย์,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ณัฐพร พันฤิทธิ์,ไกรเกียรติ เบียดตะคุ,ศักดา เจิมดี......

นั่นคือสองครั้งประวัติศาสตร์ที่นักเตะเยาวชนไทยไปฟุตบอลโลก

ส่วนครั้งล่าสุดนี้แม้เราจอดรอบ 8 ทีม เพราะเจอของแข็งอย่างเกาหลีใต้ กระนั้นหากดูผลงานของเราโดยเฉพาะนัดแพ้เกาหลีใต้ 1-4 

ผมว่าเราเล่นใช้ได้ทีเดียว...เล่นเอาเกาหลีใต้ ป่วนไปพักใหญ่ๆ 

จริงอยู่สกอร์ 4 ลูกมันโหดร้าย แต่วิธีการเล่น, เกมแพลน ของเรา ผมคิดว่า "สู้ได้" ไม่ใช่ "ได้สู้"

มีทิศทางที่ดีแม้ว่า....สมาคมฟุตบอลไม่ค่อยใส่ใจพัฒนาทีมเยาวชนก็ตาม

55555

วิเคราะห์ไทยแพ้ เกาหลีใต้

มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมขอวิเคราะห์ให้อ่านกัน เริ่มจากเกาหลีใต้ก่อนเลย

เกาหลีใต้ชุด ยู 17 คุมทีมโดยโค้ช  บยุน ซอง ฮวาน  อดีตนักเตะเคลีก ทีมนี้เล่นระบบ 4-3-3  พวกเขามีผลงานดังนี้ ชนะสองแพ้ 1 

11 คนแรกที่เป็นชุดหลักของ โค้ช บยุน ซอง ฮวาน ...

ผู้รักษาประตู ; ฮง ซอง มิน (โปฮัง) 

กองหลัง ;  ฮวัง จี ซอง (อินชอน) ,คัง มิน วู (อุลซาน), ยู มิน จุน (ซงนัม), อี ชาง วู (ร.ร.มัธยม โซล โบ อิน)

กองกลาง ; แบ้ค อิน วู (ศูนย์ฟุตบอลยงจิน), ลิม ฮยอน ซุบ (ซูวอน) , จิน แต โฮ (ชนบุค)

กองหน้า ; ยุน โด ยอง(แดชอน), คิม มยอง จุน (โปฮัง), ยาง มิน ฮยุค (กังวอน)

สำรอง ; แบ๊กซ้าย อี ซู โร (ชนบุค) ,แบ๊กขวา ซอ จอง ฮยอค (ชนบุค), คิม ฮยอน มิน (ร.ร. เทคนิคยงดึงโพ) คิม ซอง จู (ซูวอน) , อี แจ ฮวาน  (อินชอน ยูไนเต็ด)

เกาหลีใต้ใช้นักเตะ 22จาก 23 คนที่เตรียมมาแข่งขันครั้งนี้ แต่ตัวหลักๆ ที่ลงเล่นสี่นัดมี 8 คน แต่ลงไม่เต็มเกม นอกนั้นสลับกันเล่นอีกสามสี่คน โดยเฉพาะนัดแพ้อิหร่าน ที่ตั้งใจเล่นไปตามเกมเพื่อเป็นอันดับสองของกลุ่ม

ส่วนทีมไทยของเรานั้น โค้ชพิภพ อ่อนโม้ แทบไม่เปลี่ยนทีมเลย หนึ่งหรือสองตำแหน่งเท่านั้น ทีมไทย ชนะสปป ลาว 2-1 ชนะมาเลเซีย 3-0 ชนะ เยเมน 1-0 จาก

โค้ช ; พิภพ อ่อนโม้ ระบบ 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู ; ธฤษณุ คุปตะนาวิน

