คิงส์ คัพ ครั้งที่ 48 จบลงไปกับอันดับ 3 ของทีมชาติไทย ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอ 'ตัดเกรด' แข้งช้างศึกในทัวร์นาเมนต์นี้ให้คุณได้อ่านกัน!!
ผู้รักษาประตู
กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (B)
ได้ลงสนามในเกมแรกกับมาเลเซีย และประตูที่โดนยิงไปนั้นถือว่าหมดสิทธิ์ป้องกันจริงๆ ส่วนที่เหลือจอมหนึบจาก ราชบุรี เอฟซี ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ทว่าน่าผิดหวังเล็กน้อยในช่วงการดวลลูกจุดโทษที่เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้
กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก (B+)
ประตูที่เสียให้ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ถือว่าหมดสิทธิ์ป้องกัน แต่ฟอร์มการเซฟในจังหวะสำคัญช่วงท้ายเกมนั้นถือว่ายอดเยี่ยมและทำหน้าที่ได้สมกับความไว้วางใจ
กองหลัง
ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (B+)
ประเดิมลงสนามในนามทีมชาติไทย เป็นครั้งแรกได้อย่างน่าดูชม ไม่มีอาการตื่นเกร็งหรือเตะโฉ่งฉ่าง อีกทั้งยังรักษามาตรฐานของตนเองต่อจากระดับสโมสรได้ดีเยี่ยม
ธีราทร บุญมาทัน (A)
เติบโตเป็น 'พี่ใหญ่' ของทีมอย่างเต็มตัว อารมณ์ฉุนเฉียวแทบไม่มีให้เห็น เหลือเพียงแพสชั่นระหว่างเกมเท่านั้น แม้ว่าลูกครอสจากด้านข้างจะไม่แผลงฤทธิ์เดช แต่การมี ธีราทร อยู่ในสนามนั้นทำให้คนที่รายล้อมต่างอุ่นใจ
ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (B)
ได้โอกาสเต็มๆ ใน 90 นาทีของนัดพบตรินิแดด และก็มีผลงานที่พอใช้ได้ โดยเฉพาะการเติมเกมรุกอันเป็นจุดเด่นและเกือบได้หลุดไปทำประตูอีกต่างหาก
นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (B)
แม้ว่าจะไม่โดดเด่นเหมือนเล่นให้กับสโมสร ทว่าโดยรวมแล้ว นฤบดินทร์ ยังมีผลงานในระดับมาตรฐานของตนเอง รับเหนียวแน่น รุกเติมสุดเส้น ซึ่งจุดนี้นี่แหละจะทำให้เขาครองตำแหน่งนี้ไปอีกยาวๆ
พรรษา เหมวิบูลย์ (B)
ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมตามที่ได้รับมอบหมาย แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้ทีมผ่านสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จก็ตาม แต่โดยรวมยังถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานของตนเอง และยังมี 1 ประตู ให้กับทัพช้างศึกอีกด้วย
กฤษดา กาแมน (A)
เป็นคนเดียวทั้งทัวร์นาเมนต์ที่เล่นครบ 90 นาที ทั้ง 2 นัด ซึ่งนั่นบ่งบอกได้ชัดเจนว่า กฤษดา ได้ก้าวมาเป็นตัวหลักของทัพช้างศึกอย่างเต็มตัว อ่านเกมเฉียบขาด เข้าสกัดหลักแหลม อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยอยู่พอสมควรว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาคือเซนเตอร์ฮาล์ฟหรือกองกลางกันแน่
เฉลิมศักดิ์ อักขี (B)
น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกในเกมเผชิญหน้ากับตรินิแดด แต่ตลอด 63 นาทีในสนาม เฉลิมศักดิ์ พยายามโชว์ฟอร์มอย่างสุดความสามารถ เข้าบอกทุกจังหวะ ซึ่งนั่นเป็นที่มาที่ทำให้เขาถูกผู้เล่นทีมเยือนย่ำใส่นั่นเอง
กองกลาง
สุภโชค สารชาติ (A)
ไม่ต้องนับลูกจุดโทษที่พลาดไปแล้ว เพราะผลงานตลอดทั้ง 2 เกมของแนวรุก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ถือว่าจัดจ้านจี๊ดจ๊าดจริงๆ และนับจากนี้ต่อไป เขาได้กลายเป็นนักเตะที่ทีมชาติไทย จะขาดไม่ได้อีกแล้ว
สุมัญญา ปุริสาย (B)
ถูกเรียกตัวเข้ามาเป็นคนสุดท้าย แต่กลายเป็นคนแรกที่ได้ลงสนามในฐานะตัวสำรอง พร้อมกับทำไป 1 แอสซิสต์ กับการวางฟรีคิกงามๆ ไปเข้าหัว พรรษา เหมวิบูลย์ ที่โหม่งตีเสมอมาเลเซีย ในวินาทีสุดท้าย
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (C)
