สุดจะทนคนกลุ่มนี้! ส.บอลไทย รวบรวมหลักฐานหาคนมือบอนจุดพลุแฟร์มาลงโทษ ยันผิดกฎหมายมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง โทษปรับ 5 หมื่น จำคุกไม่เกิน 5 ปี พร้อมร่วมมือสื่อมวลชนขอรูป-วิดีโอ และเช็กกล้องวงจรปิด ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอาผิดแน่
จากกรณีหลังจบเกมในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2023 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา เกมที่ทีมชาติไทย แพ้ เกาหลีใต้ 1-4 ขณะที่นักเตะไทย เดินไปขอบคุณแฟนบอล มีกลุ่มกองเชียร์หนึ่งกลุ่ม ได้มีการจุดพลุแฟลร์บนอัฒจันทร์และโยนลงมาในสนาม
ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้นักเตะไทยต้องเดินกลับห้องพักทันที แถมยังถูกแฟนบอลกลุ่มนั้นตะโกนตะโกนด่าทออีกด้วย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เอเอฟซี ได้มีการลงมาบันทึกวิดีโอเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด และเตรียมนำกลับมาพิจารณาบทลงโทษแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ไทยเป็นหนึ่งในชาติที่อยู่ในลิสต์ของ "เอเอฟซี" ที่ถูกคาดโทษอีกทั้งเคยถูกลงโทษปรับเงินจากเหตุแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนามมาแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ได้รับการเปิดเผยจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ยื่นยันว่า "สมาคมฯ เตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่จุดพลุแฟลร์ให้ถึงที่สุดเนื่องจากการจุดพลุและครอบครองพลุแฟลร์ มีความผิดฐานมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
"โดยตอนนี้สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวในสนาม เพื่อขอรูปถ่ายหรือวีดีโอเกี่ยวกับการกระทำผิดของกลุ่มข้างต้น ก่อนที่สมาคมฯ จะรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอาผิด รวมถึงยังมีการหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาคนที่จุดพลุแฟลร์ด้วยมาดำเนินคดี"
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎการแข่งขัน ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะถูกปรับเงินมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน รวมทั้งอาจถูกห้ามการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการในระดับ "เอเอฟซี" อีกด้วย