กองหลัง ; ชนสรณ์ โชคลาภ,  จิรพงค์ แช่มสกุล , ธนกฤต ล้อมนาค,  สุรชัย บุญชารี

คู่กลาง ;  พัชรพล เหล็กคุณ,  นที ตามประดับ

3กลางรุก ;  ธีรภัทร ปรือทอง,  ดุษฏี บูรณะจุฑานนท์,  พงศกร สังคโสภา 

หน้าเป้า  ;  ชโนทัย คงเหม็ง

แล้วอะไรทำให้ทีมไทยแพ้เกาหลีใต้

1 สมาธิ +การป้องกันลูกตั้งเตะ.....ทั้ง 2 ลูกที่สำคัญในการเล่นเลยครับ โดนง่ายๆ  

ประตู 1-0 ทั้งสมาธิในห้านาทีแรกที่ต้องเข้มข้น และการป้องกันลูกฟรีคิก จะแบบคุมโซน หรือ คุมคน ก็ต้องไม่ปล่อยให้ คัง มิน วู ขึ้นโขกง่ายๆ ไม่มีใครประกบ เต็มกบาลแบบนั้น 

ประตู 2-1 น. 37 การเปิดฟรีคิก อินสวิง ครอสเข้ามา เป็นดุษฏี กลางเชิงรุกประกบผู้เล่นเกาหลี โดยที่พื้นที่มันก็กั๊กกับ นายประตู ธฤษณุ อีก ตรงนี้...มันคืองานละเอียดของเราในการป้องกัน

พอพลาด...โดนลงโทษ

การเสียเสียลูกสามและสี่ ก็มาจากเรื่องสมาธิในเกมที่หย่อนไปจากเดิม อย่าง....ประตู 3-1 มาจากจังหวะที่เราเหลือสิบคนเพราะปฐมพยาบาล ทำให้การจัดระเบียบเกมรับดูไม่ลงล้อคเท่าไหร่ โดนยิงง่ายๆ ทั้งที่นายประตู ธฤษณุ เซฟ ออกมาได้แล้ว แต่กลับโดนยิงซ้ำดาบสอง ในแบบที่ มีคนคุมเส้น หรือมีเวลาให้เข้ามาบลอคได้ทัน

หากย้อนไปดูก่อนการเปิดบอลเข้าในเขตโทษของเบอร์สิบ จิน แต โฮ เรามีผู้เล่น 7 คน เกาหลีมี 4คน แต่ 7 คนของเราไปอยู่มุมเขตโทษซะ 3 หน้าเส้นโทษ 1 ตรงบริเวณจุดโทษ 3 และเป็น 3 ต่อ 4 กับเกาหลีใต้ 

การป้องกันของเราเหลือ 3 เขามี 4 คนเสื้อสีแดงงงง 

แล้วมันจะเหลืออะไร 

แต โฮ เปิดผ่าน ธนกฤต เข้ามาแถวจุดโทษ จังหวะนั้น กัปตันทีมของเขา คัง อิน วู วิ่งพา จีระพงษ์ แช่มสกุล ไล่ตาม เพื่อเปิดที่ว่างข้างในจุดโทษ เขามีเบอร์ 8 แบค อิน วู ได้ยิงโล่งๆ ติดเซฟ ธฤษณุ บอลกระดอนกลับมา ดาบสอง ยุน โด ยอง ปีกตัวเก่งซ้ำ ติดหน้าแข้ง สุรชัย แฉลบเข้าประตู

สมาธิก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ส่วนประตู 4-1 ผมมองว่าเป็นของแถมที่ คิม ฮยอน มิน ตัวสำรองของเขาลงมายิงอย่างสุดสวยเสียบมุม โดยมีนักเตะเราอยู่หน้าเขตโทษกันหลายคน

2 ยืนระยะไม่ได้.... ผมว่าวิธีการเล่นของเรา 1 ชั่วโมงเต็มกับการเล่น เพรสแดนสองทำได้ดี เล่นเอาเกาหลีใต้ ต้องเตะทิ้ง เตะขว้าง แล้วเราได้บุกเข้าหาแดนสาม ก็อาจเป็นแทกติกที่โค้ช ซอง ฮวาน หาจังหวะสวนกลับด้วย แต่เรากดดันได้ดีนะครับ นักเตะทุกคนใจสู้ ไล่บอลกันดีจริงๆ