แม้จะเป็นนักเตะที่เต็มที่เสมอทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ทว่าเกมในครึ่งแรกของไทย กับมาเลเซีย - ฐิติพันธ์ ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับมาตรฐานที่ตกลงของทัพช้างศึก โทษฐานที่เป็นพี่ใหญ่ในแผงมิดฟิลด์ แต่กลับไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก อีกทั้งยังจ่ายบอลผิดพลาดอยู่พอสมควร
จักรพันธ์ แก้วพรม (B)
กัปตันทีม ราชบุรี ยังคงใส่เต็มเหนี่ยวเสมอเมื่ออยู่ในสนาม แม้จะอยู่ในสนามเพียง 65 นาที แต่แววตาของ จักรพันธ์ แสดงออกมาชัดเจนว่าเขาพร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่อทีมชาติไทย
บดินทร์ ผาลา (C)
เป็นอีกหนึ่งคนที่มาตรฐานของตนเองตกลงในเกมครึ่งแรกกับมาเลเซีย เพราะไม่สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้เลย จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และก็ไม่ได้เล่นอีกเลย
วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (B+)
มิดฟิลด์จาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังเอาตัวรอดและมีการจ่ายบอลสวยๆ ได้เหมือนเคย ทว่าเกมในครึ่งแรกที่ไทย ตกเป็นรองมาเลเซีย แบบชัดเจน เขาเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบเช่นกัน
ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (B)
ได้ลงสนามทั้ง 2 นัด ในฐานะตัวสำรอง และก็สามารถสร้างความแตกต่างได้พอตัว โดยเฉพาะเกมรุกที่มีมิติหลากหลายขึ้น ยามที่ ปฐมพล ได้ลากเลื้อย
พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (B)
เกมแรกกับมาเลเซีย ได้ลงมาครึ่งหลังและก็เข้ามาเป็นคนเก็บจังหวะสองให้ได้เนียนตา ก่อนจะได้ลงครบ 90 นาที ในแมตช์เฉือนตรินิแดด 2-1 ซึ่งก็ถือว่าทำหน้าที่ของตนเองได้ตามแท็กติกที่โค้ชวางไว้
ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ติด ร.- ในที่นี้ หมายถึงรอทัวร์นาเมนต์หน้านะจ๊ะ)
ได้เล่นเพียง 14 นาที และถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะได้รับบาดเจ็บ ต้องพักการเรียน จึงยังไม่มีคะแนน รอ (ร.) ทัวร์นาเมนต์หน้า หวังว่าดาวเตะเลือดนักสู้จาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จะฟิตกลับมานำทัพอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง แฟนๆ ช้างศึก เป็นกำลังใจให้กัปตันเจเสมอ
พิชา อุทรา (C)
ได้อยู่ในสนามราวๆ 25 นาที และก็มีผลงานพอใช้ ครองบอลเหนียวแน่น เล่นง่าย แต่ด้วยความที่มีเวลาน้อยมาก จึงยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า พิชา ควรจะได้เกรดอะไร
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (A)
1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ในการประเดิมสนามในนามทีมชาติ ถือเป็นการเปิดตัวอันสวยหรูของเด็กหนุ่มวัยเพียง 21 ปี ที่ทำให้แฟนฟุตบอลชาวไทย ได้หัวใจพองโตกับเซ้นส์ลูกหนังอันเหลือร้าย บวกกับมันสมองที่ชาญฉลาด ซึ่งต่อจากนี้ไปมั่นใจได้เลยว่าเขาจะเป็นขาประจำของทัพช้างศึกไปอีกยาวๆ
กองหน้า
ศุภชัย ใจเด็ด (C)
โดดเดี่ยวเกินไปในเกมกับมาเลเซีย ซึ่งทำให้แทบไม่สามารถคุกคามแผงหลังของคู่ต่อสู้ได้เลย และเมื่อเทียบความหวังที่แบกอยู่บนบ่า ถือว่า ศุภชัย ยังต้องเรียนรู้อีกพอสมควร แต่นั่นเป็นบทเรียนที่เขาจะได้นำไปพัฒนาต่อในอนาคต ซึ่งด้วยอายุเพียงเท่านี้ ยังมีเวลาอีกเพียบที่จะเก่งขึ้นไปอีก
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (B)
หากไม่นับจังหวะหลุดเดี่ยว 2 ครั้ง ในเกมกับมาเลเซีย เขาน่าจะได้เกรด A ไปแล้ว กับความทุ่มเทให้ทีมชาติ บวกกับพรสวรรค์ที่รอวันปะทุ - คิงส์ คัพ หนนี้ ศุภณัฏฐ์ ทำให้แฟนๆ ใจชื้นตรงที่ว่ายังมีอนาคตที่สดใสของเขารอให้คุณได้เชียร์กันยาวๆ
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (C)
เด็กหนุ่มวัย 20 ที่ถูกเรียกติดทัพช้างศึกชุดใหญ่เป็นหนแรกและก็ได้เล่นราวๆ 25 นาที ซึ่งก็มีจังหวะหวือหวาอยู่บ้าง แต่ด้วยเวลาที่น้อยนิด จึงยังมองอะไรได้ไม่มาก