เพียงแต่บางทีพอเราผ่อนลงหรือไม่กดดันต่อเนื่อง พวกเขามีจังหวะได้เล่นเกมขึ้นมาบ้าง เขาลงโทษเราได้เลย ซึ่งก็ย้อนไปดูข้อสองนั่นแหละ สมาธิ ในการเล่น หย่อนหรือผ่อนเกมไม่ได้เลย

3 ยิงประตูไม่เด็ดขาด....อันนี้ผมว่ามีส่วนเลยนะครับ เพราะเรามีโอกาสแบบชัดๆ ทั้งจังหวะยิงเผาขนของ จีระพงค์ โดนเต็มหน้านายประตู  ซอง มิน จนต้องปฐม พยาบาล หรืออีกสองจังหวะเน้นๆของ ชโนทัย ยิงแป้ก ข้ามคานระยะ 5หลา และขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ ข้ามคาน

บอลระดับทวีป...ขอให้มีโอกาสต้องยิงให้เข้าประตู

ยิ่งเกมไม่ต่างหรือเหนือกว่ากันมาก การได้ประตู "ช่วย" สร้างความแตกต่างทั้งการเล่นและสภาพจิตใจ

มันน่าเสียดายจากเกมที่สกอร์ออกมาขาดแต่ไม่สะท้อนผลงานในสนามซะทีเดียว ที่เราต้องยอมรับคือคุณภาพนักเตะเกาหลีใต้ แต่โอเค โค้ชและนักเตะเราทุกคนทำหน้าที่ได้น่าประทับใจครับ

สภาพจิตใจ....เกินร้อยครับ นักเตะชุดนี้วิ่งและสู้กันได้ดี ไม่มีลนลานหรือถอดใจ 

โค้ชพิภพ อ่อนโม้  วางแผนมาแล้วก็เล่นได้ตามแผน การรับแดนสอง..การหาโอกาสโต้กลับ มันก็ได้ประตู แล้วอย่างว่าแหละ เราเสียประตูเร็ว และเป็นการเสียลูก "ตั้งเตะ" สองลูก อันนั้นก็เป็นส่วนรับผิดชอบเรื่องการป้องกัน แต่การวางเกมแพลนที่วิธีการเล่นโดยภาพรวม เกาหลีใต้ต้องใช้เวลา 70 นาทีจึงได้ประตูจากโอเพ่น เพลย์ ลูกตัดสินเกมคือ 3-1 ตรงนี้ก็นับว่าเป็นผลงานด้วย 

เพียงแต่เล่นบอลระดับทวีป คงต้องงานละเอียดในทุกวินาที เพราะคู่แข่งเขามี"คุณภาพ" พร้อมลงโทษเรา

พอพลาดแล้วเอาคืนยากอยู่ 

สิ่งที่ต้องยอมรับว่า....นี่ขนาดการพัฒนาบอลระดับเยาวชนของเราไปแบบเรื่อยเปื่อย แต่บุคลากรของเราทั้งโค้ชและนักเตะยังพอมีวี่แววที่จะทำให้แฟนบอลภาคภูมิใจ แล้วถ้าหากองค์กรผู้รับผิดชอบหันมาวางรากฐานพัฒนาแบบจริงจัง ตั้งใจ เพราะนี่คือฐานรากพีระมิดบอลไทย ที่ต้องมั่นคงแน่นหนา เป็นพื้นฐาน เป็นโครงให้เราต่อเติมทีละชั้นจนถึงส่วนยอด

มันจะไปได้ดีกว่านี้มั้ย.....

สุดท้ายขอบคุณ โค้ชพิภพ อ่อนโม้ และหลานๆ นักเตะทุกคนที่ทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ท่ามกลางอุปสรรค ปัญหาในการพัฒนาบอลระดับเยาวชนของประเทศนี้

JACKIE


ที่มาของภาพ : siamsport
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport